5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่นักธุรกิจ หรือผู้ประกอบการ มักจะละเลยไป เมื่อเริ่มต้นธุรกิจ สร้างความสำเร็จในธุรกิจได้บ้าง หรือแม้แต่เป็นนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่แล้วก็เถอะ บางคนยังหลงลืมสิ่งที่ควรจะต้องหลีกเลี่ยงในการทำธุรกิจไป
ทั้ง 5 ข้อที่ต้องหลีกเลี่ยงนี้ เหมาะสำหรับ คนที่เป็นนักธุรกิจทั่วๆ ไป แต่บางข้ออาจจะไม่เหมาะกับ คนที่เป็นนักธุรกิจที่เก่งฉกาจ ระดับเทพจริงๆ สำหรับเทพยดาเหล่านี้ อาจจะละเลยบางข้อได้ แต่ก็ไม่ควรจะละเลยทั้งหมด โดย ทั้ง 5 ข้อนี้ เริ่มจาก
1. มั่นใจในตัวเองมากเกินไป
“Don’t be cocky. Don’t be flashy. There’s always someone better than you.”
Tony Hsieh
“อย่าทะนงตน อย่าคุยโตโอ้อวด จงจำไว้ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า” เป็นคำพูดของ Tony Hsieh นักธุรกิจ ผู้เป็นหนึ่งใน Co-Founder และ CEO website www.Zappos.com
ความมั่นใจในการทำอะไรซักอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามั่นใจมากเกินไปอาจจะส่งผลเสียได้ เพราะคนๆ นั้น จะละเลยความเสี่ยงบางอย่างที่ต้องเผชิญ และกลายเป็นคนที่มองเหรียญเพียงด้านเดียว
นอกจากนี้ คนๆ นั้นจะฟังคนรอบตัวน้อยลง รับฟังความคิดเห็นของหุ้นส่วน หรือจากลูกน้องน้อยลง การตัดสินใจจะเต็มไปด้วย ความคิดที่ว่า “ข้าใหญ่ ข้าแน่ เอ็งจะไปรู้อะไร” อาจจะนำไปสู่ การลงทุนที่ไม่คุ้มค่า หรือการตัดสินใจทางธุรกิจที่นำไปสู่ความล่มจม
2. กำจัดทุกคนที่ขวางทาง
“Walking with a friend in the dark is better than walking alone in the light.”
Helen Keller
“ร่วมทางกับมิตรสหายในที่มืด ดีกว่าเดินทางอย่างเดียวดายในที่แจ้ง” เป็นคำพูดของ Helen Keller นักเขียน และนัก
ซุนวู เคยกล่าวไว้ว่า วิธีชนะศึกที่ดีที่สุด คือ “การชนะโดยไม่ต้องรบ” อาจจะด้วยการฑูต หรือวิธีอื่นก็แล้วแต่ สิ่งที่พยายามจะสื่อในข้อนี้ คือ ขอให้คุณหลีกเลี่ยงการปะทะโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นผู้ร่วมงานของคุณ หรือบริษัทคู่แข่งก็ตาม
ในแง่ของความขัดแย้งกับผู้ร่วมงานของคุณ ขอให้คุณพูดคุยกันด้วยเหตุผล และให้เห็นประโยชน์ของธุรกิจเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่จ้องแต่จะพูดเพื่อเอาชนะผู้ร่วมงานของคุณอย่างเดียว มันจะกลายเป็น “ชนะศึก แต่ชนะสงคราม”
ส่วนการสู้กับคู่แข่ง มันคงจะสร้างสรรค์กว่า ถ้าแข่งกันด้วย จุดเด่น หรือคุณภาพของสินค้า ไม่ใช่จะทำให้คู่แข่งออกจากตลาดไป เพราะว่าคุณตัดราคาแล้วทำให้เค้าอยู่ไม่ได้ เพราะที่สุดแล้ว คุณจะโดนธุรกิจที่มีต้นทุนต่ำกว่า ตัดราคาและทำให้คุณเจ๊งเช่นกัน
3. อย่าทำให้ตัวคุณเป็นระบบเสียเอง
“It’s all about quality of life and finding a happy balance between work and friends and family.”
Philip Green
“คุณภาพชึวิตคือทุกสิ่งทุกอย่าง คุณจำเป็นผสมผสาน เพื่อหาความลงตัวระหว่าง หน้าที่การงาน เพื่อนฝูง และครอบครัวให้ได้” เป็นคำพูดของ Sir Philip Green นักธุรกิจ Founder และ CEO ของ Arcadia Group เจ้าของแบรนด์ Topshop ชาวอังกฤษ
การสร้างธุรกิจ คือ การสร้างระบบขึ้นมา เพื่อให้กิจการมันเดินได้ด้วยตัวเอง ถ้าคุณกังวลไปเสียทุกอย่าง และไม่มอบหมายกระจายงาน และอำนาจในการตัดสินใจไปให้กับ ลูกน้องของคุณเลย นำเอาทุกสิ่งทุกอย่างมารวมศูนย์ไว้ที่ตัวคุณเอง
มันก็ไม่ต่างอะไรกับ การที่คุณเป็นตัวระบบเสียเอง เหมือนกับ อาชีพอิสระ ที่คุณห้ามป่วย ห้ามพักผ่อน และห้ามตาย ไม่งั้นธุรกิจก็ไม่สามารถเดินได้ ซึ่งมันส่งผลเสียทั้งตัวธุรกิจ และชีวิตส่วนตัวของคุณ
4. ประมาท
“Only the paranoid survive”
Andy Grove
“ผู้ที่หวาดวิตกกับอุปสรรคเท่านั้นที่อยู่รอด” เป็นคำพูดของ Andy Grove นักธุรกิจ ผู้เป็นหนึ่งใน Co-Founder และ CEO ของบริษัท Intel ชาวอเมริกัน
นักธุรกิจหลายคน โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้นำตลาด มักจะประมาทคู่แข่งขัน และมองว่า สินค้าของคู่แข่งขัน ด้อยกว่า ตอบโจทย์ผู้บริโภคไม่ได้ และไม่ใช่คู่มือของธุรกิจตน
แต่ประวัติศาสตร์การทำธุรกิจ ได้พิสูจน์แล้วว่า สิ่งนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในการดำเนินธุรกิจ เช่น เมื่อ Apple เข้ามาสู่ตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ในปี 1976 บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการคอมพิวเตอร์ ต่างคิดว่าคงไม่มีใครอยากมีคอมพิวเตอร์ไว้ที่บ้าน
แต่ Apple ก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าจริงๆ แล้ว คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล นั้นเป็นตลาดที่ีขนาดใหญ่มาก และทุกคนก็อยากได้มาไว้ที่บ้าน ไม่ใช่แค่มีใช้ที่ทำงานเท่านั้น ทำให้ DEC ที่เคยเป็นบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกต้องเลิกกิจการไป
5. ยึดติดกับความสำเร็จเดิม และไม่เรียนรู้สิ่งใหม่
“Markets come and go. Good businesses don’t”
Fred Wilson
“เทคนิคทางการตลาด มาแล้วก็ไป มีเพียงธุรกิจที่ดีจริงๆ เท่านั้นที่คงอยู่” เป็นคำพูดของ นักธุรกิจ ผู้เป็นหนึ่งใน Co-Founder ของบริษัท Union Square Ventures ชาวอเมริกัน
ทุกสิ่งทุกอย่างในเส้นทางธุรกิจของคุณ เริ่มต้นจากคุณ อยากทำธุรกิจส่วนตัว และสร้างธุรกิจมาได้จนสำเร็จ แต่ทุกสิ่งไม่ได้จบลงเพียงแค่ขั้นตอนการสร้างธุรกิจเท่านั้น เมื่อสร้างมาได้แล้ว ก็จำเป็นต้องรักษาให้มันอยู่รอดต่อไปได้ด้วย
หลายต่อหลายครั้ง ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทำให้นักธุรกิจบางคนเหลิง และคิดว่าแค่ใช้วิธีเดิมๆ ก็ดีพอแล้ว จึงไม่ยอมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก
ซึ่งเมื่อคนเหล่านี้เลือกที่จะอยู่กับที่ ไม่พัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้ดีกว่าเดิม มันก็เหมือนกับการถอยหลังเข้าคลอง เพราะขณะที่เค้าอยู่กับที่ คู่แข่งของเค้าทุกคนต่าง เดินไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา ธุรกิจของเค้าจึงเสื่อมถอยลงในที่สุด
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs