นายบัณทิต เอื้ออาภรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพความเสียหายรางรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ ของบริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ว่าเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การเผยแพร่ภาพดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลบางส่วน จึงไม่เพียงพอที่จะตัดสินว่ารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์อยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย เพราะไม่ได้บอกปริมาณความเสียหาย ตำแหน่งที่เกิด เวลาที่ถ่ายภาพได้ และไม่มีการระบุถึงความถี่หรืออัตราที่เกิดความเสียหายเช่น สปริงว่ามีกี่จุด หากเกิดขึ้นเพียง 1 -2 จุด ก็ไม่อันตราย เป็นต้น แต่เห็นควรเร่งดำเนินการซ่อมบำรุงโดนเร็ว นายประมวล สุธีจารุวัฒน อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิศวกรรมอุตสาหการ กล่าวว่า การซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าแบ่งเป็น ซ่อมบำรุงเบาในระดับรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หากไม่ผ่านมาตรฐานขั้นต่ำก็ไม่สามารถนำรถไฟฟ้าออกไปให้บริการได้ และงานซ่อมบำรุงหนัก เพื่อตรวจสอบสภาพทั้งระบบ มีรอบที่จะตรวจสอบทั้งระบบเมื่อวิ่งให้บริการครบ 1.2 ล้านกิโลเมตร แต่เมื่อเดือน ส.ค.57 ที่ผ่านมา มีรถที่ให้บริการ 1.2 ล้านกิโลเมตรแล้ว แต่เกิดความความล่าช้าในการหาผู้ซ่อมบำรุง ส่งผลทำให้ขาดความน่าเชื่อถือในเรื่องระบบความปลอดภัยจึง เสนอว่าจะต้องเร่งซ่อมบำรุงโดยเร็วที่สุด หากต้องรอเซ็นสัญญาจ้างซ่อมบำรุงอีก 4-5 เดือน และรออะไหล่อีก 10 เดือน คาดว่าจะล่าช้าเกินไป ทั้งนี้แม้ว่าระบบรถไฟฟ้าจะมีระบบป้องกันความปลอดภัย หรือชั่วโมงเดินรถบวกได้อีก 10% หรือ 1.32 กม. ก็ตาม หากไม่เร่งซ่อมบำรุงจะกระทบต่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานรวมทั้งการรับรองทางวิศวกรรม แม้ว่าผู้โดยสารจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะโอกาสเกิดอุบัติเหตุแบบสุดวิสัยมีน้อยมาก ดังนั้นหากไม่มีการซ่อมบำรุงก็ควรปรับตารางการเดินรถหรือปรับลดความเร็วแทน นอกจากนี้ ยังเสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรกลางทำหน้าที่กำกับดูแลมาตรฐานโครงการรถไฟฟ้า เพื่อดูแลเรื่องการออกแบบ ก่อสร้าง ตลอดจนการให้บริการเดินรถ เพื่อลดข้อจำกัดที่เกิดจากหน่วยงานที่ทำหน้าที่วางแผน ออกแบบระบบ และตรวจสอบเพื่อประเมินการซ่อมบำรุง เช่นเดียวกับ กรมการขนส่งทางบก ที่ดูแลความปลอดภัยเรื่องรถทั้งหมด ซึ่งจะช่วยรองรับการขยายตัวของโครงการรถไฟฟ้าและระบบขนส่งทางรางในอนาคต “สิ่งที่ต้องการจะบอกในวันนี้ว่า รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์แม้จะได้รับการตรวจสภาพเป็นระยะและมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงการซ่อมบำรุงหนัก หากไม่ดำเนินการจะมีความเสี่ยง จึงจำเป็นที่ต้องเร่งเซ็นสัญญาจ้างซ่อมโดยเร็ว และเพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนกตกกับภาพที่เกิดขึ้น” ด้านนายนักสิทธิ์ นุ่มวงษ์ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ ตั้งข้อสังเกตว่าหากมีการซ่อมบำรุงหลังขบวนรถวิ่งให้บริการเกิน 1.32 ล้านกิโลเมตรว่า จะมีผลต่อความน่าเชื่อถือเพราะส่งผลต่อระบบการเดินรถ และต้องปรับลดความเร็ว ซึ่งจะส่งผลในเรื่องความไม่แน่นอนของเวลา และคาดเดาไม่ได้ว่าชิ้นส่วนใดจะเกิดปัญหา

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แนะซ่อมบำรุงรถ-รางลดความเสี่ยง

Posts related