นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าขณะนี้กรมได้ส่งเงินจากการระบายสต็อกข้าวสารรัฐบาลคืนให้กับกระทรวงการคลังแล้วกว่า 15,000 ล้านบาทและภายในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะส่งเงินคืนเพิ่มอีก 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งจะครบตามจำนวน 20,000 ล้านบาท ที่ยืมมาจ่ายค่าข้าวให้กับชาวนาหรือสามารถใช้เงินคืนได้ก่อนเดือน พ.ค. 57 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้กำหนดไว้ “หลังจากนั้นเงินที่ได้จากการระบายข้าวจะเร่งส่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าข้าวชาวนาที่ยังค้างอยู่อีก 90,000 ล้านบาทซึ่งจะพยายามหาเงินมาจ่ายคืนชาวนาให้ครบภายในสิ้นปีนี้หรือถึงต้นปีหน้าโดยประมาณการณ์จากการขายข้าวได้เงินเฉลี่ยเดือนละ 10,000 ล้านบาท” สำหรับการระบายสต๊อกข้าวสารรัฐบาลยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามแผนงานโดยในช่วงกลางเดือนพ.ค.นี้จะนำคณะไปเจรจาขายข้าวในตลาดตะวันออกกลางและตลาดแอฟริกาใน 2-3 ประเทศโดยเฉพาะตลาดแอฟริกา ซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหญ่และมีการนำเข้าข้าวจากไทยประมาณ 60% ของการส่งออกรวมหรือประมาณ 4 ล้านตัน ซึ่งประเทศที่ซื้อข้าวจากไทย เช่น ไนจีเรีย อิรัก อิหร่านมีความสนใจซื้อข้าวไทยเพิ่มเติม นอกจากนี้กรมจะเปิดประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลแบบประมูลทั่วไปในวันที่ 14 พ.ค. ปริมาณ 450,000 ตัน แบ่งเป็น ข้าวสารที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 54/55 นาปรัง 55และโครงการรับจำนำข้าวเปลือก 55/56 และ 56/57 รวมปริมาณ 432,000ตัน และข้าวสารเสื่อมสภาพและข้าวเปียกน้ำ ที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวปี 49/50โครงการรับจำนำข้าวนาปี 54/55 นาปรัง 55 และ 55/56 รวมปริมาณ 17,000 ตัน “การเปิดประมูลข้าวที่สามารถขายได้ครึ่งหนึ่งของปริมาณที่เปิดประมูลเป็นเพราะกรมไม่ยอมขายราคาต่ำให้ เพราะมีเกณฑ์ราคาขายตั้งไว้อยู่แล้วซึ่งรวมถึงการขายข้าวให้กับรัฐบาลต่างประเทศด้วย หากเสนอซื้อในราคาต่ำกว่าตลาดก็ไม่ขายเช่นกัน” สำหรับ ความคืบหน้าการขายข้าวให้กับมาเลเซีย 800,000 ตันนั้นอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาต่อรองราคาโดยมาเลเซียเสนอซื้อราคาต่ำกว่าเกณฑ์ที่จะขายประมาณ 10 เหรียญสหรัฐต่อตันซึ่งกรมยืนยันที่จะขายตามราคาที่ตั้งไว้แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วมาเลเซียจะซื้อข้าวในราคาที่ไทยกำหนด เพราะแนวโน้มราคาข้าวตลาดโลกสูงขึ้นจากภาวะภัยแล้งทำให้ผลผลิตข้าวตลาดโลกลดลง อย่าง ไรก็ตาม การส่งออกข้าวไทยปีนี้ คาดว่าจะปริมาณ9-10 ล้านตัน คิดเป็นเงิน 5,000-5,300 ล้านเหรียญสหรัฐหรือสูงเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้เดิมว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ 8.5ล้านตันได้อย่างแน่นอน “ส่วน ผลการตัดสินของ ป.ป.ช.เกี่ยวกับโครงการรับจำนกข้าว ไม่ว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไรเชื่อว่าการเดินหน้าขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และการเปิดประมูลเป็นการทั่วไปก็ยังคงเดินหน้าตามแผนเช่นเดิม”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์ยันคืนเงินคลังครบ2หมื่นล้านสัปดาห์หน้า
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs