นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการสำรวจราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคภายในห้างบิกซี จัมโบ้ สาขาราษฎร์บูรณะ ว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ขอความร่วมมือห้างสรรพห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น บิ๊กซี, โลตัส และอื่นๆ ช่วยจำหน่ายเนื้อสุกรในราคาพิเศษเพียง กก.ละ 118 -120 บาท ไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. นี้ และให้ผู้บริโภคสามารถซื้อในปริมาณที่ไม่จำกัดเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนในภาวะที่ราคาสุกรปรับตัวสูงทั้งนี้สถานการณ์ราคาเนื้อสุกร ที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาสุกรเป็นหน้าฟาร์มอยู่ในระดับ 70 บาทต่อกก. ได้ส่งผลให้ราคาสุกรหน้าเขียงมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 150-155 บาทต่อ กก. จนทำให้ประชาชนที่เดือดร้อนมีการร้องเรียนมายังกรมการค้าภายในจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเร่งหามาตรการในการลดผลกระทบดังกล่าวอย่างเร่งด่วนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีต่อไป “กรมการค้าภายใน เตรียมนัดหมายที่จะประชุม ร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรเเห่งชาติ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปสถานการณ์ราคาสุกร โดยยอมรับว่า สาเหตุที่ทำให้ราคาสุกรสูงขึ้น มาจากปริมาณสุกรขาดแคลน สภาพอากาศร้อนขึ้น และเกิดโรคระบาด”นายสันติชัย กล่าวว่า ในวันที่ 26 มี.ค. นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ หรือพิก บอร์ด จากนั้นก็จะนำผลประชุมมาหารือร่วมกับภาคเอกชน เพื่อหาทางออกช่วยเหลือแต่ละฝ่ายต่อไป เบื้องต้นหากปริมาณสุกรลดน้อยลงไปมากและไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ จะใช้วิธีการงดการส่งออกสุกรไปยังต่างประเทศส่วนการติดตามราคาพืชผักโดยยอมรับว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนทำให้ราคาพืชผักบางชนิดปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นไปตามฤดูกาล ดังนั้นทางกรมการค้าภายในได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จึงไม่อยากให้ผู้บริโภคตกใจกับราคาพื้ชผักที่มีการปรับตัวสูงขึ้น เบื้องต้นกรมการค้าภายในจะพยายามเร่งเชื่อมโยงตลาด เพื่อให้พืชผักจากเเหล่งอื่นๆเข้ามาเชื่อมโยง ทั้งตลาดสดและห้างสรรพสินค้าโดยเร็ว และเชื่อว่า ราคาพืชผักกฌจะมีการปรับตัวลงตามฤดูกาลได้ในเร็ว ๆ นี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การบริโภคเนื้อหมูในประเทศไทย มีความการบริโภคหมูอยู่ประมาณ 40,000 ตัวต่อวัน โดยพื้นที่กรุงเทพฯมีความต้องการบริโภคมากถึง 12,000 -13,000ตัวต่อวัน แต่ปริมาณหมูที่เข้าสู่ระบบลดลง 5-10% ต่อวัน หรือมีหมูเข้าสู่ระบบลดลงเหลือ 38,000-39,000 ตัวต่อวัน อย่างไรก็ตามแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นเป็น 160 บาทต่อกก. คาดว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากเป็นผลทางจิตวิทยา เมื่อราคาหมูปรับตัวสูงขึ้น คนจะหันไปบริโภคโปรตีนชนิดอื่นทดแทนสำหรับราคาขายปลีกสินค้าผักและผลไม้ในตลาดกรุงเทพมหานครพบว่าสินค้าหลายชนิดยังอยู่ในระดับสูง โดยเนื้อหมูชำแหละ เนื้อสันใน อยู่ที่ 155-160 บาทต่อกก. , เนื้อแดง อยู่ที่ 150-155 บาทต่อกก., มะนาว อยู่ที่ลูกละ 5-5.5 บาท และผักชีคัดอยู่ที่ 28-30 บาทต่อกก. เป็นต้น โดยสาเหตุที่ราคาสินค้าแพงขึ้นส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์ภัยแล้งในประเทศไทยที่ขยายวงกว้างในหลายๆพื้นที่
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์วอนค้าปลีกหั่นราคาหมู
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs