นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมของประชาชนเกี่ยวกับวันแม่ว่าในช่วงเทศกาลวันแม่ระหว่างวันที่ 9-12 ส.ค. 57 จะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจ 19,411ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.8% เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นจนทำให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้นประกอบกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงและราคาสินค้าที่แพงทำให้เกิดการใช้จ่ายในรูปแบบของปริมาณเงินเพิ่มขึ้นโดยของขวัญยอดนิยมที่ลูกจะมอบเป็นของขวัญให้แม่มากที่สุดคือ เงินสดและทองคำรองลงมาเป็น พวงมาลัยและดอกไม้, เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ, กระเช้าผลไม้,เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า,ประกันชีวิตหรือสุขภาพ เป็นต้นสำหรับการใช้จ่ายเกี่ยวกับกิจกรรมในช่วงวันแม่เช่น พาแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัด (ค้างคืน) เฉลี่ย 8,098 บาท,พาลูกและครอบครัวไปทานข้าว 2,149 บาท, พาแม่ไปทำบุญ 1,868 บาท, พาแม่ไปสปาหรือนวด1,858 บาท พาแม่ไปทานข้าว 1,588 บาท เป็นต้นส่วนการวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงวันแม่พบว่า จังหวัดที่นิยมไปเที่ยว เช่นจังหวัดอยุธยา, ชลบุรี, ระยอง, ภูเก็ต, ราชบุรี, อุดรธานีส่วนใหญ่จะออกเดินทางวันที่ 10 ส.ค. กลับ วันที่ 12 ส.ค.ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่ต้องการไปต่างประเทศ พบว่าประเทศที่นิยมมากสุด คือ จีนรองลงมาเป็น เกาหลี, มาเลเซีย, ลาว, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ จะออกเดินทางวันที่9 ส.ค. กลับวันที่ 12 ส.ค. 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เทศกาลวันแม่เงินสะพัด 1.9 หมื่นล้านบาท

Posts related