นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่าท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ที่บมจ.ปตท. จะแยกเป็นบริษัทใหม่ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เมื่อวันที่ 15 ส.ค.นั้น จะเป็นทรัพย์สินเฉพาะในส่วนที่ บมจ.ปตท.เป็นเจ้าของเท่านั้นส่วนทรัพย์สินที่เป็นของกระทรวงการคลังซึ่งถือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และ ปตท.ได้แบ่งแยกคืนให้กับกระทรวงการคลังตามคำพิพากษาบริษัทท่อใหม่จะต้องไปทำสัญญาใช้ทรัพย์สินดังกล่าว โดยจ่ายค่าตอบแทนให้กรมธนารักษ์กระทรวงการคลังต่อไปอย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการศาลปกครองสูงสุดได้มีคำวินิจฉัยกำหนดหลักเกณฑ์ให้บมจ.ปตท. ต้องคืนทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอันเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจาก การใช้อำนาจมหาชนของรัฐ เวนคืนสิทธิเหนือที่ดินของเอกชน และการใช้เงินลงทุนของรัฐ สมัยเป็นการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยโดยทรัพย์สินส่วนนี้ ปตท.ได้ดำเนินการโอนคืนให้ภาครัฐตั้งแต่ปี51 โดยไม่รวมถึงท่อในทะเลซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีบันทึกยืนยันว่า ปตท. คืนทรัพย์สินตามคำพิพากษาครบถ้วนแล้วซึ่งส่วนทรัพย์สินที่ส่งมอบให้กรมธนารักษ์นั้น ปตท. ได้ทำสัญญาให้ใช้ฯโดยได้จ่ายค่าตอบแทนให้แก่กรมธนารักษ์ต่อเนื่อง“การโอนทรัพย์สินไปยังบริษัทท่อส่งก๊าซใหม่จะเป็นการโอนทรัพย์สินในส่วนที่ ปตท. เป็นเจ้าของในปัจจุบันแต่ทรัพย์สินในส่วนที่รัฐเป็นเจ้าของกระทรวงการคลังก็ยังคงสิทธิในความเป็นเจ้าของเช่นเดิม ซึ่งบริษัทที่ตั้งใหม่ต้องทำสัญญาให้ใช้ฯกับรัฐเช่นกัน ซึ่งการแยกท่อก๊าซ ฯ เป็นการสร้างธุรกิจเสรีอย่างแท้จริงลดความกังวลเรื่องการผูกขาดซึ่งการแยกบริษัทท่อฯออกมาจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ทุกคนสามารถใช้บริการขนส่งก๊าซทางท่อได้อย่างเท่าเทียมกันภายใต้การกำกับดูแลจากองค์กรกำกับกิจการของรัฐในอัตราค่าใช้บริการที่เหมาะสมเป็นธรรม”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ปตท.ยันแยกท่อฯคืนคลังแล้ว

Posts related