เมื่อเวลา 13.30 น.(7 พค.2557) ที่ตึกจามจุรี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดแถลงข่าวเรื่อง “แผ่นดินไหว…รับมืออย่างไร”เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน โดยมีศ.นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดี จุฬา ฯเป็นประธานในการแถลงข่าว ร่วมกับทีมนักวิจัยที่เกี่ยวข้องรศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา และหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหว คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในไทยช่วงหลังมานี้รวมถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่อำเภอพาน จ.เชียงราย พบว่ารอยเลื่อนที่เกิดในระดับตื้น7-15 กิโลเมตร จากพื้นผิวดินซึ่งส่งผลกระทบมากนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นรอยเลื่อนที่มีขนาดสั้น ๆ ไม่ยาว ทำให้หน่วยงานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแผ่นดินไหวและรอยเลื่อนมักไม่ให้ความสนใจ เรียกว่าเป็นรอยเลื่อนนอกสายตาเหมือนกับการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ที่เกิดจากรอยเลื่อนพะเยาซึ่งมีขนาดความยาวประมาณ 14 กิโลเมตร แม้จะเป็นรอยเลื่อนมีพลัง แต่นักธรณีวิทยาก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขนาดนี้ได้ทำให้ต่อไปนี้ต้องหันมาเฝ้าระวังรอยเลื่อนต่าง ๆ มากขึ้นทั้งนี้จากงานวิจัยที่ผ่านมาพบว่ารอยเลื่อนพะเยาในอดีตเคยเกิดแผ่นดินไหว คำนวณได้ประมาณ 5 -5.6 ริกเตอร์ ประกอบกับรอยเลื่อนดังกล่าวเป็นรอยเลื่อนบนหินแข็ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรอยเลื่อนตามลำน้ำแม่ลาว ทำให้นักวิชาการไม่ได้เฝ้าสังเกตมากนัก เพราะรอยเลื่อนมีพลังมักเกิดในตะกอนหรือหินตะกอนที่มีอายุน้อยๆ มากกว่า ขณะเดียวกันสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังในขณะนี้คือรอยเลื่อนที่อยู่ใกล้เคียงหรืออยู่แนวเดียวกับรอยเลื่อนพะเยาที่จะมีการปรับตัวของดินใต้แผ่นเปลือกโลกอีกด้วยนอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังรอยเลื่อนในประเทศเพื่อนบ้านเช่นพม่าและลาวที่อาจส่งผลกระทบถึงไทยและที่สำคัญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเฝ้าระวังรอยเลื่อนแม่จัน เนื่องจากรอยเลื่อนนี้ถึงรอบของการไหวหรือคาบอุบัติซ้ำสำหรับการคาดการณ์แนวโน้มของการแผ่นดินไหวว่าจะมีมากขึ้นหรือไม่นั้น รศ.ดร.ปัญญา กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีไหนบอกได้อย่างชัดเจนว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่สามารถเก็บสถิติของเหตุการณ์เพื่อนำไปวิจัยและเฝ้าระวังเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดได้ ขณะนี้บอกได้แต่เพียงว่าพื้นที่ไหนเสี่ยงต่อแผ่นดินไหวโดยดูจากแผนที่รอยเลื่อนพาดผ่าน อย่างไรก็ดีรศ.ดร.ปัญญา กล่าวเตือนว่า คนไทยมักลืมง่าย อย่างเหตุการณ์สึนามิใหญ่เมื่อปี2547 ปัจจุบันพื้นที่ที่เคยถูกสึนามิถล่ม ก็ยังมีสิ่งปลูกสร้างกลับมาเต็มเหมือนเดิมซึ่งบอกได้เลยว่าสึนามิเคยเกิดตรงไหน หากเกิดอีกครั้งก็มักจะโดนในพื้นที่เดิม ๆซึ่งควรที่จะมีการเตรียมความพร้อมในการรับมืออยู่เสมอ
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : จุฬา ฯย้ำนักธรณีเปลี่ยนแนวคิดจับตารอยเลื่อนขนาดเล็กมากขึ้น
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs