แหล่งข่าวจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.)เปิดเผยว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำตาลทรายค้างกระดานสะสม ในฤดูหีบปี 56/57 ประมาณ 3 ล้านกระสอบถือเป็นอัตราที่สูงขึ้นต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัวจากปัญหาการเมือง ทำให้การบริโภคภายในประเทศลดลงประกอบกับการส่งออกไตรมาสแรกยังติดลบทำให้การจัดสรรน้ำตาลทรายบริโภคในประเทศ(โควต้าก.) ปีนี้ที่ 25 ล้านกระสอบมีบริโภคเพียงพอ และไม่เกิดภาวะตึงตัวอย่างแน่นอน “ปกติแล้วปริมาณน้ำตาลทรายค้างกระดานเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 1 ล้านกระสอบกว่าๆแต่เศรษฐกิจชะลอตัวทำให้น้ำตาลค้างกระดานสะสมต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้วสูงถึง 3 ล้านกระสอบ แต่ก็ยังไม่ถึงกับผิดปกติมาก โดยต้องติดตามว่าเศรษฐกิจเราจะไปอย่างไร” นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ บริษัทไทยชูการ์ มิลเลอร์ กล่าวว่า การระบายน้ำตาลทรายยังอยู่ที่ระดับ 4-5 แสนกระสอบต่อวัน ยังถือว่าอยู่ในอัตราที่ปกติแม้ว่า ตัวเลขค้างสต็อกจะสูงขึ้นมาก แต่เชื่อว่า หากการเมืองสงบการบริโภคจะกลับมาเช่นเดิม โดยล่าสุดการเปิดหีบอ้อยฤดูการผลิตปี 56/57 นับตั้งแต่ 25 พ.ย. 56 จนถึง 6 พ.ค. 57 มีปริมาณอ้อยเข้าหีบแล้ว 103.645 ล้านตันยังคงเหลือโรงงานเปิดหีบเพียงแห่งเดียวของกลุ่มมิตรผลที่กำหนดปิด 10 พ.ค.นี้ซึ่งประมาณการว่าผลผลิตอ้อยปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 103.7 ล้านตันโดยไม่ถึง 104 ล้านตันแต่ก็ยังถือเป็นสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ นายธีระชัย แสนแก้ว ประธานชมรมสถาบันชาวไร่อ้อย ภาคอีสาน กล่าวว่าจากการติดตามการทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเสนอที่ประชุมครม.เพื่ออนุมัติให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ปล่อยกู้ผ่านกองทุนฯมาเพิ่มค่าอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 56/57 อีกตันละ 160 บาทจากเดิมที่ให้ตันละ 900 บาท ล่าสุดทางผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมได้ยืนยันว่า ขั้นตอนต่างๆพร้อมที่จะนำเสนอไปยังเลขาครม.เพื่อเสนอต่อครม.พิจารณาแล้ว แต่ยอมรับว่าปัญหาการเมืองที่ยังไม่แน่นอนว่า จะไปทิศทางใด และจะทำให้เกิดการอนุมัติได้หรือไม่ชาวไร่อ้อย คงต้องติดตาม และยังคาดหวังอยู่ เพราะเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นครม.ใดควรจะต้องดำเนินการอนุมัติให้ สำหรับการช่วยเหลือราคาอ้อยให้กับชาวไร่ล่าสุดได้มีการประชุมคณะกรรมการกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย(กท.)แล้วและเห็นชอบให้กท.จัดทำประมาณการรายได้และรายจ่ายเพื่อประกอบการขอกู้เงินเพิ่มค่าอ้อยฤดูการผลิตปี 56/57 จากธ.ก.ส. ซึ่งคาดว่าจะต้องกู้ประมาณ 16,000ล้านบาทโดยนำรายได้จากการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน 5 บาทต่อกก.ที่ต้องส่งเข้ากองทุนฯเดือนละ 1,000 ล้านบาทชำระหนี้คาดว่าจะชำระหนี้หมดใน 17เดือนหลังจากที่หนี้เก่าที่ยังค้างธ.ก.ส.อีก 2,000 กว่าล้านจะชำระหมดในเดือนก.ค.นี้
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ยอดบริโภคน้ำตาลในประเทศหด
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs