นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยาโฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิตท์ คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทย ที่ บีบีบีบวก นั้น ถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา สถาบันจัดอันดับต่าง ๆ ยังมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยอยู่ในเกณฑ์ดีซึ่งการประเมินครั้งนี้ ให้น้ำหนักกับประเด็นพื้นฐานทางเศรษฐกิจมากกว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่เป็นปัจจัยระยะสั้นทั้งนี้สถาบันจัดอันดับฯ มีความเห็นสอดคล้องกันว่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพการเงินของไทยไม่ได้ถูกกระทบจากปัญหาการเมืองในช่วงที่ผ่านมาและหลังจากที่การเมืองชัดเจนมากขึ้น ความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจก็ปรับตัวดีขึ้นประกอบกับสถานะด้านอื่น ๆ เช่น สเถียรภาพด้านต่างประเทศความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจไทย หนี้ของรัฐบาลที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีและสูงกว่าประเทศอื่น ๆในภูมิภาคเดียวกัน ทำให้ฟิตท์ และสถาบันจัดอันดับฯ รายอื่น ๆยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยไว้อย่างไรก็ตาม สถาบันจัดอันดับฯ 3 ค่ายใหญ่ ยังคงแนวโน้มความน่าเชื่อถือไทยมีเสถียรภาพสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และการเงินของประเทศที่ยังมั่นคงและมีเสถียรภาพ ทำให้สถาบันจัดอันดับฯ ประเมินได้ว่า จะยังไม่เปลี่ยนอันดับความน่าเชื่อถือของไทยช่วง1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจัยนี้ช่วยเสริมให้ตลาดการเงินไทยมีความน่าสนใจในสายตานักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติสำหรับผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรธปท.ในช่วงที่ผ่านมา โดยรวมยังได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีมีผู้สนใจเข้าลงทุนมากกว่าวงเงินเสนอขายโดยเฉลี่ย 1.5-2 เท่าต่อครั้งส่วนเศรษฐกิจ (จีดีพี) ที่ขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพจะลดทอนความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ภาครัฐในระยะต่อไปหรือไม่นั้น มองว่า การเศรษฐกิจปีนี้ถือว่าปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่ถูกกระทบจากปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อมานานซึ่งคงต้องต่ำกว่าศักยภาพในระยะเริ่มต้นของการฟื้นตัว และปีหน้า ธปท.ประเมินว่าจีดีพีจะเติบโตได้ 4.8%เป็นระดับที่น่าพอใจอย่างไรก็ตามไทยยังคงมีปัญหาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ที่เป็นจุดอ่อนสำคัญที่ต้องเร่งพัฒนาเพื่อให้ฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับศักยภาพเพราะจะสะท้อนถึงความสามารถในการหารายได้ของประเทศในอนาคต

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ฟิตท์คงเรตติ้งไทย BBB+

Posts related