นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนการดำเนินงานใหม่โดยเน้นการส่งออกปูนให้มากขึ้นจากเดิมที่วางไว้ 4 ล้านตัน เป็น 5 ล้านตัน เพื่อระบายสต๊อก เพราะคาดว่ายอดขายในประเทศคงไม่โตไปกว่านี้แล้วหลังจากที่ในประเทศมีปัญหาการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอโครงการชะลอการลงทุน เช่นเดียวกับงานภาครัฐที่ชะงักการลงทุน มีเพียงเฉพาะงานโครงการรถไฟฟ้าเท่านั้นที่ยังเดินหน้าต่อปีนี้บริษัทคาดว่าจะเติบโตได้เพียง10% แม้ว่าปัจจัยต่อการเมืองยังไม่ยุติ โดยคณะกรรมการบริษัทขอ เวลาอีก 2-3สัปดาห์เพื่อทบทวนแผนการดำเนิน ตัวเลขประมาณการใหม่ จากที่ประเมินไว้เมื่อปลายปี 56 ที่คาดว่ายอดขายธุรกิจปูนซีเมนต์ปีนี้จะเติบโต9% แต่จากปัญหาทางการเมือง ทำให้คาดว่ายอดขายปูนอาจโตต่ำกว่า 5% แน่นอน แต่ในส่วนของธุรกิจอื่นๆ นั้นยังไปได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจเคมีภัณฑ์ ที่ป็นตัวหลักในการสร้างได้ เพราะมีราคาและได้ส่วนเหลื่อมกำไร (มาร์จิ้น) สูงมาก หรือมีรายได้จากการขายกลุ่มเคมีภัณฑ์ 209,997 ล้านบาท เพิ่มขึ้น3% จากปีก่อน มีกำไรสุทธิ 11,292 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 320% จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ จะเร่งรัดลงทุนโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ ที่เวียดนาม ให้เร็วขึ้นกว่าแผนการลงทุนในธุรกิจอาเซียน5 ปีระหว่าง 57-60 วงเงิน 250,000 ล้านบาท เพราะเริ่มเห็นสัญญาราคาเครื่องจักรเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้ จึงอาจจะเพิ่มงบลงทุนดังกล่าวอีก เพื่อเข้าลงทุนหรือซื้อกิจการในอาเซียน ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษา แต่ในส่วนของโครงการที่เวียดนามนั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องเงินลงทุนภายในสิ้นปีนี้หรือสูงกว่า 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากราคาเครื่องจักรในตลาดโลกสูงขึ้น หลังจากนั้นก็จะเริ่มให้ผู้รับเหมาเข้ามาประกวดราคาต่อไป แต่ทั้งนี้ในส่วนของการเจรจาเงินกู้โครงการนี้ อาจต้องเลื่อนไปเป็นต้นปีหน้าแทน เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ ต้องให้เวลาสถาบันการเงินพิจารณา แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดรัฐประหารในไทยนอกจากนี้ ยังเดินหน้าโครงการก่อสร้างโรงปูนซีเมนต์แห่งแรกของบริษัทในอินโดนีเซีย และเมียนมาร์ รวมทั้งขยายกำลังการผลิตในกัมพูชาด้วย เพราะประเทศเพื่อนบ้าน มีความต้องการสินค้าสูงมาก เนื่องจากอยู่ในช่วงของการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะเมียนมาร์ มียอดขายปูนโตถึง 20% โดยในเมียนมาร์นั้น เป็นโรงปูนซิเมนต์ 1.8 ล้านตัน มูลค่า 12,400 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่มีความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี59 ส่วนโครงการที่มาบตาพุดในธุรกิจปิโตรเคมีมูล ค่าลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาทนั้น ได้ยื่นขอสิทธิ์ประโยชน์ไปที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แล้ว อยู่ระหว่างรอผล
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “เอสซีซี”ปรับเพิ่มส่งออกปูน
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs