มีคนไทยรวมถึงคนต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่ชอบ “ดูดวง” และมีความเชื่อใน “ศาสตร์พยากรณ์” ขณะเดียวกันก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยมองว่าการดูดวงเป็นสิ่งที่งมงาย ชีวิตเราต้องลิขิตเอง ไม่ใช่ให้ “หมอดู” มาชี้นำกำหนดชะตาชีวิตของเรา อย่างไรก็ตาม “ศาสตร์พยากรณ์” ไม่ได้มีเฉพาะในไทยเท่านั้น ในหลาย ๆ ประเทศก็มีการยอมรับในเรื่องนี้ถึงกับมีการเปิดโรงเรียนสอน หรือเขียนเป็นตำราเพื่อใช้ในการดูดวงและทำนายชะตากันเลยทีเดียว และเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า “ศาสตร์พยากรณ์” ก็มีการพัฒนาเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยโดยการใช้คอมพิวเตอร์และโปรแกรมเข้ามาช่วยในการดูดวง จนกระทั่งเป็นแอพพลิเคชั่นดูดวงผ่านสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน เหมือนเช่น แอพพลิเคชั่น “มายโอราเคิล เดอะ คาโทแมนซี่” (myOrakle the Cartomancy) ที่พัฒนาโดยคนรุ่นใหม่ คือ “น้องโอม” นายณัฐปคัลภ์ ลิไชยกุล ที่ผ่านเวทีประกวดด้านไอทีมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้น ม.4 จนปัจจุบันได้จบการศึกษาจากภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ หลักสูตรนานาชาติ คณะวิศวกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) น้องโอม บอกถึงที่มาของแอพพลิเคชั่น มายโอราเคิล เดอะ คาโทแมนซี่ ว่า หลังจากได้มีโอกาสเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่ง อิมเม จิ้น คัพ 2012 รอบชิงชนะเลิศระดับโลก ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากกลับมาก็มีความคิดที่จะพัฒนาแอพพลิเค     ชั่นขึ้น แต่ก็ไม่มีเวลาเพราะติดเรียน จนกระทั่งจบการศึกษา จึงได้เริ่มลงมือพัฒนาแอพอย่างจริงจัง ซึ่งการเลือกแอพที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการดูดวง เนื่องจากพ่อแม่เป็นหมอดู และก็เขียนตำราดูดวงมาเป็น 10 ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันหนังสือก็ยังขายได้เรื่อย ๆ จึงคิดนำเนื้อหาของหนังสือที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาเป็นแอพพลิเคชั่นดูดวงผ่านสมาร์ทโฟน “ตอนแรกตั้งเป้าหมายไว้เลยว่าจะต้องพัฒนาแอพเพื่อใช้กับระบบปฏิบัติการไอโอเอส เนื่องจากตนชื่นชอบและใช้งานอุปกรณ์ของแอปเปิลอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น ไอโฟน ไอแพด แมคบุ๊ก แต่ไม่มีความรู้ในเรื่องไอโอเอสเลย จึงอาศัยการไปหาหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาแอพบนไอโอเอสมาอ่านและศึกษา ลองผิด ลองถูก ลงมือทำด้วยตัวเอง จนสามารถพัฒนาแอพ มายโอราเคิล เดอะ คาโทแมนซี่ เสร็จโดยใช้เวลาประมาณ 6 เดือน และเปิดให้ผู้สนใจดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรีบนแอพสโตร์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา” น้องโอม บอกต่อว่า สำหรับ มายโอราเคิล เดอะ คาโทแมนซี่ มีชื่อภาษาไทยว่า “ไพ่ยิปซีทำนายอนาคต” เป็นแอพพลิเคชั่นใช้ดูดวงผ่านไพ่ยิปซี และ ทาโร่ ชุดใหญ่ 22 ใบ รองรับ 2 ภาษา คือ ไทยและอังกฤษ โดยสามารถทำนายได้ 5 เรื่อง คือ เรื่องทั่วไป, การงาน, การเงิน, การเรียน และความรัก วิธีใช้งานเมื่อดาวน์โหลดผ่านแอพสโตร์ลงเครื่องแล้ว กดเข้าแอพแล้วเลือกว่าต้องการดูดวงเรื่องอะไร จากนั้นให้ใช้มือซ้ายสัมผัสที่ลูกแก้วที่มีแสงออกมาแล้วให้ตั้งจิต อธิษฐานแล้วให้เลือกไพ่มา 1 ใบ จาก 22 ใบ แล้วก็เลือกดูคำทำนาย ซึ่งในส่วนของความแม่นยำนั้น จากคนที่ทดลองใช้งานบอกว่าทำนายได้แม่นยำถึง 80-90% สำหรับความยากในการพัฒนาแอพนี้ น้องโอม บอกว่า ปัจจุบันคนพัฒนาแอพบนไอโอเอสในเมืองไทยยังมีอยู่น้อย และตนต้องทำเพียงคนเดียวจึงทำให้ผลงานสำเร็จออกมาช้า ขณะที่ระบบปฏิบัติการไอโอเอส มีการพัฒนาเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ออกมาต่อเนื่อง รวมถึงดีไวซ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน ไอโฟน และไอแพด ก็มีการออกรุ่นใหม่ ๆ มาอย่างเร็วและต่อเนื่อง หน้าจอก็มีขนาดแตกต่างกันไป ทำให้ต้องมีการอัพเดทแอพพลิเคชั่นให้รองรับใช้งานได้ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาเพราะต้องทำเพียงคนเดียว และขณะนี้ก็กำลังพัฒนาให้รองรับระบบปฏิบัติ การแอนดรอยด์ คาดว่าในอีก 2 เดือนข้างหน้าจะสามารถเปิดให้ดาวน์โหลดได้ผ่านกูเกิลเพลย์สโตร์ อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดให้ดาวน์ โหลดในแอพสโตร์ มาเดือนกว่ามียอดดาวน์โหลดแล้ว 2,000 ครั้ง และมียอดเพิ่มเฉลี่ยประมาณ 100-200 ดาวน์โหลดต่อวัน และที่ผ่านมาแอพพลิเคชั่นนี้ก็ติดอันดับ 1 ใน 12 ในหมวดไลฟ์สไตล์ ของแอพสโตร์มาอย่างต่อเนื่อง สำหรับช่องทางการหารายได้นั้น มาจากโฆษณาในแอพ และการเปิดให้ซื้อเพิ่มเติมภายในแอพ (In App Purchases) เช่น คำทำนายที่ละเอียดมากขึ้น ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 0.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32 บาท โดยขณะนี้เริ่มมีรายได้จากโฆษณาในแอพเข้ามาบ้างแต่ยังไม่มากส่วนการต่อยอดนั้น น้องโอม บอกว่า ในอนาคตเตรียมจะพัฒนาให้แอพมีโซเชียลเน็ตเวิร์กคนที่สามารถแชร์ดวงของตัวเองให้เพื่อน ๆ ดูได้ด้วย รวมถึงการดูดวงแบบอินเตอร์แอ๊คทีฟ ให้สามารถดูดวงแบบสด ๆ โต้ตอบแบบสองทาง หรือถาม-ตอบแบบเรียลไทม์ได้เลย สุดท้ายถามว่าวางแผนอนาคตต่อไปอย่างไร น้องโอม บอกว่า เพื่อน ๆ ที่เคยไปแข่งขันอิมเมจิ้น คัพ 2012 ด้วยกันก็แยกย้ายกันไปเรียนต่อและทำงานกันหมด ส่วนตนไม่อยากทำงานแบบลูกจ้างที่ต้องคอยทำงานตามคำสั่ง อยากที่จะทำงานอิสระไปก่อน ส่วนเรื่องเรียนต่อก็สนใจแต่อยากหาประสบการณ์ก่อนเพราะเป็นนิสัยมาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ทำผลงานส่งประกวดตลอดจนจบมหาวิทยาลัย ทำให้เรียนจบมาด้วยเกรดเฉลี่ยไม่ได้สูงมากนัก โดยตอนนี้มีโครงการที่จะพัฒนาแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่ง      เกี่ยวกับการบริหารจัดการเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม และตั้งเป้าหมายว่าอยากเปิดบริษัทด้านไอทีเป็นของตนเองให้ได้ในอนาคต ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองคนหนึ่ง ที่สนใจหาประสบการณ์และความรู้นอกห้องเรียนมากกว่าการอ่านทฤษฎีจากในตำราเพียงอย่างเดียว. จิราวัฒน์ จารุพันธ์ JirawatJ@dailynews.co.th

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘มายโอราเคิล เดอะ คาโทแมนซี่’ แอพดูดวงผ่านมือถือฝีมือคนไทย – ฉลาดสุดๆ

Posts related