นายไชยยงค์ พงษ์สุทธิมนัส ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ปีนี้คาดว่า มีมูลค่า 42,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เนื่องจากสินค้าเฟอนิเจอร์ของไทย เป็นที่ต้องการของต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในเอเชีย ที่ไม่เคยสั่งซื้อสินค้าจากไทย เช่น จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม เริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่องจนติดอันดับต้น ๆ ของตลาดส่งออกไทย เพราะเชื่อมั่นว่า สินค้ามีคุณภาพดีที่สุดในอาเซียน ส่วนปี 58 คาดว่า จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5% และหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ไทยจะยิ่งได้เปรียบ เพราะมีวัตถุดิบ และการออกแบบที่ดีกว่า“ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์เติบโต 4.5% หรือคิดเป็นมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 21,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 600 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าจะขยายตัวมากกว่า 5% ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก ทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น”ส่วนตลาดภายในประเทศ เริ่มกลับมาขยายตัว 10% เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มขยายตัวดีขึ้น ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียมที่ขยายตัว จึงมีคำสั่งซื้อสินค้าเฟอร์นิเจอร์เข้ามามากขึ้น ทำให้ปีหน้าตลาดภายในประเทศจะโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากมีมาตรการผลักดันงบลงทุนจากภาครัฐ เข้ามาในระบบเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันยอดขายเฟอร์นิเจอร์ จะมาจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ 70% ที่เหลือ 30% จะเป็นบ้านเรือนเก่า ที่ปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ให้ทันสมัย เนื่องจากประชากรไทยมีรายได้มากขึ้น ทำให้ยอดการเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้านนายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย กล่าวว่า ขณะนี้สินค้าเฟอร์นิเจอร์ของไทยได้กระจายไปตลาดต่าง ๆ กว่า 20 ประเทศ ไม่ได้กระจุกตัวเพียงบางตลาดเช่นเดียวกับอดีต ทำให้ลดกระทบจากความผันผวนของตลาดโลก โดยตลาดหลักของไทย ได้แก่ ญี่ปุ่น มีสัดส่วน 20.27% สหรัฐฯ 16.66% มาเลเซีย 6.31% ออสเตรเลีย 6.10% อังกฤษ 4.66% จีน 4.21% และอินโดนีเซีย 2.86%สำหรับการแข่งขันในตลาดอาเซียนนั้น มองว่า ไม่รุนแรงมากนัก เพราะแต่ละประเทศก็จะเน้นในสินค้าที่เป็นจุดเด่นของตัวเอง เช่น อินโดนีเซียเด่นเรื่องเฟอร์นิเจอร์ภายนอกบ้าน มาเลเซียเก่งเรื่องเฟอร์นิเจอร์ ที่ผลิตเป็นปริมาณมากมีราคาถูก ฟิลิปปินส์ จะเด่นในเรื่องออกแบบดีไซด์แต่มีการผลิตน้อย เวียดนามมีการผลิตใกล้เคียงกับไทยมากที่สุด แต่ก็มีจุดอ่อนเรื่องวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าเกือบทั้งหมด ส่วนมาเลเซียเก่งเรื่องเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตเป็นปริมาณมาก มีราคาถูก และยังเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของไทย ขณะที่ไทยมีสุดเด่นเรื่องดีไซด์ และความพร้อมของวัตถุดิบ โดยเฉพาะไม้ยางพารา และปาติเคิลบอร์ด ที่มีมากที่สุดในเอเชีย แต่ถ้ามองในเรื่องของมูลค่าการส่งออก อันดับ 1 จะเป็นมาเลเซีย เพราะผลิตสินค้าเพื่อตลาดทั่วไปที่เน้นปริมาณ อันดับ 2 ประเทศไทย ซึ่งจะเน้นสินค้าที่มี่ความหลากหลาย และมีดีไซด์โดดเด่น
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เฟอร์นิเจอร์ไทยเนื้อหอม
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs