รองศาสตราจารย์ ดร. อมร พิมานมาศรองเลขาธิการสภาวิศวกร และนักวิจัยโครงการการเสริมกำลังโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กด้วยวิธีการพ่นวัสดุโพลีเมอร์เสริมเส้นใยภายใต้การสนับสนุนของฝ่ายวิชาการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย( สกว.)เปิดเผยถึงข้อสังเกตสถานที่ก่อสร้างที่อาจเสี่ยงต่ออาคารถล่มและควรหลีกเลี่ยงว่ามี  7 ประการ ซึ่งประชาชนสามารถสังเกตได้ คือ 1. ให้ดูโครงสร้างที่กำลังก่อสร้าง หากพบว่ามีขนาดเล็กผิดปกติ เช่น เสามีขนาดเล็ก หรือแผ่นพื้นที่วางบนเสาบางเกินไป เป็นโครงสร้างที่เสี่ยงต่อการถล่ม หากรับน้ำหนักมาก ๆ ในระหว่างการก่อสร้าง เสาอาจหัก หรือพื้นอาจเจาะทะลุผ่านเสาลงมากระแทกพื้นชั้นล่าง แล้วทำให้เกิดการวิบัติที่ลามเป็นลูกโซ่ตามมา ซึ่งนับว่าเป็นอันตรายมาก 2. โครงสร้างในบริเวณที่พื้นยึดกับเสา โดยเฉพาะเสาต้นมุม และเสาต้นริมที่อยู่ตามแนวขอบอาคาร หากสังเกตเห็นพื้นไม่อมเสาทั้งต้น แต่มีจุดที่สัมผัสกันเพียงเล็กน้อย โดยจะเห็นคล้ายกับเสาลอยแยกออกมาจากพื้น เป็นโครงสร้างที่เสี่ยง เพราะพื้นอาจหลุดออกจากเสาได้ง่าย ๆ แล้วทำให้เกิดการพังถล่มของโครงสร้างได้ 3. สถานที่ก่อสร้าง หากไม่ติดแผ่นป้ายประกาศแจ้งการก่อสร้าง ณ สถานที่ก่อสร้าง ไม่ระบุชื่อเจ้าของโครงการ ชื่อวิศวกรผู้ออกแบบ ชื่อวิศวกรผู้ควบคุมงาน ลักษณะโครงสร้างที่กำลังก่อสร้าง และระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จ ย่อมเป็นสถานที่ก่อสร้างที่เสี่ยงอันตราย เพราะไม่เปิดเผยการก่อสร้างให้ประชาชนรับทราบว่าใครเป็นผู้ดูแล 4. การใช้นั่งร้านค้ำยันรองรับน้ำหนักพื้นชั้นที่กำลังเทคอนกรีต หากใช้นั่งร้านน้อยหรือไม่เพียงพอย่อมเสี่ยงอันตราย เพราะตามปกติในขั้นตอนการเทคอนกรีตจะต้องใช้นั่งร้านค้ำยันรองรับน้ำหนักคอนกรีตในพื้นชั้นที่กำลังเทอยู่  และให้นั่งร้านตั้งอยู่บนพื้นชั้นล่างที่ก่อสร้างเสร็จก่อนหน้าแล้วเป็นฐานรองรับ ซึ่งอาจต้องค้ำนั่งร้านกับพื้นชั้นล่างมากกว่า 2 ชั้น ถ้ามีเพียงชั้นเดียวแสดงว่าอาจไม่พอเพียง ย่อมมีความเสี่ยงที่อาคารจะพังถล่มได้ โดยเฉพาะหากมีการเทคอนกรีตกองที่จุดใดจุดหนึ่งโดยไม่กระจายออกไป 5. คนงานในสถานที่ก่อสร้าง หากไม่สวมใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยในการทำงาน เช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่สวมเข็มขัดช่วยชีวิต แสดงให้เห็นว่าการทำงานของคนงานไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย ผู้ประกอบการไม่ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และเป็นสถานที่ก่อสร้างที่มีความเสี่ยง 6. สถานที่ก่อสร้างไม่มีวิศวกรผู้ควบคุมงานอยู่ประจำ ปกติการก่อสร้างเป็นงานที่อันตรายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนการเทคอนกรีต ซึ่งจำเป็นต้องมีวิศวกรที่มีใบอนุญาตจากสภาวิศวกรประจำอยู่ที่สถานที่ก่อสร้างเพื่อควบคุมการก่อสร้าง ไม่ควรปล่อยให้ดำเนินการโดยช่างก่อสร้างหรือแรงงานเพียงลำพัง และ 7. การก่อสร้างที่เร่งรีบเกินไป เช่น เร่งก่อสร้างทั้งเวลากลางวันกลางคืนต่อเนื่องกันไม่หยุดพัก หรือการก่อสร้างที่ลัดขั้นตอนเพื่อพยายามเร่งให้เสร็จงานตามกำหนดสัญญา ย่อมเป็นการก่อสร้างที่อันตราย เนื่องจากวัสดุก่อสร้างคอนกรีต จำเป็นต้องได้อายุเสียก่อนจึงจะมีกำลังรับน้ำหนักที่เพียงพอ หากเร่งการก่อสร้างมากเกินไป คอนกรีตที่ยังไม่แข็งแรงพอ อาจเสี่ยงต่อการวิบัติพังถล่มของโครงสร้างอาคารตามมาได้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สกว.แนะจุดสังเกตที่ก่อสร้างเสี่ยงอันตราย

Posts related