shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

สศช.เผยชาวบ้านหนี้พุ่งเกือบ 1.6 แสนบาท

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภาวะสังคมไทยไตรมาสที่ 4 ทั้งปี 56 และแนวโน้มปี 57 ว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 56 ครัวเรือนมีหนี้สินมากถึง 159,492 บาทต่อครัวเรือน หรือเพิ่มขึ้น 8.7% แบ่งเป็น หนี้เพื่อใช้ซื้อหรือเช่าชื้อบ้านและที่ดินเพิ่มขึ้น 17% ต่อปี หนี้เพื่ออุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น 7.8% ต่อปี ซึ่งรวมการซื้อรถยนต์คันแรก และการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคชดเชยความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม และหนี้เพื่อใช้ในการเกษตรเพิ่มขึ้น 3.4%ต่อปี โดยส่วนหนึ่งมาจากแรงจูงใจของโครงการรับจำนำข้าวทำให้มีการขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นขณะที่ ครึ่งปีหลัง แม้ว่าการใช้จ่าย และหนี้สินครัวเรือ นเริ่มชะลอลง แต่ยังมีการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น โดย ณ ไตรมาสที่ 4 ยอดคงค้างของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคล เพิ่มขึ้น 26.6% สินเชื่อภายใต้กำกับผิดนัดชำระหนี้เกิน 3 เดือน เพิ่มสูงถึง 45.8% คิดเป็นมูลค่า 10,920 ล้านบาท ขณะที่ยอดค้างชำระบัตรเครดิต 3 เดือน เพิ่มขึ้น 31.3% ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวยังเป็นสัดส่วนน้อยในภาพรวมของสินเชื่อ แต่เป็นเครื่องชี้ว่าความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนเริ่มลดลง ส่วนแนวโน้มในปี 57 ต้องติดตามการก่อหนี้เพิ่มเติมและความสามารถชำระหนี้เดิม ซึ่งขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนและค่าจ้างของแรงงานส่วนทั้งปี 56 การจ้างงานลดลง 0.05% จากปีก่อน โดยภาคเกษตรจ้างงานลดลง 0.12% และภาคนอกเกษตรจ้างงานลดลง 0.01% โดยในช่วงครึ่งแรกของปีมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการของรัฐบาลที่ต่อเนื่อง เช่น รถยนต์คันแรก โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ส่งผลให้การจ้างงานเพิ่มขึ้น แต่ช่วงครึ่งหลังของปีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองส่งผลให้การจ้างงานลดลง ผู้ว่างงานเฉลี่ย 284,011 คน คิดเป็นอัตราการว่างงาน 0.72% เพิ่มขึ้นจากอัตรา 0.66% ในปีก่อนนอกจากนี้ แนวโน้มการจ้างงานในปี 57 ตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ 3-4% แม้ว่าจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ 4-5% แต่ก็แสดงถึงแนวโน้มการจ้างงานที่อาจเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัจจัยบวกที่คาดว่าอาจจะมีผลต่อภาวการณ์มีงานทำ และรายได้ของประชาชน คือการส่งออกสินค้าที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีกว่าปีก่อน ส่วนปัจจัยที่จะส่งผลลบต่อการจ้างงาน คือ ความล่าช้าของการดำเนินโครงการลงทุนภาครัฐ ความเชื่อมั่นของธุรกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง รวมทั้งปัญหาภัยแล้งด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สศช.เผยชาวบ้านหนี้พุ่งเกือบ 1.6 แสนบาท

Posts related

 














กบข.ยันไม่ได้ซื้อพันธบัตรจ่ายหนี้จำนำข้าว

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากระทรวงการคลังเตรียมออกพันธบัตรเพื่อกู้เงินจากกบข. วงเงิน 50,000 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายหนี้ค่าจำนำข้าวให้กับชาวนา ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงเพราะจากการสอบถามไปยังนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง และในฐานะประธานกรรมการกบข. ในช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.พ.) ยังได้รับการยืนยันว่ากระทรวงการคลังไม่เคยมีแนวคิดให้กบข.เข้ามาซื้อพันบัตรเพื่อไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าวส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากบข.จะมีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันนี้ ก็ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเช่นกัน เนื่องจากไม่ได้มีการเรียกประชุมบอร์ด เป็นการเร่งด่วนเพื่อพิจารณาและขออนุมัติในเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษแต่อย่างใด แต่เป็นการประชุมภายในเรื่องอื่นๆโดยกบข.จะมีการประชุมบอร์ดตามวาระปกติอีกครั้งในปลายเดือนมี.ค.นี้ นอกจากนี้ เงินของกบข.ส่วนใหญ่ได้ลงทุนผูกพันในสินทรัพย์เพื่อสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องในระยะยาวเต็มพอร์ตแล้ว และในแต่ละเดือนกบข.มีเงินของสมาชิกเข้าออกสุทธิประมาณ1,000ล้านบาทและได้จัดสรรการลงทุนเพื่อเป็นไปตามนโยบาย คือลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่น้อยกว่า 60%ที่เหลือเป็นการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ อาทิ หุ้น การลงทุนทางเลือก ประมาณ 40% ขณะเดียวกัน กบข. ไม่สามารถปล่อยกู้เหมือนธนาคารพาณิชย์ทั่วไปได้ "ในการลงทุนแต่ละครั้งกบข.จะมีเกณฑ์การตัดสินใจลงทุนโดยพิจารณาความเสี่ยงทุกด้าน ทั้งความไม่แน่นอน รวมถึงด้านกฎหมายด้วยโดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนสูงกว่าเงินเฟ้ออีกอย่างน้อย 2-3%หรือต้องมีผลตอบแทนรวมต่อปี5-7%ขึ้นไปเพื่อความเพียงพอของเงินออมหลังเกษียณของสมาชิก”นายสมบัติกล่าว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กบข.ยันไม่ได้ซื้อพันธบัตรจ่ายหนี้จำนำข้าว

หุ้นไทยภาคเช้าปิดร่วง 5.92 จุด หลังการเมืองเดือด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้(24 ก.พ.) ดัชนีปรับลดลงทันทีที่เปิดตลาด จากนั้นก็อ่อนตัวในแดนลบตลอดการซื้อขายตามแรงเทขายของนักลงทุนโดยเฉพาะหุ้นในเครือชินวัตรที่ยังถูกเทขายต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์การเมืองในประเทศที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นหลังสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดตราดและบริเวณแยกราชประสงค์ กดดันให้หุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,298.29 จุดลดลง 5.92 จุด หรือ 0.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย9,916.52ล้านบาท   สำหรับราคาหุ้นในเครือชินวัตรนั้น ก็ปรับลดลงยกแผงตามภาพรวมของตลาดหลังเช้าวันนี้ยังมีการชุมนุมต่อต้านธุรกิจในเครือชินวัตรต่อเนื่องโดยหุ้นที่ถูกเทขายมากที่สุด คือ บมจ. เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น หรือเอ็มลิงค์ปิดที่ 2.90 บาท ลดลง 0.12 บาท หรือ 3.97% รองลงมาคือ บมจ.แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส ปิดที่ 204.00 บาท ลดลง 6.00บาท หรือ 2.86% ,บมจ. ชิน คอร์ปอเรชั่น หรืออินทัช ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง 1.75บาท หรือ 2.43% , บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือเอสซี ปิดที่3.04 บาท ลดลง 0.04 บาท หรือ 1.30% และบมจ.ไทยคม ปิดที่ 39.50บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.25%             

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หุ้นไทยภาคเช้าปิดร่วง 5.92 จุด หลังการเมืองเดือด

Page 1004 of 1552:« First« 1001 1002 1003 1004 1005 1006 1007 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file