นายโชคชัยปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจและรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ปีนี้มั่นใจว่าผลประกอบการจะกลับมามีกำไร และไม่ขาดทุนเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมาขาดทุนประมาณ 12,000 ล้านบาทเนื่องจากมีภาระรับต้นทุนสูงมากโดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีการเติบโตของรายได้ประมาณ 3-4% เทียบจากปีก่อนและยืนยันความปลอดภัยผู้โดยสารซึ่งอยู่ในระดับสากล ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถดูแลได้ตามกฎมาตรการของกรมการบินพลเรือนอย่างแน่นอน   ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ปรับลดเที่ยวบิน ในช่วงเดือนต.ค. 56 – ม.ค. 57 เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงานในไตรมาส 2เฉลี่ย 3-4% เนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลง ซึ่งปกตินักท่องเที่ยวชาวจีนคิดเป็นสัดส่วน 40% ของปริมาณผู้โดยสารทั้งหมด และคาดว่าไตรมาส 2 นักท่องเที่ยวจากจีนจะทยอยกลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทย เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายลง   นอกจากนี้การบินไทยได้จัดพิธีเจิมเครื่องบิน โดยสมเด็จพระมหามุนีวงศ์เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นประธานในพิธีเจิมเครื่องบิน รุ่นที่ทันสมัยที่สุดจำนวน2 ลำ ได้แก่ แอร์บัส เอ 330-300 มีนามพระราชทานว่า “สมุทรปราการ”บรรทุกผู้โดยสารได้ 299 ที่นั่ง และโบอิ้ง 777-300อีอาร์ มีนามพระราชทานว่า “เมทินีนาถ”บรรทุกผู้โดยสารได้ 348 ที่นั่ง หลังได้รับมอบมาเมื่อปีที่แล้ว โดยทั้ง 2ลำให้บริการเส้นทางภูมิภาคและเส้นทางบินข้ามทวีป ส่งผลให้ปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-300อีอาร์ รวม 27 ลำ เครื่องบินโบอิ้ง777-300อีอาร์  รวม 9 ลำ และ แอร์บัส เอ 380 ใหญ่ที่สุด รวม 6 ลำ   “ เครื่องแอร์บัส เอ330-300 จะนำมาใช้บินส่วนภูมิภาค รวมถึงจีน ญี่ปุ่นและอินเดีย ที่บิน 4-6 ชั่วโมง ส่วนโบอิ้ง777-300 ถือเป็นเครื่องที่ทันสมัยที่สุดมีประสิทธิภาพในการเผาพลาญน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยเทคโนโลยีมีความทันสมัยมีการพัฒนาไปสูงมาก ส่วนประสิทธิภาพในการบรรทุกผู้โดยสาร348-350 คน  เป็นเครื่องพิสัยไกลโดยจะใช้ในเส้นทางระหว่างยุโรปและออสเตรเลียโดยทั้ง 2 ลำ ถือเป็นความภาคภูมิใจของการบินไทย นอกจากแอร์บัส เอ380ที่ใหญ่ที่สุดแล้ว ดังนั้นทั้ง 3 รุ่นที่ให้บริการของการบินไทยขณะนี้ถือว่าทันสมัยที่สุดและในเร็วๆนี้จะมีการรับเครื่องโบอิ้ง 787 มาเสริมทัพต่อไป”  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บินไทยฝันปีนี้กำไร

Posts related