นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด กล่าวว่า เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีการเปิดตัว 27 โครงการ เป็นที่อยู่อาศัย 26 โครงการ และโฮมออฟฟิศ 1 โครงการ มีหน่วยขายรวม 6,013 หน่วย มูลค่ารวม 18,721 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมี.ค.ถึง 1,893 หน่วย หรือลดลง 24% เนื่องจากมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง ขณะที่การเมืองยังยืดเยื้อ จึงมีหลายโครงการที่ชะลอการเปิดตัวออกไป ทั้งนี้ โครงการที่เปิดในเดือนนี้ส่วนใหญ่จะมีขนาดปานกลาง ซึ่งเฉลี่ยต่อโครงการ 222 หน่วยขึ้นไป และห้องชุดเปิดตัวมากสุดคือ 2,713 หน่วย แต่ก็นับว่าลดลงคือเหลือเพียง 45.1% ของทั้งหมดที่เปิดตัว รองลงมาคือ บ้านเดี่ยว 2,221 หน่วย และทาวน์เฮ้าส์ 839 หน่วย ด้านมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการนั้นก็ลดลงจากเดือนมี.ค. 5,994 ล้านบาท หรือลดลง 24% ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีราคาปานกลาง ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท สัดส่วนถึง 61% รองลงมา คือ 3-5 ล้านบาท 23% สำหรับการขายนั้น มีอัตราเฉลี่ย 17% จากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขาย 29% ต่อเดือน นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธ.อ.ส.) กล่าวว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปิดยอดรายได้อย่างไม่สวยงามนัก ด้วยปัจจัยความร้อนแรงทางการเมือง โดยพบว่า มีคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ทั้งสิ้น 35 โครงการ รวม 13,917 ยูนิต ลดลง 50% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 56 ซึ่งมีโครงการคอนโดเปิดตัวถึง 27, 815 ยูนิต ขณะที่โครงการแนวราบ หรือบ้านจัดสรรนั้น มีการเปิดตัวทั้งสิ้น 59 โครงการ รวม 8,721 ยูนิต ลดลง 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 56 ที่เปิดทั้งสิ้น11,085 ยูนิต หากนับการเปิดตัวที่อยู่อาศัยในกทม.และปริมณฑล ช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา พบว่ายังชะลอตัวค่อนข้างมาก ขณะเดียวกัน คาดการณ์ว่า ทั้งปี 57 นี้ จะมีโครงการแนวราบเปิดตัวเท่ากับปีที่แล้ว คือ 45,000 ยูนิต แต่คอนโดฯ น่าจะลดลงเหลือเพียง 60,000 ยูนิต จากปีที่แล้ว ที่เปิดตัวถึง 85,000 ยูนิต โดยรวมลดลง 25-30% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง เนื่องจากการเกิดภาวะชะงักในการลงทุนของภาครัฐ ในช่วงสุญญากาศของรัฐบาล ซึ่งปัจจัยทางการเมืองนี้เอง ที่หลายฝ่ายเชื่อว่า เป็นเหตุผลหลักในการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังจากแข่งขันอย่างคึกคักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาสแรกของทุกบริษัท แตะจุดต่ำสุดในรอบหลายปี แต่อย่างไรก็ดี แม้ไม่มีปัจจัยทางการเมือง แต่ก็ควรเป็นปีแห่งการปรับฐาน จากปี 56 ที่มีโครงการเกิดใหม่สูงมากเป็นประวัติการณ์
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : อสังหาฯ เม.ย.วูบ 24%
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs