นายเกียรติอนันต์  ล้วนแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เปิดเผยผลสำรวจเศรษฐกิจไทยในสายตาเอสเอ็มอีและการเข้าถึงแหล่งทุนว่า ในช่วงปี 55-57 มีธุรกิจไทยที่ประสบปัญหาสภาพคล่องและไม่มีหลักทรัพย์เพียงพอที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนตามปกติได้ 207,133 ราย ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องหันไปกู้เงินนอกระบบจากกลุ่มก๊วนที่เล่นกอล์ฟ กลุ่มปั่นจักรยานยนต์กลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น  รวมถึงการนำรถยนต์เครื่องใช้ในสำนักงาน ทองคำ ไปจำนำ และการรูดบัตรเครดิตมาเสริมสภาพคล่องเพื่อประคองกิจการให้อยู่รอดเนื่องจากหลายรายยังมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เข้ามาต่อเนื่อง ทั้งนี้ยอมรับว่าการยืนเงินจากกลุ่มที่เล่นกอล์ฟและกู้จากนักการเมืองท้องถิ่นจะได้รับความนิยมอย่างมากและจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงหรือไม่เกิน7%  จากต่างการกู้นอกระบบทั่วไปที่ดอกเบี้ยเฉลี่ย14-15% เนื่องจากการเล่นกอล์ฟจะมีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วส่วนใหญ่ผู้ให้กู้ก็จะนำเงินส่วนตัวมาให้และกู้กันเฉลี่ยประมาณ 1 ล้านบาทต่อครั้ง  ส่วนนักการเมืองท้องถิ่นบางรายจะนำเงินส่วนตัวให้กู้แต่บางรายแอบนำงบประมาณจากโครงการต่างๆไปให้เอสเอ็มอีกู้ก่อนจากนั้นก็รีบนำเงินคืนเข้าโครงการ                

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอสเอ็มอีแห่หาเงินเสริมสภาพคล่อง

Posts related