นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของสศช. เกี่ยวกับการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังเร่งทบทวนบทบาท และทิศทางดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ ทั้ง 56 แห่ง เพื่อพิจารณาความจำเป็นในการคงสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจต่อไปหรือไม่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนจะยุบหรือไม่ยุบรัฐวิสาหกิจที่มีปัญหาหรือไม่นั้น กระทรวงต้นสังกัด และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จะพิจารณาผลดำเนินงาน ก่อนประเมินความเหมาะสมอีกครั้งทั้งนี้ ในแนวทางการพิจารณา กระทรวงการคลังต้องทบทวนว่า รัฐวิสาหกิจทั้งหมด มีดำเนินธุรกิจที่ไม่ได้เป็นไปตามภารกิจหลักตามวัตถุ ประสงค์ของการจัดตั้ง เช่น กรณีขององค์การคลังสินค้า (อคส.) เดิม ไม่ได้รับผิดชอบในโครงการรับจำนำข้าว แต่ปัจจุบันไม่มีโครงการดังกล่าว จะต้องกลับไปดำเนินภารกิจเดิมของหน่วยงาน หรือองค์การสะพานปลา อาจต้องนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปหารายได้ด้านอื่นแทน รวมทั้งทบทวนความจำเป็นกับการเป็นเครื่องมือของรัฐ อาจไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินกิจการโดยไม่มีวัตถุประสงค์ในการจัดหารายได้ และต้องขอรับการสนับสนุนเงินได้ส่วนใหญ่จากงบประมาณแผ่นดิน และรัฐวิสาหกิจลูกของหน่วยงานต่าง ๆ ด้วยขณะเดียวกันยังให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับกระทรวงเจ้าสังกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิจารณาแนวทางการดำเนินงานของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) โดยจะพิจารณาแนวทางสนับสนุนการทำธุรกิจร่วมกัน เพราะการให้สัญญาสัมปทานกับเอกชนจะสิ้นสุดในปี 58 นี้ เช่นเดียวกับบริษัทมหาชนจำกัดอื่นๆ กระทรวงการคลังจะต้องเร่งปรับปรุงรูปแบบการกำกับ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้นแข่งขันในเชิงธุรกิจได้นอกจากนี้ยังสั่งให้กระทรวงต้นสังกัดเร่งให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุน ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 95% ของกรอบวงเงินรวม โดยเฉพาะเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการกับประชาชน เช่น รถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และยังให้รัฐวิสาหกิจให้ความสำคัญกับงานด้านการวิจัย และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยให้นำกำไรสุทธิแต่ละปี 3% มาทำการวิจัยนายอาคม กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณของรัฐวิสาหกิจปี 58 มีวงเงินดำเนินการ 1.397 ล้านล้านบาท และวงเงินลงทุน 657,901 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 14% โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 83,269 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ 2.008 ล้านล้านบาท และรายจ่าย 1.919 ล้านล้านบาท
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ลุ้นยุบไม่ยุบรัฐวิสาหกิจ!
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs