ที่มหานครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน  นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภายหลังการร่วมงานเลี้ยงเปิดสาขาที่ 5 ของธนาคารกรุงเทพ ว่า รัฐบาลใหม่ต้องมาชี้แจงทั่วโลกและประชาชนในประเทศถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่าเป็นเพราะเหตุใดพร้อมชี้แจงถึงแนวทางบริหารประเทศว่ามีนโยบายอย่างไรบ้าง เพื่อดึงความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาโดยเร็ว “หลังจากเกิดการรัฐประหารขึ้นธปท. ธนาคารพาณิชย์ ตลาดหุ้นยังเปิดบริการปกติ ส่วนผลกระทบด้านเศรษฐกิจนั้นมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยัวแข็งแรงอยู่ แต่ยอมรับว่าความเชื่อมั่นจะถูกกระทบค่อนข้างมาก และจะทำให้จีดีพีขยายตัวค่อนข้างต่ำ แต่ไม่มีความเสี่ยงด้านเสถียรภาพ เช่น อัตราแลกเปลี่ยน อัตราเงินเฟ้อ ตลาดเครดิต และฐานะธนาคารพาณิชย์” ทั้งนี้ ธุรกิจที่น่าเป็นห่วงคือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เนื่องจากสายป่านสั้น และได้รับผลกระทบทางการเมืองขายของได้น้อย ส่วนครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ แต่ก่อหนี้เยอะ ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งเชื่อว่าถ้าความเชื่อมั่นกลับมาได้ คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี เพราะจุดสำคัญตอนนี้คือทุกคนเฝ้ารอคือการจัดตั้งรัฐบาล และความสามารถของรัฐบาลใหม่และการเรียกความเชื่อมั่นทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาชน  สำหรับกรณีมอร์แกน สแตนเลย์คาดว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าถึง 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐนั้น  ปัจจุบันค่าเงินบาทอยู่ระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือว่ามีเสถียรภาพ ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดยังเกินดุล ทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับที่สูง แม้ว่า นักลงทุนจะขายหุ้นออกไปบ้าง  ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะถูกลดอันดับเครดิตหลังการรัฐประหารนั้น สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมีเกณฑ์การวิเคราะห์อยู่แล้ว แต่เชื่อว่าหากมีการจัดตั้งรัฐบาล ความเชื่อมั่นจะกลับมาโดยเร็วและจะไม่กระทบต่อการจัดอันดับเครดิตของประเทศ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่าการทำรัฐประหารและการเลือกตั้งแตกต่างกันหรือไม่ นายประสารกล่าวว่า ทหารไม่อยากให้คนในประเทศชาติเกิดความแตกแยก และในช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมา ได้มีความอดทนมาตลอด แม้จะถูกกดดันและเรียกร้องหลายครั้งให้ออกมาปฏิวัติ ซึ่งที่ผ่านมาได้เรียกผู้ขัดแย้งมาคุยกัน แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ จึงได้ทำการรัฐประหาร และการรัฐประหารไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรกในไทย ซึ่งอดีตที่ผ่านมาก็มีหลายครั้ง ในระยะเวลา 3-6 เดือน จากนั้นก็มีการเลือกตั้ง “หากเทียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอียิปต์และยูเครน กลับตาลปัตร ซึ่งอียิปต์มีการเลือกตั้ง แต่มีผู้ชุมนุมค่อนข้างเยอะ จนกระทั่งโค่นล้มรัฐบาล ทหารยึดอำนาจได้ แต่งตั้งพลเรือนเป็นรัฐบาล และดูเหมือนชาติตะวันตกจะเข้าข้างคนที่โค่นล้มรัฐบาลเลือกตั้ง ล่าสุดยูเครนรัฐบาลมาจากเลือกตั้งมีผู้ชุมนุมมาก และโค่นรัฐบาลยูเครนได้ แต่รัฐบาลยูเครนเข้าข้างรัสเซีย ซึ่งก็เป็นเรื่องของผลประโยชน์ของประเทศ อย่างไรก็ตามจากการหารือกับเอกอัคราชทูตจีนใช้คำว่า ยืมอำนาจรัฐมาใช้ชั่วคราว ถ้าเป็นความหมายอย่างนี้จริงในอนาคต จะ เข้าสู่ ระบอบประชาธิปไตยได้” นายประสาร กล่าวถึงกรณีที่เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้รับการทาบทามให้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ถนัดและปฎิเสธที่จะตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ส่วนกรณีหากได้รับทาบทามเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น ได้ตอบเพียงว่า อยู่ตรงนี้ก็ดีแล้ว  สำหรับสิ่งแรกที่รัฐบาลใหม่จะต้องทำคือหาเงินไปจ่ายให้กับชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินในโครงการรับจำนำข้าว หลังจากนั้นถึงมาจัดลำดับในแต่ละเรื่องที่จะทำต่อไป  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “ประสาร”ปัดนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

Posts related