นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.วันนี้ ได้เห็นชอบการลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการซื้อขายข้าว ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ โดยมอบอำนาจให้ รมว.พาณิชย์ หรือผู้ที่รมว.พาณิชย์มอบหมาย ให้เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย ซึ่งสาระสำคัญของร่างฉบับดังกล่าว ทั้งสองประเทศตกลงที่จะซื้อขายข้าวขาวในปริมาณไม่เกิน 1 ล้านตันต่อปี ระหว่างปี 57-59 โดยมีเงื่อนไขขึ้นอยู่กับภาวะตลาดข้าวโลก และผลผลิตในทั้งสองประเทศ รวมทั้งให้ใช้ราคาตลาดระหว่างประเทศที่มีการซื้อขายจริงทั้งนี้ รัฐบาลไทยจะมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ เป็นหน่วยงานดำเนินการ โดยกรมการค้าต่างประเทศต้องมีประวัติการซื้อขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)ในเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ จะมอบหมายให้หน่วยงานองค์การอาหารแห่งชาติ (เอ็นเอฟเอ)เป็นหน่วยงานดำเนินการ ส่วนการจัดซื้อข้าวจากรัฐบาลไทย ทั้งสองประเทศ ต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติกฎเกณฑ์ และระเบียบว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศเป็นมาตรฐาน โดยทั้งสองประเทศจะพยายามหาข้อตกลงของราคาข้าวให้ได้ใน 10 วันสำหรับร่างบันทึกความตกลงดังกล่าว ยังมีเนื้อหาสอดคล้องกับบันทึกข้อตกลงฉบับเดิม ที่ได้จัดทำขึ้นเมื่อเดือนมิ.ย.54 โดยรัฐบาลไทยกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ตกลงจะขายข้าวระหว่างกันปีละ1 ล้านตัน เป็นเวลา 3 ปี จึงเป็นโอกาสของรัฐบาลไทย ที่จะขายข้าวให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ ในรูปแบบจีทูจี หรือเข้าร่วมประมูลซื้อขายข้าวของฟิลิปปินส์ตามข้อกฎหมายของรัฐบาลฟิลิปปินส์ โดยคาดว่า ฟิลิปปินส์จะนำเข้าข้าวในปี 57 ประมาณ 1.4 ล้านตันอย่างไรก็ตาม สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแสดงความเห็นว่า ร่างบันทึกความตกลงนี้ เป็นการจัดทำบันทึกในทำนองเดียวกับความตกลงเดิมที่เคยได้ทำไว้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ ซึ่งหมดอายุลงแล้วเมื่อ 31 ธ.ค.56 และเป็นเพียงกรอบความตกลง ที่ทำให้รัฐบาลไทยสามารถเข้าร่วมการประมูลขายข้าว หรือเจรจาขายข้าวในรูปแบบจีทูจีกับฟิลิปปินส์เท่านั้น ซึ่งฝ่ายไทยจะต้องเสนอราคาขายข้าว และเงื่อนไขตามการประมูลซื้อข้าวของฟิลิปปินส์ หรือทั้งสองฝ่าย ต้องเจรจาในรายละเอียดเงื่อนไขการซื้อขายในภายหลัง ขณะเดียวกัน บันทึกฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่มีการลงนามไปจนถึงวันที่31 ธ.ค.59 และอาจต่ออายุตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันนอกจากนี้จากการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายังเห็นว่า ร่างบันทึกฉบับดังกล่าว ไม่ได้อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายระหว่างประเทศ จึงไม่เข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 180 ของรัฐธรรมนูญ และไม่เป็นการสร้างความผูกพันกับครม.ชุดใหม่
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไทยลุยขายข้าวให้ฟิลิปปินส์
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs