พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้ผู้บริหารกระทรวงพลังงานว่า วันที่ 1 มิ.ย.นี้ ราคาแอลพีจี ภาคครัวเรือน จะปรับขึ้นอีก 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม เป็นกก.ละ 23.13 บาท ภายใต้กรอบนโยบายเดิมที่กำหนดไว้ เนื่องจากเป็นนโยบายที่เกิดขึ้นก่อนคณะคสช.เข้ามาบริหารประเทศ ส่วนการปรับโครงสร้างราคาพลังงานในภาพใหญ่นั้น ในสัปดาห์หน้า จะต้องมีการเสนอใหหัวหน้าคณะคสช. พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รวมถึงคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีรมว.พลังงาน เป็นประธานก่อน จากนั้นจะมีการพิจารณารายละเอียดในเรื่องประเด็นต่างๆ ต่อไปโดยจะหาสรุปให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์ “อะไรที่ทำมาก่อนวันที่ 22 พ.ค.ก็ขอให้นโยบายนั้นเดินไปตามกรอบเดิม ส่วนที่เหลือก็จะต้องให้มีกบง.และกพช.เข้ามาดูรายละเอียดก่อนทั้งราคาแอลพีจี ภาคขนส่ง ก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจี) รวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับราคาดีเซล ที่ขณะนี้ตรึงราคาไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรว่าจะเป็นอย่างไร โดยเราจะยึดหลักการสะท้อนกลไกตลาด ส่วนนโยบายการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 นั้นก็จะนำเสนอให้หัวหน้าคสช.ได้พิจารณาเรื่องนี้โดยเร็ว” สำหรับนโยบายพลังงาน ถือเป็นเรื่องที่สำคัย เพราะเกี่ยวกับปัจจัย 4 ของประชาชน และยังสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดังนั้นนโยบายที่คสช.มอบหมายจะยึดหลัก 4 ข้อคือ 1. ทำอย่างไรให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด 2. ดูแลให้เกิดความเป็นธรรม 3. บริหารจัดการให้เป็นไปตามกลไกตลาด 4. เรื่องแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับพลังงานโดยเร็ว ขณะเดียวกันยังให้กระทรวงพลังงานเร่งเดินหน้าแผนการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนกรณีคณะกรรมการบริหารปตท.และกฟผ.นั้น คสช.จะ เรียกผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ (รสก.) เข้าหารือ เพื่อปรับประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจทั้งหมดในวันที่ 31 พ.ค.นี้ ซึ่งรสก.ทั้งหมดมีถึง 56 แห่ง มีบอร์ดที่เกี่ยวข้อง 800 คน มีกฏหมายที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและอ้อม 26 ฉบับ จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยวันที่ 31 พ.ค.คงจะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นมาระดับหนึ่งซึ่งในส่วนของบออร์ดปตท. หากจะดำเนินการอย่างไรก็จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย ส่วนที่ตนเป็นประธานบอร์ดการบินไทย และกรรมการอิสระในบมจ.ปตท.นั้น คงยังไม่ลาออก เพราะหากลาออกจะเป็นการไปกดดันคนอื่นๆ จึงขอทำงานสักระยะหนึ่งก่อน
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ศาล ปค.ยกคำฟ้อง “พิชิต ชื่นบาน”
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs