นายเชาว์   เก่งชน  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า  ได้ปรับลดเป้าจีดีพีในปีนี้เหลือ 1.6% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ว่าจีดีพีโต 2.3% เป็นผลมาจากการส่งออกที่ติดลบถึง 0.3% และการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลงเห็นจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 5.8% แต่เชื่อว่าการเมืองที่มีเสถียรภาพจะช่วยให้การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกการบริโภคหดตัวถึง 1.4%  นอกจากนี้เงินช่วยเหลือภาคเกษตรกรในเรื่องต้นทุนการผลิต และการเบิกจ่ายงบจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปลายปี  ส่วนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 300,000 ล้านบาทของรัฐบาลจะใช้ในปีนี้เพียง 100,000 ล้านบาท ที่เหลือ 200,000 ล้านบาทจะเป็นปีหน้า เพราะบางโครงการต้องใช้เวลาจึงจำเป็นต้องทำโครงการเร่งด่วนก่อน      น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศีลป์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหาภาค บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า   ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนในเดือนก.ย.อยู่ที่ 45.3 สูงสุดในรอบ 8 เดือน จากเดิมเดือนส.ค.อยู่ที่ 43.8 เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มลดความกังวลในเรื่องภาวะค่าครองชีพ หลังจากที่ราคาสินค้าปรับตัวลดลง ส่วนแนวโน้ม 3 เดือนข้างหน้ายังเป็นห่วงในเรื่องราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค  เช่น พลังงานปรับตัวสูงขึ้น  สำหรับทิศทางค่าเงินบาทของไทยมีความผันผวน หากเฟดยุติคิวอีในสิ้นเดือนต.ค.นี้ อาจทำให้ค่าเงินบาทผันผวนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.9%  และสิ้นปีนี้แตะที่ระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  ส่วนปีหน้าถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ยอาจทำให้เงินทุนไหลออกทำให้ค่าเงินบาทผัวผน 5.5% และกดดันให้บาทอ่อนค่าไปแตะที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ    

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทยหั่นเป้าจีดีพีเหลือ1.6%

Posts related