นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญา และกรมการค้าภายใน จัดทำพิมพ์เขียว “นวัตกรรมการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน” ที่มุ่งเน้นการขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนให้หลากหลาย พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีตัวแทนการค้าสร้างกลยุทธ์การตลาด ส่งเสริมภาพลักษณ์และตราสินค้า เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ชุมนุมที่อยู่ในเป้าหมาย ได้แก่สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) กลุ่มสินค้าออแกนนิก ที่มุ่งส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ กลุ่มสินค้าฮาลาล เพื่อเจาะตลาดผู้บริโภคชาวมุสลิม กลุ่มสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ที่มีลักษณะพิเศษ และมีชื่อเสียงในแต่ละพื้นที่ เบื้องต้นจะมีสินค้าเป้าหมาย 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์คือ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ,กลุ่มของขวัญ ของชำร่วย, กลุ่มของใช้ ของตกแต่งบ้าน, กลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรสปา ที่เชื่อมโยงด้านสุขภาพและสังคมผู้สูงวัย และสุดท้าย คือ กลุ่มเสื้อผ้าเครื่องประดับ มีเป้าหมายรวม 3,000 รายพิมพ์เขียวของกระทรวงฯจะเน้นการจัดทำฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ชุมนมอย่างครบวงจร โดยจะมีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ฐานข้อมูลผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และจะมีศูนย์ฝึกอบรมผู้ประกอบการ เพื่อเข้าสู่ระบบการตลาดศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานของสินค้า ให้ตรงตามความต้องการของตลาด รวมถึงศูนย์ให้คำปรึกษา แนะนำการแก้ไขปัญหาเป็นรายกรณี เพื่อยกระดับสินค้าให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศ“จะเน้นการเพิ่มประโยชน์การใช้งาน การสร้างเรื่องราว การปรับภาพลักษณ์ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนการพัฒนาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นมีความแตกต่างโดยนักออกแบบไทยที่ได้รับการพัฒนาให้มีฝีมือระดับสากลจะสามารถสนองตอบหรือกระตุ้นความต้องการซื้อของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้ “นางศรีรัตน์ กล่าวว่า สำหรับการเพิ่มช่องทางการค้าขาย กระทรวงฯ จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำผลิตภัณฑ์ชุมชนไปจำหน่าย เช่นร้านค้าในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานที่สำคัญในแต่ละภาค ย่านการค้าจังหวัดต่าง ๆ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มุมสินค้าในห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีกสมัยใหม่ และยังกระจายไปยังร้านค้าส่ง ร้านค้าปลีกดั้งเดิม รวมทั้งร้านค้าธงฟ้า เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนกระจายออกไปอย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่นอกจากนี้ จะนำระบบออนไลน์มาช่วยในการค้าขายโดยจะเปิดเว็บไซต์ www.thaicommercestore.com เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมร้านค้าออนไลน์ของผู้ประกอบการ และช่วยเพิ่มช่องทางในการค้าขายให้ผู้ผลิต ขณะเดียวกันจะสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน ที่จะเปิดร้านค้าออนไลน์ Thai Commerce Shop บนตลาดกลางและร้านค้าออนไลน์ของธุรกิจรายใหญ่ ที่เป็นที่นิยม และยอมรับของผู้บริโภคอีกทางหนึ่งด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์ปั้นพิมพ์เขียวโอทอปชุมชน

Posts related