shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

ที่สุดของถนนใน ‘ลาว’ – ลูกเล่น/ลีลา

 ถนนช่วงนี้เป็นถนนที่ดีที่สุดในลาวส่วนกำแพงดินที่เห็นอยู่ไกล ๆ รอบ ๆ โรงไฟฟ้าเป็นเนินดินที่ถมขึ้นเพื่อป้องกันเสียงและฝุ่นจากโครงการโรงไฟฟ้าหงสา นั่นคือคำบอกเล่าจากบริษัททัวร์ไทยในจังหวัดน่านที่พานักท่องเที่ยวชาวไทยขึ้นล่องบนถนนที่ยังเทียบได้กับผิวโลกพระจันทร์ในบางช่วงของลาวแต่นับตั้งแต่มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสาโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้ถ่านหินลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิงหลักซึ่งมี บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้งถือหุ้น 40%, บริษัทบ้านปู เพาเวอร์ จำกัด 40% และบริษัท LaoHolding State Enterprise 20% ถนนที่เคยเป็นลูกรังก็แปรสภาพเป็นถนนลาดยางอย่างดีครบถ้วนตามมาตรฐานทั้งมีไหล่ทางและมีเกาะกลางแบ่งช่วงที่มีทางร่วมทางแยกกับเม็ดเงินลงทุนแค่ถนนซึ่งว่ากันว่าสูงถึง 6,000 ล้านบาท โครงการโรงไฟฟ้าหงสามีพื้นที่รวม 76.2 ตารางกิโลเมตรตั้งอยู่ที่เมืองหงสาแขวงไซยะบุรี สปป.ลาวมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 1,878 เมกะวัตต์โดยจะผลิตไฟฟ้าเพื่อขายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นหลัก เหตุที่ต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเพราะพื้นที่ใกล้เคียงเป็นเหมืองถ่านหินลิกไนต์ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถส่งออกได้ตามกฎระเบียบของ สปป.ลาวโดยลิกไนต์ที่มีอยู่สามารถรองรับการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าตลอดอายุสัญญา 25 ปีด้วยปริมาณถ่านหินสำรอง 577.4 ล้านตัน แต่นอกจากเหตุผลเรื่องลิกไนต์ที่ส่งออกนอกประเทศไม่ได้แล้วเหตุผลสำคัญอีกอย่างของลาวก็คือการพัฒนาประเทศให้เป็นแหล่งพลังงานของภูมิภาคอาเซียนหรือ Batteryof ASEAN ส่วนปรับปรุงถนนจากชายแดนไทยและโดยรอบบริเวณให้ได้มาตรฐานดังกล่าวนอกจากจะเพื่อรองรับการขนส่งวัสดุหนักในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้วถนนระยะทาง 62 กม.ยังจะเป็นเส้นทางที่อำนวยความสะดวกกับการท่องเที่ยวและการขนส่งผ่านไปยังประเทศจีนและเวียดนามได้ด้วยหากแต่เส้นทางที่เหลือยังต้องรอการปรับปรุงในลำดับต่อไป ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนแห่งนี้กำลังใกล้จะเสร็จสมบูรณ์โดยเฉพาะทางด้านโครงสร้างภายนอกและคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมผลิตไฟฟ้าเข้าระบบได้ตามแผนในปี 2558 ผ่านจุดเชื่อมโยงมายังประเทศไทยที่อำเภอสองแควจังหวัดน่าน.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ที่สุดของถนนใน ‘ลาว’ – ลูกเล่น/ลีลา

Posts related

 














ภาษาเดียวกัน วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557

ก้าวไปสู่เออีซีด้วยกัน  บริษัทโตเกียวมารีนประกันชีวิตจัดงาน TokioMarine Life Seminar 2014 ภายใต้ theme : AEC Moving Together เพื่อเป็นการพัฒนาความรู้ สร้างสรรค์แนวคิดอันจะนำไปสู่การใช้ให้เกิดประโยชน์กับผู้เข้าร่วมสัมมนาอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องของ “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” หรือเออีซี อันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเพราะการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปิดโอกาสให้กับธุรกิจแต่ยังมีแง่มุมอื่น ๆ ให้ศึกษา เช่น การเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรี การเคลื่อนย้ายเงินลงทุนอย่างเสรี โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรีเป็นการเปิดโอกาสให้กับการหมุนเวียนคนซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในองค์กร หากสามารถหากลยุทธ์เชิงรุกและรับก็จะทำให้องค์กรได้เปรียบในเชิงการแข่งขันและประสบความสำเร็จ ปศุสัตว์สู่อาเซียน  ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของวงการสัตวแพทย์และอุตสาห กรรมปศุสัตว์ในการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558 สมาพันธ์สมาคมสัตวแพทย์แห่งเอเซีย (FAVA) และบริษัทวีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์เอเชีย แปซิฟิค จึงได้ตกลงทำความร่วมมือระหว่างกันเพื่อยกระดับวงการสัตวแพทย์ผ่านการจัดประชุมสัมมนา รวมถึงมอบทุนการศึกษาการฝึกอบรมทางวิชาการในงานแสดงสินค้า VIVAsia และ ILDEXExhibitions ระหว่างปี 2557–2559 โดยจะมีพิธีลงนามความร่วมมือในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 13.30-15.00 น. ณ เดอะ เรสซิเดนซ์ สถานทูตเนเธอร์แลนด์ ถนนวิทยุ โดยมีเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย นายโยฮันเนิส อันดรีย์ บัวร์ และคณะให้การต้อนรับ เลื่อนจัดสัมมนาอาเซียน  กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศด้วยความร่วมมือสภาอุตสาห กรรมแห่งประเทศไทย เลื่อนกำหนดจัดงานสัมมนาเรื่อง ASEAN Connectivity เนื่องจากสถานการณ์การชุมนุมในปัจจุบันไม่สงบ จากเดิมในวันที่ 20 มกราคม 2557 เป็นวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.00-16.00 น. ณ ห้องซาลอน B ชั้น 2 โรงเเรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ดกรุงเทพมหานคร ฟังการอภิปรายหัวข้อ “ASEAN Connectivity จากแผนแม่บทสู่โอกาสทางการค้าสินค้าและบริการ” และ “ASEAN Connectivity กับโลจิสติกส์  : อุปสรรคและกฎระเบียบ สู่ตลาดเพื่อนบ้าน” ผู้สนใจเข้าร่วมงานกรุณากรอกรายละเอียดลงในแบบฟอร์มเข้าร่วมงานสัมมนาเพื่อยืนยันการลงทะเบียนล่วงหน้าโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ภายในวันที่  11 กุมภาพันธ์ 2557 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2507-7194 หรือ 0-2507-7629 เเละ 0-2507-7376.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ภาษาเดียวกัน วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557

สำรวจเส้นทางสู่หลวงพระบาง

 ป้ายของด่านศุลกากรทุ่งช้างที่ติดไว้ว่า “น่าน ล้านนาตะวันออกประตูสู่อินโดจีน” กับระยะทางจาก ณ จุดที่ติดป้ายของจุดผ่านแดนถาวรบ้านห้วยโก๋นเพียง 152 กิโลเมตร ก็จะไปถึงยังเมืองมรดกโลกของ สปป.ลาว อย่างหลวงพระบาง อาจจูงใจใครหลายคนที่อยากไปสัมผัสและมองว่านี่คืออีกทางเลือกที่น่าสนใจกับเส้นทางจากหนองคาย ผ่านวังเวียง แล้วจึงค่อยขึ้นไปถึงหลวงพระบางซึ่งเป็นเส้นทางเดิม ๆ  ขณะที่เมืองหล้าหรือเมืองลาในเขตเมืองสิบสองปันนาของจีนนั้น ดูจะใกล้แค่เอื้อมกับระยะทางเพียงแค่ 295 กิโลเมตร หรือจะเลยไปถึงเดียนเบียนฟูของเวียดนามเพียงแค่ 406 กิโลเมตร แต่ระยะทางไม่กี่ร้อยกิโลเมตรที่อาจขับรถเพียงแค่ครึ่งวันก็ถึงสำหรับทางหลวงแผ่นดินของไทยนั้น ห้ามเอาไปเทียบกับทาง หลวงของ สปป.ลาวอย่างเด็ดขาด เพราะการเดินทางไปหลวงพระบางที่เหมือนจะใกล้นั้น หากไปตามระยะทางที่ใกล้ที่สุดด้วยการแยกจากเมืองหงสาที่อยู่ห่างไปเพียง 35 กิโลเมตร ตามป้ายที่บอกว่าหลวงพระบางอยู่ห่างไปอีก 120 กิโลเมตร อาจต้องใช้เวลาเกินทั้งวัน เพราะระยะทางที่ว่านั้นยังเป็นถนนลูกรังแบบที่เหมาะกับผู้นิยมเส้นทางออฟโรดมากกว่า ส่วนอีกเส้นทางที่จะต้องไปผ่านแขวงอุดมไชยก่อนนั้นซึ่งเรียกได้ว่าสะดวกกว่ามีระยะทางเกือบ 200 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าอยู่ที่ราว 6-7 ชั่วโมง รวมเวลาแวะรับประทานอาหารกลางวันระหว่างทางด้วย แต่ใช่ว่าถนนสายนี้จะดีขับสะดวกอย่างที่คิด เพราะถนนใน สปป.ลาว ที่เชื่อมระหว่างเมืองส่วนใหญ่ยังคงเป็นถนนลาดยางมะตอย 2 เลนสวนกัน ซึ่งมีขนาดแคบกว่าเมื่อเทียบกับถนนในไทยเพราะส่วนใหญ่จะไม่มีไหล่ทาง จะมีขนาดกว้างขึ้นบ้างก็ช่วงที่ผ่านชุมชนสองข้างทางและช่วงที่ผ่านเมืองระหว่างทาง ขณะที่ถนนส่วนที่พังบางช่วงมีหลุมขนาดใหญ่ซึ่งรถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถตู้โดยสารจะต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ขณะที่ถนนซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จไม่กี่ปีเริ่มชำรุด แต่สะพานข้ามแม่น้ำโขงในช่วงบ้านท่าเดื่อกลับดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เพราะสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งนี้เพิ่งสร้างสร็จไม่นานด้วยเทคโนโลยีของบริษัทผู้รับเหมาจากเกาหลีใต้ ซึ่งกำลังเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของหลวงพระบาง เดิมก่อนที่จะมีสะพานข้ามแม่น้ำแห่งนี้การข้ามแม่น้ำโขงช่วงนี้ยังต้องอาศัยเรือบั๊กที่สามารถพาทั้งคนและรถยนต์ไปพร้อมกันได้ซึ่งจะให้บริการตั้งแต่เช้าจนถึงแค่ 6 โมงเย็นเท่านั้น บนเส้นทางเดียวกันนอกจากจะใช้รถยนต์วิ่งยาวไปถึงหลวงพระบางแล้ว นักท่องเที่ยวบางกลุ่มยังเลือกที่จะสัมผัสบรรยากาศการล่องเรือในแม่น้ำโขงสู่หลวงพระบางด้วย โดยไปขึ้นเรือที่ท่าเรือปากห้วยแคนเลยจากด่านห้วยโก๋นไปประมาณ 45 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ก็จะถึงหลวงพระบาง การเดินทางด้วยเรือแบบที่ว่านั้นอาจจะใช้เวลานานกว่าทางรถยนต์ในปัจจุบัน แต่น่าจะให้ความรู้สึกที่รื่นรมย์กว่า เพราะถนนสายที่ว่าซึ่งขรุขระเป็นบางช่วงจนต้องทำใจนั้นอาจทำให้หลายคนต้องเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางมากกว่าเท่านั้นเอง แต่สุดท้ายก็จะถึงปลายทางที่หลวงพระบางเช่นกัน. เริ่มต้นที่‘ห้วยโก๋น’ จุดผ่านแดนถาวรบ้านห้วยโก๋นหรือด่านพรมแดนห้วยโก๋น–น้ำเงิน เป็นจุดผ่านแดนระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติจังหวัดน่าน แรกเริ่มจัดตั้งเป็นจุดผ่านแดนถาวรตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2537 โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 ซึ่งในขณะนั้นด่านห้วยโก๋นประเทศไทยมีฐานะเป็นด่านสากลแต่ด่านเมืองเงินแขวงไชยบุรีเป็นด่านในระดับท้องถิ่น จึงมีปัญหาในการเข้าออกผ่านแดนของชาวต่างชาติ ต่อมาในปี พ.ศ.2546 องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่านได้ทำการก่อสร้างอาคาร ร้านค้า ถนน ตลาดการค้าชายแดนไทย–ลาวและซุ้มประตูด้วยงบประมาณ 28 ล้านบาทเศษ บนพื้นที่ก่อสร้างประมาณ 19 ไร่ และในปีงบประมาณ 2550 องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่านได้จัดสรรงบประมาณจากจังหวัดน่านก่อสร้างอาคารและระบบสาธารณูปโภคสาธารณูปการเพิ่มเติมอีกประมาณ 10 ล้านบาทโดยมีองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยโก๋นเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดูแล และเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ได้รับการยกระดับเป็นด่านสากลห้วยโก๋น-น้ำเงินจนถึงปัจจุบัน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สำรวจเส้นทางสู่หลวงพระบาง

Page 1079 of 1552:« First« 1076 1077 1078 1079 1080 1081 1082 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file