นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ฯได้ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 57 จาก 5.1% เหลือ 4.5% เนื่องจากได้กังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองไทยที่ยืดเยื้อ, ความเสี่ยงของการขยายตัวเศรษฐกิจโลกยังมีสูง, ความผันผวนของค่าเงินบาท, การขาดแคลนแรงงานในบางอุตสาหกรรม, ต้นทุนการผลิตและค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น และภัยทางธรรมชาติ เป็นต้น ดังนั้นอยากให้ทุกฝ่ายเร่งหาแนวทางเจรจาข้อยุติเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมืองในอนาคตทั้ง นี้ทางออกของประเทศไทยมี 2 แนวทางใหญ่ที่กำลังเป็นข้อถกเถียงกันคือ การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 56 ก่อนแล้วมาปฎิรูปประเทศไทยภายหลัง หรือ ปฎิรูปประเทศไทยก่อนแล้วค่อยมาเลือกตั้งภายหลัง ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายมีการปฎิรูปโดยความสมัครใจเชื่อว่าในอนาคตเสถียรภาพทาง การเมืองของไทยจะมีความเข้มแข็งขึ้น “ในแง่เศรษฐกิจไทยไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรขอเพียงให้ประเทศไทยมีรัฐบาลที่ถูก ต้องตามรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ในรูปแบบใดก็ตามก็จะสามารถประคองเศรษฐกิจได้ เพราะเศรษฐกิจพร้อมที่จะขับเคลื่อนด้วยตัวของมันอยู่แล้ว เห็นได้จากการศึกษาประวัติศาสตร์ด้านเศรษฐกิจภาพรวม พบว่าปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจติดลบมาจากผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจโลก หรือสงครามโลกเป็นหลัก ส่วนผลกระทบภายในไม่มีผลต่อเศรษฐกิจติดลบมากนักในกรณีที่ไทยมีรัฐบาลไม่ว่า จะมาจากการเลือกตั้งหรือการแต่งตั้ง”สำหรับการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจในปี 57ศูนย์ได้คาดการณ์มาแล้ว 2 ครั้งโดยครั้งแรกประเมินในช่วงเดือน ต.ค. และครั้งที่ 2 ประเมินในช่วงเดือน ธ.ค. 56 โดยเศรษฐกิจไทยที่ประเมินครั้งที่ 2 พบว่าเศรษฐกิจอยู่ที่ 4.5%, ส่งออกขยายตัว 6.5%, นำเข้า ขยายตัว 8%, ดุลการค้าขาดดุล 27,026 ล้านเหรียญฯ ดุลบัญชีเดินสะพัด ขาดดุล 4,740 ล้านเหรียญฯ เป็นต้นนายธนวรรธน์ กล่าวว่า ในปี 56 คาดว่าจีดีพีไทยจะขยายตัวได้เพียง 3% จากเดิมที่คาดโตได้ 3.5% เพราะตั้งแต่เริ่มชุมนุมประท้วงเมื่อเดือนต.ค.56จนถึงขณะนี้ ทำให้เศรษฐกิจเสียหายแล้ว 30,000-70,000 ล้านบาท หรือทำให้จีดีพีลดลง 0.3-0.5% จากภาคการบริโภค การลงทุน และการท่องเที่ยวในประเทศลดลงขณะเดียวกันยังมีประเด็นของภาคเกษตรมีรายได้ลดลง จากราคาสินค้าเกษตรหลายรายการตกต่ำ ทั้งข้าว ยางพารา อ้อย กุ้ง ทำให้เกษตรกรมีรายได้ลดลง กำลังซื้อลดลง และการบริโภคในประเทศซึมตัว ส่วนภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวในอัตราชะลอตัวลง เพราะการบริโภคในประเทศขยายตัวต่ำ และการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวไม่มากนัก จากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว“เดิมศูนย์ฯคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ 3.5% แต่ตอนนี้ได้ปรับลดประมาณการณ์ลงเหลือโต 3% และไม่น่าจะเลวร้ายกว่านี้ เพราะยังไม่มีสัญญาณที่เศรษฐกิจไทยจะแย่ลงกว่านี้ เนื่องจากการเมืองยังนิ่งๆ ยังไม่มีสัญญาณรุนแรง แม้รัฐบาลยุบสภาไปแล้ว จึงทำให้การใช้จ่าย การลงทุน ยังคงนิ่งๆ ตาม”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หอการค้าไทยคาดจีดีพีปีหน้า 4.5%
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs