นาวาอากาศตรีพงศภีระ ไพศาลกุลวงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคง และมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุเที่ยวบินที่ ทีจี 476 เส้นทาง ซิดนีย์ – กรุงเทพฯ เครื่องบินแบบโบอิ้ง 747 ซิดนีย์-กรุงเทพฯ เกิดร่อนลงฉุกเฉินหลังพบว่า กระจกด้านขวาในห้องนักบินมีรอยร้าวว่า เที่ยวบินดังกล่าวออกจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 12 ส.ค.57 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) และบรรทุกผู้โดยสาร 273 คน นักบินและลูกเรืออีก 21 คน แต่ขณะทำการบินมุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ 6 ชั่วโมง กัปตันพบว่า กระจกด้านขวาในห้องนักบินมีรอยร้าว  ดังนั้นจึงประสานงานกับหน่วยงานภาคพื้นดิน เพื่อขอนำเครื่องลงจอดที่ท่าอากาศยานเดนปาซาร์ บาหลี ประเทศอินโดนีเซียฉุกเฉิน เมื่อเวลา 16.52 น. (เวลาท้องถิ่น) ซึ่งเป็นท่าอากาศยานที่ใกล้ที่สุด โดยได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลความปลอดภัยของผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด และมีการดูแลผู้โดยสารเป็นอย่างดี นำเข้าพักที่โรงแรมในบาหลีเรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 13 ส.ค. 57 การบินไทยจะนำผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวเดินทางกลับมายัง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยเครื่องบินลำใหม่ในเที่ยวบิน ทีจี 476 เส้นทาง ซิดนีย์ – บาหลี – กรุงเทพฯ  คาดจะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 20.10 น. ในวันที่ 13 ส.ค. 57  รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมาเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ก็ยังพบปัญหากระจกร้าว จนต้องมีการเปลี่ยนเครื่องบินใหม่  ทางพล.อ.อ.ศิวเกียรติ์ ชเยมะ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในเบื้องต้นสั่งการให้ร้อยโทอธิศักดิ์ พัดชื่นใจ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ กลับไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและแนวทางแก้ไขปัญหาให้ตนรับทราบภายในต้นสัปดาห์หน้า “หากภายหลังตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ากระจกเครื่องบินร้าว เนื่องจากเครื่องเก่า ตามที่มีผู้โพสต์เฟซบุ๊กจริง การบินไทยจะต้องเร่งแก้ไข รวมทั้งต้องกลับไปทบทวนการ นำเครื่องขึ้นบินในเส้นทางการบินระยะไกลใหม่ทั้งหมด หากต้องบินในระยะไกลที่มีเพดานบินสูงนั้นอาจต้องนำเครื่องใหม่มาทำการบินแทน เพื่อเพิ่มความปลอดภัย”    ร้อยโทอธิศักดิ์พัดชื่นใจ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการกล่าวว่าจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าปัญหากระจกร้าวจากทั้ง 2 เที่ยวบินเกิดขึ้นกับกระจกบริเวณด้านขวาห้องนักบิน ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากระบบทำความร้อน(ฮีทเตอร์) ที่ติดตั้งไว้ในกระจก ทำให้อุณหภูมิภายในกับภายนอกไม่สมดุลกันจนทำให้เกิดรอยร้าวขึ้น “ปกติกระจกบริเวณกระจกห้องนักบินจะมีการคติดตั้งฮีตเตอร์เพื่อหล่อเลี้ยงความร้อนให้กระจกตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำแข็งเกาะหรือเกิดฝ้า เวลาที่บินอยู่ระดับสูงที่บรรยากาศภายนอกมักจะติดลบต่ำกว่าจุดเยือกแข็งประมาณ ลบ 40-50 องศา   แต่เมื่อฮีตเตอร์ทำงานผิดพลาดก็อาจเกิดปัญหากระจกร้าวขึ้นได้ แต่ที่ผ่านมาเราพบปัญหาลักษณะนี้น้อยมากซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาที่น่ากลัวอะไร  เพราะรอยร้าวที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นรอยร้าวที่เกิดขึ้นกับกระจกบริเวณชั้นนอกสุด ซึ่งกระจกห้องนักบินมีความหนานถึง 7 ชั้น  หรือหนาประมาณ 2นิ้วแต่เพื่อความปลอดภัยนักบินส่วนใหญ่จะขอลงจอดฉุกเฉินเพื่อทำการซ่อมแซมก่อนทำการบินใหม่แต่ยืนยันว่าไม่ได้เกิดปัญหาจากมาตรฐานเที่ยวบิน หรือเครื่องเก่าเพราะเพิ่งใช้มา10 ปี”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บินไทยชี้แจงกระจกห้องนักบินร้าว

Posts related