shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

ยันได้เงินกู้จ่ายชาวนา ธกส.ชี้คลังจัดหาจากหลายแบงก์

ผอ.แบงก์ออมสิน โต้ เปล่าปล่อยกู้ “อินเตอร์ แบงก์” ธ.ก.ส. นำเงินจ่ายหนี้ชาวนา ลั่นไม่เป็นความจริง หลังผู้จัดการ ธ.ก.ส. โผล่ แถลง คลัง จัดหาแหล่งเงินกู้และค้ำประกัน โดยนำเงินจากแบงก์หลายแห่งร่วมกันปล่อยกู้ให้ ไปจ่ายโครงการฉาว ฝั่ง กกต. คาด 18-19 ก.พ. ถกประเด็น รัฐขอเห็นชอบ ใช้งบกลาง 712 ล้าน ขณะที่ ชาวนาพะเยาสุดช้ำ ขายข้าวโรงสี แต่ไม่ได้ใบประทวน แห่แจ้งความล้นโรงพัก ส่วนตำรวจน้ำ จับแก๊งแมวน้ำ ซ้ำเติมทุกข์ ดอดฉกข้าวสาร เรือส่งสินค้ากลางเจ้าพระยา  ความคืบหน้าปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาทั่วประเทศ ตามโครงการรับจำนำข้าวฤดูการผลิต 56/57 แล้วรัฐบาลยังไม่สามารถหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนาได้ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาการจ่ายเงินให้ชาวนาโครงการรับจำนำข้าวว่า ขั้นตอนต้องเป็นไปตามลำดับ และต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าทุกหน่วยงานมีการติดตามอย่างเต็มที่ เพื่อให้ชาวนาได้รับเงิน ทั้งนี้เชื่อว่าถ้าชาวนาได้รับเงินแล้ว ในส่วนที่มาร่วมชุมนุมก็จะยุติ ส่วนเงินที่รัฐบาลหามานั้น มีจำนวนถึง 1.1 แสนล้านบาทหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ อยู่ที่ขั้นตอน เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ที่จะต้องประสานงานกับธนาคารหาเงินกู้ สำหรับกรณีที่ชาวนาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายนั้น ได้มอบหมายฝ่ายกฎหมายให้ไปพูดคุยกับชาวนา เพราะไม่อยากทะเลาะกับประชาชน และไม่อยากให้ปัญหาของชาวนา เชื่อมโยงกับปัญหาการเมือง เนื่องจากจะทำให้ชาวนาเกิดความเข้าใจที่ไขว้เขว ด้าน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ในส่วนของการระบายข้าว หลังจากที่ได้เปิดซองประกวดราคาไปเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา เราสามารถขายข้าวได้ทั้งหมด 6 แสนตัน จากการประมูลอีก 4 แสนกว่าตัน และยังมีออร์เดอร์จากต่างประเทศอีก รวมเป็น  6 แสนตัน ทั้งนี้ยังมีส่วนที่เป็นเอเฟทอีก 2 แสนตันด้วย ที่เพิ่งรับซองและยังไม่ได้ประกาศ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้อีก 1-2 แสนตัน ดังนั้นคาดว่าเดือน ก.พ. จะได้ทั้งหมด 1 ล้านตัน เป็นเงินประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วน นายลักษณ์ วจนานวัช  ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้จัดหาแหล่งเงินกู้ โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน เป็นการนำเงินจากธนาคารหลายแห่งร่วมกันปล่อยกู้ เพื่อนำมาให้ ธ.ก.ส.จ่ายเงินจำนำข้าวให้กับชาวนา แต่ไม่ใช่เป็นการกู้เงินจาก ธ.ก.ส. เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวถึงแนวทางหนึ่งในการหาแหล่งเงินกู้ เพื่อนำมาจ่ายเงินให้กับชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว เบื้องต้นกระทรวงการคลังจะใช้แนวทางให้ธนาคารออมสินปล่อยกู้ให้กับ ธ.ก.ส. ในรูปแบบการปล่อยกู้ระหว่างธนาคาร (อินเตอร์ แบงก์) วงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน ซึ่งกำลังเชิญชวนธนาคารหลายแห่งมาร่วมปล่อยกู้ในลักษณะดังกล่าว เพื่อหาแหล่งทุนมาส่งให้ ธ.ก.ส. จ่ายเงินให้กับชาวนาได้ในเร็ว ๆ นี้ แต่ต้องเสนอให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบก่อน ขณะที่ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซ บุ๊ก หลังจากที่มีข่าวออกมาว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง จะให้ธนาคารออมสิน ปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส. หากเป็นจริง ต้องชมเชยว่าพยายามพลิกแพลงอย่างมาก เพราะปกติสองธนาคารจะต้องให้กระทรวงการคลัง ออกหนังสือค้ำประกัน และครม.ต้องอนุมัติด้วย แต่หาก ครม.อนุมัติการค้ำประกัน จะผิดมาตรา 181 (3) จึงเลี่ยงไปออกเป็นจดหมายดังกล่าวแทน ดังนั้นถ้าออกแนวนี้ รมว.คลัง จะผลักภาระไปให้คณะกรรมการทั้ง 2 ธนาคารเต็ม ๆ ที่หนักกว่าก็คือ ทั้งรัฐมนตรี ข้าราชการคลัง และผู้บริหารของ 2 ธนาคาร น่าจะผิดมาตรา 181 (4) อย่างชัดเจน เพราะเป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐ ทำให้มีผลต่อการเลือกตั้งที่ยังไม่จบสมบูรณ์ ที่ปรึกษากฎหมายคลัง ควรตรวจสอบให้ดีว่าชาวนาที่ค้างใบประทวน และบุคคลในครอบครัว รวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการจำนำข้าวทั้งหมด เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ และการให้กู้โดยใช้วิธีดังกล่าว ที่ผ่านมาในโครงการจำนำข้าว เคยใช้กันเป็นปกติหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากไม่เคยใช้วิธีนี้มาก่อนแล้วมาทำกันแบบแปลกแหวกแนว จะทำให้เป็นพิรุธ ว่าเป็นการพยายามทำเพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาล ได้เปรียบในการเลือกตั้งที่เหลืออยู่หรือไม่ ถ้าข้าราชการและผู้บริหารธนาคารไม่เห็นด้วย ก็ควรทำหนังสือให้ รมว.คลัง สั่งการเพื่อให้รับผิดชอบคนเดียว ต่อมา นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการ ธ.ออมสิน เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวเกี่ยวกับธนาคารเตรียมปล่อยกู้ให้กับธ.ก.ส. ใช้ในโครงการรับจำนำข้าว ผ่านการทำธุรกรรม อินเตอร์ แบงก์ โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ธนาคารยืนยันว่าไม่ได้ปล่อยเงินกู้เพื่อใช้โครงการรับจำนำข้าวอย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนและลูกค้ามั่นใจว่าธนาคารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว โดยยืนยันว่าการทำธุรกรรมอินเตอร์ แบงก์ ถือเป็นธุรกรรมปกติของธนาคารในการให้กู้ยืมระยะสั้น ที่ธนาคารให้กู้แก่สถาบันการเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 30 แห่ง ดังนั้น การที่ ธ.ก.ส.จะกู้ยืมเงินผ่านธุรกรรมดังกล่าวสามารถทำได้ เพราะเป็นการกู้ยืมระหว่างสถาบันการเงินตามปกติ ที่กระทรวงการคลังไม่ต้องเข้ามาค้ำประกัน อีกด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยถึงกรณีที่ ครม.อนุมัติงบกลาง 712 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินจำนำข้าวแก่ชาวนา ซึ่งต้องส่งเรื่องมายัง กกต. เพื่อพิจารณาเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181(2) ว่า คาดว่าหนังสือของรัฐบาล น่าจะส่งมาถึงสำนักงาน กกต.แล้ว  และคาดว่าที่ประชุม กกต.น่าจะพิจารณาได้ในการประชุม กกต. ในวันที่ 18-19 ก.พ. นี้ โดย กกต.จะพิจารณาด้วยความรอบคอบ อยู่บนพื้นฐานข้อกฎหมาย เนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีความสำคัญและมีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ส่วนที่โรงแรมเอเชีย เครือข่ายผู้รับใช้การปฏิรูปประเทศโดยสันติของประชาชนไทย จัดเวทีรีสตาร์ต ประเทศไทย ครั้งที่ 2 เรื่อง “จากทุกข์ของชาวนาไทย สู่การปฏิรูปประเทศ” โดยม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีต รองนายกฯ และ รมว.คลัง กล่าวในหัวข้อทุกข์ของชาวนา รัฐบาลต้องทำอะไร โดยอดีต รมว.คลังระบุว่า การหาเงินมาจ่ายให้ชาวนาว่า ตอนนี้ยังไงดูแล้วก็ไม่มีทางได้เงิน 9 หมื่นล้านบาท หากจะหาได้จะต้องขายข้าวในโกดัง 7 ล้านตันซึ่งไม่มีทางสำเร็จได้ แต่คนทำก็ไม่รู้ว่าจะไม่สำเร็จ ยังหลอกตัวเองไปเรื่อย ๆ ดูแล้ว การขายข้าวเพื่อหาเงินมาในช่วง 2-3 เดือน ถ้าจะหาสัก 2 หมื่นล้านบาทก็คงพอไปได้ แต่ไม่ใช่ง่าย ๆ และขอเสนอว่าในฤดูการผลิตต่อไปรัฐบาลควรเปลี่ยนมาใช้วิธีการสนับสนุนปัจจัยการผลิต โดยให้ชาวนานำข้าวไปขายให้โรงสีตามปกติ แล้วสนับสนุนปัจจัยการผลิตในจำนวนที่เหมาะสม ขณะที่ นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มต้นโครงการรับจำนำข้าว การส่งออกข้าวไปต่างประเทศก็ลดลงโดยพบว่าสองปีที่มีนโยบายรับจำนำข้าวการส่งออกลดลงไป 31% เหตุเพราะรัฐบาลตั้งราคารับจำนำไว้ที่ 15,000 บาท ทำให้การส่งออกมีปัญหา เพราะต้นทุนสูง เงินหายไปเพราะส่งออกได้น้อยร่วม 5 หมื่นล้านบาท ที่ผ่านมา รัฐบาลหลงทางมาสองปี เพราะไม่ได้ดูราคาตลาดโลก เป็นการผิดพลาดครั้งใหญ่ ใช้เงินไป 7 แสนกว่าล้านบาทแต่คืน ธ.ก.ส. แค่แสนกว่าล้าน แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาทำต่อจนได้ฟังการอภิปรายของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ในสภา เลยมารู้ว่าที่รัฐบาลเอาข้าวไปขายส่วนใหญ่ขายแบบจีทูจี แล้วขายให้พรรคพวกแล้วไม่เปิดเผยข้อมูลว่าขายให้ใคร เงินมันไม่ได้เข้ารัฐบาล แต่ไปเข้ากระเป๋าใครไม่รู้ พร้อมกันนี้ ได้มีการเผยแพร่ บทความของ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เรื่อง “แก้ปัญหาชาวนาเชิงระบบครบวงจรกับการปฏิรูปประเทศไทย” โดยมีความตอนหนึ่งว่า การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ขณะนี้ชาวนากำลังเดือดร้อน เพราะรัฐบาลไม่มีเงินจ่ายค่าข้าวที่ชาวนานำมาจำนำไว้ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าควรทำหลายอย่าง อาทิ  1. ลดความเครียด  2. ส่งเสริมการรวมตัวของชาวนา ให้สังคมชาวนาเข้มแข็ง เพื่อแก้ปัญหาเชิงระบบ 3. รัฐบาลขายข้าวที่รับจำนำไว้แล้วนำเงินมาใช้หนี้ชาวนา  4. ชาวนาที่เดือดร้อนถึงขั้นไม่มีจะกิน ควรระดมความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่าง ๆ ส่วนบรรยากาศตามต่างจังหวัด เริ่มที่ สภ.เมืองพะเยา นายบุญสม ละออง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 ต.แม่ปืม อ.เมืองพะเยา นำลูกบ้านและชาวนาในพื้นที่ ต.แม่ปืม ต.ท่าจำปี ต.บ้านใหม่ อ.เมืองพะเยา 58 ราย พร้อมหลักฐานใบชั่งน้ำหนักข้าวของ หจก.ชนกภัทการค้า เลขที่ 93 หมู่ 9 ต.ท่าจำปี อ.เมืองพะเยา เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.สว่างวิทย์ สุทธหลวง ผกก.สภ.เมืองพะเยา และ พ.ต.อ.คะนอง ไข่ทา หัวหน้าพนักงานสอบสวน กรณีชาวนาทั้งหมดนำข้าวไปขายให้กับ หจก.ชนกภัทการค้า แล้วไม่ได้ใบประทวน ซึ่งตามกำหนดระยะเวลาการออกใบประทวนจะหมดอายุ ในวันที่ 15 ก.พ. นี้ ถ้าไม่ได้ตามกำหนด ก็จะไม่ได้รับสิทธิ เข้าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล มีนายณรงค์ศักดิ์ ถูกอย่าง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง มาอำนวยความสะดวก เบื้องต้นตำรวจรับแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวนจะเชิญเจ้าของโรงสีกับผู้ที่รับจำนำมาพบพนักงานสอบ สวน ในวันที่ 17 ก.พ. ต่อไป ที่ จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.ชาคริต  มงคลศรี ผกก.4 บก.รน. พ.ต.ท.คณาธิป ศรีทิพย์ สว.ส.รน.2 กก.4บก.รน. นำกำลังเข้าจับกุมนายรุ่ง ปัญญาสิงห์ อายุ 49 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี พร้อมของกลาง เรือหางยาวติดเครื่องยนต์ 1 ลำ ข้าวสารคัดพิเศษ 42 กระสอบ จับกุมได้ภายในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ ต.บ้านกระแชง อ.เมืองปทุมธานี หลังตำรวจสืบทราบว่า มีขบวนการลักลอบโจรกรรมสินค้าจากเรือบรรทุกสินค้า ของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด จึงจัดกำลังเรือเร็วซุ่มอยู่ในลำน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา กระทั่งพบเรือยนต์ 2 ลำ ขับตามเรือบรรทุกสินค้าปิดผ้าใบ 4 ลำ จากนั้นมีการเทียบเรือ ก่อนมีการขนสิ่งของจากเรือใหญ่ใส่เรือขนาดเล็กที่ลอยตามมา บริเวณ ต.บ้านกระแชง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม แต่คนร้ายหลบหนีไปได้ 3 คน ทำให้จับกุมนายรุ่งได้เพียง 1 คน พร้อมของกลางดังกล่าว ควบคุมตัวดำเนินคดี.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ยันได้เงินกู้จ่ายชาวนา ธกส.ชี้คลังจัดหาจากหลายแบงก์

Posts related

 














‘ทำอย่างไรเมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิต’ – ไขปัญหาผู้บริโภค

“ใครมีบัตรเครดิตยกมือขึ้น” ยุคนี้สมัยนี้การมีบัตรเครดิตคงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือการจะมีบัตรเครดิตมากกว่า 1 ใบ ก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่ที่เป็นประเด็นปัญหากันมากคงเป็นเรื่องการไม่มีวินัยหรือความรู้ไม่เท่าทันกับพฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตของเจ้าของบัตรเครดิตมากกว่า มีกรณีปัญหาที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตและได้ร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มักเป็นประเด็นปัญหาการชำระหนี้ ค่าธรรมเนียม ค่าเบี้ยปรับ บัตรเครดิตหายซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวเกิดจากการขาดวินัยและความรู้ไม่เท่าทันของผู้ใช้บัตรเครดิตทั้งสิ้นจะโดยความตั้งใจหรือประมาทก็ตามแต่ก็เป็นปัญหาที่ทำให้ผู้บริโภคหลายรายต้องทุกข์ใจกัน โดย “ธุรกิจบัตรเครดิต” รัฐได้มีการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในเรื่องธุรกิจบัตรเครดิตเช่น ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้กู้ยืมเงินเพื่อผู้บริโภคของสถาบันการเงินเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาพ.ศ. 2544 พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 ซึ่งมีสาระสำคัญในการดูแลธุรกิจบัตรเครดิต ความจริงบัตรเครดิตมีประโยชน์ทำให้เราสะดวกและปลอดภัยกว่าการถือเงินสดซื้อสินค้าและบริการได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินทันที สามารถถอนเงินสดมาใช้จ่ายในยามฉุกเฉินและสะสมคะแนนเพื่อแลกของรางวัล หากผู้ใช้บัตรเครดิตรู้จักใช้อย่างมีวินัยและเหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ ปัญหาดังกล่าวจะไม่สามารถสร้างความทุกข์ใจให้กับผู้บริโภคได้เลย เมื่อผู้บริโภคต้องใช้บัตรเครดิตเพื่อเป็นหนี้อย่างเป็นสุขผู้บริโภคต้อง 1. ก่อหนี้เมื่อจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น 2. รู้จักหักห้ามใจตัวเองไม่วิ่งตามกระแสบริโภคเกินตัว 3. ภาระการผ่อนชำระหนี้ทั้งหมดในแต่ละเดือนไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของรายได้ต่อเดือน 4. คิดให้ดี และอ่านสัญญารวมทั้งเอกสารอื่น ๆ ให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจทำสัญญาสินเชื่อ 5. ใช้เงินตามสินเชื่อให้ตรงตามวัตถุประสงค์ 6. ตั้งมั่นว่าจะจ่ายตรงตามเวลาและเงื่อนไข 7. หากเริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหว ควรรีบหารือกับเจ้าหนี้ 8. หลีกเลี่ยงสินเชื่อนอกระบบ ส่วนผู้บริโภคที่กำลังตัดสินใจจะทำบัตรเครดิตควรอ่านรายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ ในการทำบัตรเครดิตของผู้ออกบัตรหลาย ๆ แหล่ง เพื่อนำมาเปรียบเทียบ เช่น ค่าธรรม เนียมแรกเข้าและรายปี ระยะเวลาชำระคืนโดยปลอดดอกเบี้ย วันที่เริ่มคิดดอกเบี้ย การผ่อนชำระเงินขั้นต่ำ เงื่อนไขการนำบัตรเครดิตไปใช้ในต่างประเทศ ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการอื่น ๆ สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และรายละเอียดอื่น เช่น จุดบริการรับชำระเงิน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการสมัครบัตรเครดิต ภาระหน้าที่ของผู้ถือบัตร การทำบัตรหาย การขอยกเลิกบัตร แต่สำหรับผู้บริโภคที่กำลังเป็นทุกข์กับหนี้บัตรเครดิตควรดำเนินการดังนี้ 1. ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น 2. จ่ายหนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะจ่ายได้ 3. จ่ายให้ตรงกำหนดชำระเงิน 4. อย่าเบิกถอนเงินสดจากบัตรเครดิตใบอื่นที่มีมาโปะวนกันไปเรื่อย ๆ แต่ควรหาจากแหล่งอื่นที่มีดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายน้อยกว่ามาชำระหนี้บัตรเครดิต หรือการตัดใจขายทรัพย์สินหรือนำเงินออมมาปลดหนี้  5. เจรจาหารือกับผู้ออกบัตรแต่เนิ่น ๆ เพื่อวางแผนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ด้วยความปรารถนาดีจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘ทำอย่างไรเมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิต’ – ไขปัญหาผู้บริโภค

ปรับโฉมออกหวยมาตรฐานสากล

พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักงานสลากฯเตรียมว่าจ้างให้หน่วยงานจากต่างประเทศที่ดำเนินงานเกี่ยวกับมาตรฐานต่างๆของธุรกิจและอุตสาหกรรม หรือ ไอเอสโอเข้ามาประเมินการออกรางวัลสลากฯของไทยเพื่อให้มีมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเนื่องจากสำนักงานสลากฯต้องการแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในขั้นตอนการออกรางวัลรวมทั้ง รองรับการเปิดเสรีเศรษฐกิจประชาคมอาเซียนปี 58 โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันภายในปีงบประมาณ57นี้ “การที่สำนักงานสลากฯได้ว่าจ้างให้หน่วยงานจากต่างประเทศเข้ามาดำเนินการประเมินเกี่ยวกับการออกรางวัลซึ่งเป็นระบบไอเอสโอ 5001เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมในเรื่องของขั้นตอนการออกรางวัลว่ามีความโปร่งใสและป้องกันการครหาต่างๆที่กล่าวหาว่าสำนักงานสลากฯทำการล็อกเลขซึ่งมาตรฐานดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนมีความมั่นใจในการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น”สำหรับการจ่ายเงินที่สำนักงานสลากฯจะพัฒนานั้นเบื้องต้นจะใช้รูปแบบจากเดิมที่ประชาชนต้องเดินทางมาขึ้นเงินที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแห่งใหม่สนามบินน้ำ จังหวัดนนทบุรีให้เป็นการขึ้นเงินผ่านสาขาธนาคารกรุงไทยได้ทันทีซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วง2,000-2,0000บาทถือเป็นการลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทางให้ประชาชนอีกด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ปรับโฉมออกหวยมาตรฐานสากล

Page 1041 of 1552:« First« 1038 1039 1040 1041 1042 1043 1044 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file