ไม่แปลกหากจะเรียกว่า “ยุคสังคม ก้มหน้า” เนื่องจากตัวเลขพฤติกรรมผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยปี 2557 เฉลี่ยสูงถึงวันละ 7.2 ชั่วโมง หรือคนใช้เวลาเกือบ 1 ใน 3 ของวันเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต ส่วนใหญ่ใช้งานบนสมาร์ทโฟน ที่แลกมาพร้อมกับภัยสุ่มเสี่ยงความไม่ปลอดภัย นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA (สพธอ) ระบุว่า พฤติกรรมคนใช้งานสังคมออนไลน์สูงขึ้น โดยจากผลสำรวจพบว่า เฟซบุ๊ก ครองอันดับ 1 ส่วนรองลงมาคือ ไลน์ กูเกิลพลัส อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ การเติบโตของพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ มาพร้อมกับสุ่มเสี่ยงการเกิดมิจฉาชีพ เมื่อการพูดคุยถูกเปลี่ยนมาสู่กิจกรรมด้านข้อมูล เช่น เช็กอินผ่านเฟซบุ๊กเพื่อบอกว่าทำอะไร ที่ไหน การแชร์ คือ โพสต์ภาพ แชร์ภาพที่เป็นส่วนตัวในพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะการเซลฟี่ หรือการถ่ายรูปตัวเอง เปิดเผยพิกัดหรือสถานที่ให้เป็นสาธารณะที่คนอื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ นอกจากนี้พฤติกรรม ไม่เคยเปลี่ยนรหัสผ่านทุก ๆ 3 เดือนสูงถึง 75% การให้ข้อมูลส่วนตัวต่อเว็บไซต์ที่ใช้บริการ ไม่กำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูล ไม่อ่านเงื่อนไขการให้บริการ ไม่ตรวจสอบสอบการแชร์ ส่งต่อภาพ ข้อความ ว่ามาจากแหล่งใดก่อน และสุดท้ายที่ไม่ควรไว้วางใจคือ การบอกรหัสผ่านให้กับผู้อื่นทราบ ที่ล้วนแต่สุ่มเสี่ยงต่อการจับตามองของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่แฝงตัวอยู่บนโลกออนไลน์ เพื่อหวังทรัพย์สิน เงินทอง หรือแม้กระทั่งชีวิตในขณะที่การใช้งานอินเทอร์เน็ต อย่างการช้อปสินค้าออนไลน์สั่งซื้อผ่านสมาร์ทโฟน มี 38% แต่กลับมีการทำธุรกรรมโอนเงินเพื่อชำระสินค้ามีเพียง 29% ซึ่งอาจเป็นตัวการันตีได้ว่า ผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจในระบบความปลอดภัยด้านชำระค่าบริการ ส่วนพฤติกรรมช้อปออนไลน์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง คือ ซื้อสินค้าและบริการที่แพง จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต ส่วนคนที่ซื้อสินค้าและบริการราคาถูกจะโอนเงินผ่านธนาคาร ส่วนคนที่ชอบโอนเงินมากกว่า 50,000 บาท ได้ทำธุรกรรมผ่านมือถือ โดยเข้าผ่านหน้าเว็บไซต์ของธนาคารมากกว่าการเข้าจากแอพพลิเคชั่น ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งการถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้บอกเลขที่บัตรเครดิต หรือเลขที่บัญชีธนาคารผ่านเว็บไซต์ที่ทำเลียนแบบ อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ใช้งานตรวจสอบอย่างละเอียด ขอให้สังเกตตัวอักษร สี ต่าง ๆ เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพพวกนี้ที่ทำเลียนแบบได้เหมือนมาก และให้ตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัยในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เนื่องจากแนวโน้มการซื้อออนไลน์มีอัตราสูงขึ้น แม้จะถูกเรียกว่า “สังคมก้มหน้า” แต่สิ่งที่ยุคนี้ต้องพึ่งระวังถึงความปลอดภัยการใช้งาน เนื่องจากเมื่อเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต โซเชียล มีเดีย เติบโตมากเท่าไหร่ อาจจะเป็นช่องว่างให้กลุ่มมิจฉาชีพหากินได้ง่าย. สุรัสวดี สิทธิยศ
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พฤติกรรมใช้เน็ตของคนไทย ก้มหน้าบนมือถือวันละ7ชม.
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs