ปกติฤดูหนาวจะเริ่มกลางเดือน ต.ค.ซึ่งคาดว่าปีนี้ อุณหภูมิจะสูงกว่าค่าเฉลี่ย หนาวได้ไม่สะใจ แต่ปรากฏว่า ความกดอากาศสูงหรือลมหนาว รีบเข้าคลุมภาคเหนือแล้วตั้งแต่ต้นสัปดาห์ เมื่อ 5 ต.ค.นี่เองดันร่องมรสุมตัวการฝน ให้เลื่อนไหลลงภาคใต้ไปพยากรณ์ที่เป็นทางการจากกรมอุตุนิยมวิทยา บอกวันที่5–11ต.ค.ความกดอากาศสูง กำลังค่อนข้างแรง ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองในระยะแรก และมีลมแรงอุณหภูมิลดลง3–5องศาเซลเซียสร่องมรสุม ลงไปพาดผ่านภาคใต้ ผสมโรงกับหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลางภาคใต้จึงมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก หรือฝั่งอ่าวไทย มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ60-70ของพื้นที่ ตกหนักบางแห่ง ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมาส่วนฝั่งตะวันตกหรือฝั่งทะเลอันดามัน มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ถึงร้อยละ70-80ของพื้นที่ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นจะสูงประมาณ2เมตรทางภาคใต้ จึงต้องเฝ้าระวังฝน โดยเฉพาะ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ที่อาจฝนตกหนัก ซึ่งตกสะสมต่อเนื่องเข้าไว้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าเจอฝนหลายวันอย่างไรก็ตาม สภาพฝนที่ตกเป็นช่วง ๆ อาจเกิดผลกระทบ มีน้ำท่วม น้ำหลาก แต่โดยรวม ยังตกน้อยกว่าเฉลี่ย ทำให้มีปริมาณน้ำกักเก็บต่ำกว่าที่ควรจะเป็น การใช้น้ำ ต่อจากนี้จึงต้องระวังการเพาะปลูกในฤดูแล้ง จะทำได้ยากปัญหานี้ มีความสำคัญระดับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นำไปพูดในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ไม่แนะนำให้ทำนาปรังในฤดูนี้ เพราะน้ำในเขื่อนมีไม่เกินร้อยละ60โดยจะให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปหาทางช่วยเหลือ เกษตรกรพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาทั้ง1แสนคน ว่าจะให้ทำอะไรแทนการปลูกข้าวรัฐจะหาทางสร้างรายได้ทดแทนตั้งแต่เดือน พ.ย.จนถึง เม.ย.ปีหน้าถึงขั้นผู้นำออกปากขนาดนี้ พี่น้องชาวนาอย่าขืนฝืนทำเพราะเชื่อได้ว่า น้ำจะไม่ไหลมาตอบสนองส่วนเขาจะให้ทำอะไรที่เป็นการสร้างรายได้ ก็เลือกไว้ก่อน
สำหรับลมหนาวที่เริ่มสะบัดเข้ามา แม้จะทำให้สบายขึ้น แต่ก็ควรระวังปัญหาสุขภาพที่จะเกิดได้ทั้งคนและสัตว์รักษาเนื้อ รักษาตัวกันไว้ถึงหน้าหนาวจะไม่สะใจ แต่ถ้าไม่ระวังก็ป่วยได้.หยาดน้ำฟ้า

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ใต้เตรียมตัว!! – รู้หลบ

Posts related