นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สิ่งเร่งด่วนที่เอกชนต้องการให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการ คือ หาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะแรงซื้อของภาคประชาชนในช่วงที่ผ่านมายังไม่ได้ฟื้นตัวเท่าที่ควร เนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น โดยเสนอให้ดำเนินการ 4 ด้านสำคัญ คือ การสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนและนักลงทุน , การดูแลสินค้าภาคการเกษตรที่ขณะนี้ภาพรวมตกต่ำตามตลาดโลก โดยไม่เป็นภาระต่องบประมาณรัฐจนเกินไป , ปรับกระบวนการผลิตให้มีการเพิ่มมูลค่าเพิ่มในภาคอุตสาหกรรมและการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ในภาคเกษตร และการปราบปรามคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม “ปีนี้เหลือเวลาไม่มากนัก แต่ก็ยังคาดหวังว่าถ้าเร่งทำอะไรบางส่วนได้ก็อาจจะมีลุ้นให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวได้ 2% แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไทยพึ่งพิงการส่งออกมาก ซึ่งยอมรับว่า หากจะให้การเติบโตระดับนี้เกิดขึ้นได้ส่งออกจะต้องโต 2-2.5% ตรงนี้ไม่ง่ายนัก เพราะเศรษฐกิจโลกเวลานี้ยังมีปัญหาหาโดยเฉพาะกรณีอิรัก ลิเบีย ยูเครน แต่เราเองหวังว่าการกระตุ้นการบริโภคในประเทศถ้าทำได้เร็วให้แรงซื้อในช่วงไตรมาส 4 ฟื้นตัวแบบเห็นชัดเจนก็ยังมีลุ้น ส่วนการลงทุนและงบประมาณที่จะเข้ามาจะไปเห็นรูปธรรมในปี 58 มากกว่า” สำหรับการดูแลค่าครองชีพประชาชนในระยะนี้ จะมีส่วนสำคัญต่อการเพิ่มแรงซื้อ ที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก หากเป็นไปได้ต้องการเห็นการตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโตมัติ(เอฟที) ในรอบใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.57) ซึ่งยังรวมถึงการดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เนื่องจากแรงซื้อที่ลดต่ำทำให้การปรับราคาสินค้าที่ผ่านมาไม่ได้ครอบคลุมต้นทุนที่แท้จริง 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอกชนวอนรัฐบาลใหม่เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ

Posts related