shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

หุ้นไทยวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ปิดร่วง 5.21 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 19 ก.พ. ดัชนีแกว่งตัวผันผวน ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นได้ทันทีที่เปิดตลาดจากนั้นก็ยืนบวกได้ช่วงเช้า แต่พอเปิดตลาดภาคบ่ายเริ่มอ่อนตัวลงตามแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นกระจายในหุ้นกลุ่มต่างๆ เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศส่งผลให้หุ้นไทยลดลงต่ำสุดที่ 1,318.55 จุด ทะยานขึ้นสูงสุดที่ 1,332.55 จุด จนมาปิดตลาดที่ 1,321.00 จุด ลดลง 5.21 จุด หรือ 0.39% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30,793.32 ล้านบาท   สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด5 อันดับแรก 1. เอไอเอสปิดที่ 217.00 บาท ลดลง 2.00 บาท 2. ทอท. ปิดที่ 188.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท 3. ธ.กรุงเทพ ปิดที่ 172.50 บาท ลดลง 3.50 บาท 4. จัสมิน ปิดที่ 7.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท 5. อินทัช ปิดที่ 73.75 บาท ลดลง 1.00 บาท   

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หุ้นไทยวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ปิดร่วง 5.21 จุด

Posts related

 














กสิกรไทยรุกบัตรเดบิตเปิดตัวเฮลโลคิตตี้

นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย  เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าออกบัตรเดบิตใหม่ปีนี้อีก 5 ล้านใบทำให้สิ้นปีมีบัตรเดบิตกว่า 11 ล้านใบ โดยเน้นขยายฐานร้านค้ารับบัตร เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าใช้บัตรในการซื้อของเพิ่มขึ้น  เช่น เมนูพิเศษกับร้านค้าแมคโดนัลด์  การทำตั๋วหนังราคาพิเศษกับเครือเมเจอร์ เอสเอฟ  เพราะต้องการกระตุ้นยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้นอีก 70% หรือคิดเป็นมูลค่า 50,000 ล้านบาท จากในปี 56 อยู่ที่ 33,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับให้ธนาคารเป็นผู้นำบัตรเดบิตที่มียอดใช้จ่ายบัตรสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของสถาบันการเงินในอาเซียน จากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 3  ขณะที่อันดับ 1 เป็นสถาบันการเงินของอินโดนีเซียนอกจากนี้จะขยายช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพราะปัจจุบันมีการทำรายการผ่อนอีคอมเมิร์ซเติบโตถึง 50% ในกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มคนทำงาน  ทั้งนี้ในไตรมาส 1/57 ได้เปิดตัวบัตรเดบิตเฮลโล คิตตี้  ซึ่งเป็นบัตรเดียวที่สามารถใช้ได้ที่ตู้เอทีเอ็ม การใช้จ่ายผ่านร้านค้าที่ร่วมโครงการกับธนาคาร  ร้านค้าออนไลน์หรือเว็บไซต์  เพราะหลังจากที่เปิดตัวในช่วง2 ปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ดังนั้นเพื่อฉลองครบรอบ 40  ของเฮลโล คิดตี้จึงออกบัตรเดบิตให้ลูกค้าได้เลือกเป็นเจ้าของ 3 ลาย คือลายลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่บริษัท ซานริโอออกลายขึ้นมาใหม่เป็นลายที่ใช้กับธนาคารเพียงแห่งเดียวเท่านั้น  และเค-มายเดบิต  เป็น ลายเฮลโล คิตตี้ควงคู่มากับดาเนียล  และเค-แม็กซ์ เดบิต การ์ด เป็นรูปเฮลโล คิตตี้ กับผลเชอรี่แดง  ตั้งเป้าการออกบัตรแคมเปญนี้ไว้ที่ 500,000 ใบ   โดยลูกค้าที่เข้าร่วมแคมเปญนี้เพียงจ่ายค่าแรกเข้าและค่าธรรมเนียม 2,000 บาท จะได้รับกระเป๋าเดินทาง สมุดบัญชี และซองพาสติกอเนกประสงค์เป็นลายเดียวกัน  เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่  อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้ใช้บัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตรวมประมาณ 57ล้านใบ แบ่งเป็นบัตรเอทีเอ็มประมาณ 15 ล้านใบและบัตรเดบิตประมาณ 42 ล้านใบมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตในประเทศปี 56 อยู่ที่ประมาณ 98,000 ล้านบาท

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสิกรไทยรุกบัตรเดบิตเปิดตัวเฮลโลคิตตี้

เตือนร้านค้าระวังแสตมป์บุหรี่ปลอม

นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ สมาคมฯ เป็นกังวล เนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าบุหรี่ที่รับซื้อมาเป็นแสตมป์ยาสูบปลอม เพราะตามกฎหมายแล้ว หากร้านค้ามีบุหรี่แสตมป์ปลอมจะต้องโดนดำเนินคดีเสียค่าปรับจำนวนมาก โดยช่วงที่ผ่านมาได้มีการแจ้งจากร้านค้าในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเข้าตรวจร้านและโดนจับปรับจากบุหรี่นำเข้าราคาถูกที่ติดแสตมป์ปลอม ส่งผลให้บางร้านมีมูลค่าที่ถูกปรับสูงถึง 1.5 ล้านบาท “ปัจจุบันมีการนำเข้าบุหรี่ราคาถูกยี่ห้อใหม่ๆ เข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะส่วนใหญ่ร้านค้าได้ถูกปรับแสตมป์ยาสูบปลอมจากบุหรี่ราคาถูกที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงร้านขายส่ง ร้านโชว์ห่วย และร้านสะดวกซื้อควรระมัดระวังกรณีดังกล่าว ซึ่งสมาคมฯ ขอเตือนให้ร้านค้าระมัดระวังในการซื้อสินค้าจากแหล่งที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่มีราคาถูกมากอย่างเหลือเชื่อ เพราะอาจเป็นสินค้าที่ติดแสตมป์ยาสูบปลอม โดยควรซื้อสินค้าจากตัวแทนจำหน่ายที่ไว้ใจได้เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนจับปรับ เนื่องจากโทษปรับนั้นสูงถึง 15 เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบ” ทั้งนี้ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสูบแสตมป์ปลอม โดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี อาจเข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ. ยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 24 วรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่ไม่ได้ปิดแสตมป์ โดยมีโทษปรับ 50 เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิด (มาตรา 50) นอกจากนี้ หากรู้ว่าแสตมป์นั้นเป็นแสตมป์ยาสูบปลอมหรือแสตมป์ใช้แล้วและเจตนาใช้แสตมป์ยาสูบปลอมหรือแสตมป์ใช้แล้วนั้น จะมีความผิดภายใต้พ.ร.บ. ยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 43 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งแสตมป์ยาสูบปลอมหรือใช้แล้วเพื่อขายหรือนำออกใช้โดยรู้ว่าเป็นแสตมป์ยาสูบปลอมหรือใช้แล้ว  โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 53) อย่างไรก็ตาม  หากเป็นบุหรี่ปลอมก็จะมีความผิดในเรื่องการใช้เครื่องหมายการค้าปลอม ภายใต้พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 110 (1) และมาตรา 108 ซึ่งห้ามมิบุคคลใด จำหน่าย เสนอจำหน่าย หรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรอง หรือเครื่องหมายร่วมปลอม หรือที่เลียนเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรอง หรือเครื่องหมายร่วมของบุคคลอื่น โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะเดียวกัน หากร้านค้าสงสัยว่าสินค้าที่รับซื้อมาเป็นแสตมป์ยาสูบปลอม ร้านค้าสามารถติดต่อสอบถามที่สายด่วนสรรพสามิต 1713  และในกรณีมีเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเข้าตรวจสอบแสตมป์ยาสูบที่ร้านค้า  ข้อแนะนำเบื้องต้นคือ ต้อง ขอดูบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ ให้ ทำเครื่องหมายที่ผลิตภัณฑ์ก่อนเจ้าหน้าที่เก็บไปตรวจสอบ และขอให้เจ้าหน้าที่ลงนามในเอกสารแสดงวันที่และจำนวนตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่นำไปตรวจสอบ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เตือนร้านค้าระวังแสตมป์บุหรี่ปลอม

Page 1020 of 1552:« First« 1017 1018 1019 1020 1021 1022 1023 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file