ดร.อัจฉรา วงศ์แสงจันทร์ รองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) เปิดเผยว่า ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีการติดตั้งเครื่องมือที่ใช้สำหรับประโยชน์ทางการแพทย์ ที่เรียกว่า “เครื่องโปรตอน เธอราพี( Proton therapy)” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการรักษาโรคมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอนที่มีคุณสมบัติทำลายเซลล์มะเร็งที่จุดท้ายสุดของรังสี (end of path) และสามารถเพิ่มปริมาณรังสีให้สูงมากขึ้นได้ โดยมีผลข้างเคียงต่อเนื้อเยื่อปกติโดยรอบเซลล์มะเร็งน้อยมาก  ทั้งนี้ในอนาคตอันใกล้นี้ คาดว่าจะมีการนำเครื่องมือชนิดนี้เข้ามาใช้ประโยชน์ในประเทศโดยความร่วมมือของสถาบันวิจัย สถาบันการศึกษา และหน่วยงานทางการแพทย์ เพื่อประโยชน์ในการวิจัยและพัฒนาการรักษามะเร็งให้ได้ผล และเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ป่วยคนไทยในอนาคต อย่างไรก็ดี ปส. เล็งเห็นความสำคัญในการกำกับดูแลเครื่องมือหรืออุปกรณ์ชนิดใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีการใช้มาก่อนภายในประเทศไทย จึงเร่งให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องศึกษาและเตรียมความพร้อมในการกำกับดูแลความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดทั้งผู้ปฏิบัติงาน ผู้รับบริการ และประชาชนทั่วไป สำหรับอนุภาคโปรตอน จากเครื่อง Proton therapy ได้มาจากการแยกไฮโดรเจนไอออน ซึ่งทำให้เกิดพลังงานสูงจากการเหนี่ยวนำอนุภาคด้วยพลังแม่เหล็ก แล้วนำไปเร่งความเร็วด้วยเครื่องเร่งพลังงานไซโคลตรอน เพื่อให้ความเร็วของอนุภาคโปรตอนเท่ากับความเร็วแสง และรวมประจุเข้าด้วยกันเป็นลำแสงสำหรับใช้ในการรักษา และเมื่อปล่อยลำแสงอนุภาคโปรตอนเข้าสู่ร่างกายจะใช้พลังงานไม่มาก ทำให้การกระจายตัวของปริมาณอนุภาคโปรตอนเมื่อเข้าไปในเนื้อเยื่อมีรูปร่างและความลึกจำเพาะ (Bragg peak) ทำให้สามารถกำหนดให้รังสีชนิดนี้กระจายจำกัดอยู่เฉพาะในบริเวณที่ต้องการได้เป็นอย่างดี ไม่ทะลุไปถูกอวัยวะที่อยู่ลึกกว่าที่กำหนดไว้ ซึ่งจะช่วยป้องกันเนื้อเยื่อปกติที่อยู่ใกล้เคียงรอบ ๆ ให้ได้รับปริมาณรังสีน้อยที่สุด วิธีการนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อการรักษามะเร็งในเด็ก มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งไขสันหลัง เนื่องจากมะเร็งเหล่านี้อยู่ใกล้กับอวัยวะสำคัญ ส่วนข้อจำกัดของเครื่อง Proton therapy คือ จะมีราคาที่สูงถึง 3-4 พันล้านบาท และใช้พื้นที่ในการติดตั้งเครื่องค่อนข้างมาก ประมาณ 6.12 ไร่  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ปส. เตรียมพร้อมกำกับดูแลเครื่องรักษามะเร็งด้วยโปรตอน

Posts related