shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

โรงแรม-ภัตตาคารเลิกจ้างพนักงานพาสไทม์

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงแรมเครือเซ็นทาราในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้หยุดการจ้างพนักงานนอกเวลา(พาร์ทไทม์)แล้วทั้งหมดจากปกติหากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น)จะจ้างเพิ่มขึ้น 10%  เนื่องจากอัตราการเข้าพักลดลง จากเหตุการณ์ทางการเมืองจึงต้องประหยัดค่าใช้จ่ายภายใน รวมถึงพนักงานประจำบางส่วน ต้องย้ายไปประจำที่โรงแรมในหัวเมืองหลัก ๆ ต่างจังหวัดชั่วคราว เพราะอัตราการเข้าพักยังเติบโตได้ดี 80-90% เช่น หัวหิน พัทยา ภูเก็ต เป็นต้น “ปัจจุบันเหตุการณ์ทางการเมือง ได้ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนแล้วว่าทำให้อัตราการจองห้องพักของนักท่องเที่ยวใหม่ ไม่เข้ามาพักในกรุงเทพฯเช่นเดียวกับการจัดงานอีเวนท์ การประชุมต่าง ๆ ก็ไม่เข้ามาด้วย ส่งผลให้พนักทั้งหมด 9,300 คน เป็นแบบพาร์ทไทม์ ที่นิยมมาทำงานช่วงหลังเลิกเรียน 20% ต้องให้หยุดงานไปก่อน ขณะที่พนักงานประจำนั้น ให้ย้ายที่ทำงาน โดยมีบ้านพักให้ซึ่งแผนนี้เคยใช้ตั้งแต่การเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองเมื่อปี 53 เช่นกัน” ด้านนายสง่าเรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวว่า ถนนข้าวสาร มีพนักงานจากส่วนต่าง ๆ 10,000 คน แต่เมื่อมีเหตุการณ์ทางการเมืองจนมาถึงการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการงดการจ้างพนักงานพาร์ทไทม์ทันทีรวมถึงพนักงานประจำ ให้ย้ายไปทำงานในสาขาอื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบ และอีกส่วนหนึ่งที่ต้องทำงานในพื้นที่ข้าวสารจริง ๆ ก็ยื่นข้อเสนอให้พักร้อนไปก่อนเพราะนายจ้างจะจ่ายเงินเดือนน้อยลงกว่าการมาทำงาน ทั้งนี้หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ ไม่จบภายในสิ้นเดือนก.พ.ก็จะให้พนักงานสมัครใจลาพักร้อนยาวได้ โดยนายจ้างจะไม่ให้ค่าจ้าง “ขณะนี้ยอดขายโดยรวม เช่น ร้านอาหารสถานบันเทิง สปา นวด เป็นต้น ลดลงไปแล้วเฉลี่ย 40% ส่วนอัตราการเข้าพักเฉลี่ยก็ลดลงไปถึง 40% หากเทียบกับช่วงเดียวกัน คือ พ.ย.-ม.ค. 56 จะเฉลี่ย 90% ผู้ประกอบการจึงต้องปรับการบริหารจัดการใหม่เกือบทั้งหมดอะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด เช่น ดึงปลั๊กไฟที่เสียบไว้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น เพื่อลดค่าไฟฟ้าส่วนสถานบันเทิงจากที่เคยจ้างวงดนตรีมาแสดงถึง 2 วันในช่วงหัวค่ำกับช่วงดึกก็ลดเหลือเพียงวงเดียวในช่วงดึกเท่านั้น ทั้งนี้ ตามปกตินักท่องเที่ยวที่มาถนนข้าวสารจะมีสัดส่วนเป็นคนไทย 70% ต่างชาติ 30%โดยต่างชาติจะเป็นนักท่องเที่ยวจากจีน ญี่ปุ่นและกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรป โดยเฉพาะรัสเซียที่จะชอบมาเดินเที่ยวและพักที่ข้าวสารอย่างน้อย 1 คืน  ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนหายไป เพราะจีนประกาศใช้กฎหมายควบคุมนักท่องเที่ยวด้วย นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทยกล่าวว่า หลังจากใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจร้านอาหาร ภัตราคาร หายไป 300 ล้านบาท โดยธรรมชาติของธุรกิจร้านอาหารภัตราคาร จะมีเงินที่เป็นกระแสเงินสด หรือ สภาพคล่องอยู่ได้ 3 เดือน หากสถานการณ์ไม่ยุติลงในเวลาอันเร็วนี้พนักงานกลุ่มแรกที่จะถูกปลด คือ พนักงานเสิร์ฟ 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : โรงแรม-ภัตตาคารเลิกจ้างพนักงานพาสไทม์

Posts related

 














บีโอไอหนุนผู้ประกอบการค้าขายข้ามภาค

นายเจษฎา ศรศึก ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า วันที่ 4 – 7มี.ค. นี้ สำนักพัฒนาฯ ร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 หรือบีโอไอ ขอนแก่น นำผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กว่า 30 ราย ร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายการค้า การลงทุน และชักจูงการลงทุนในภาคใต้ เส้นทางกรุงเทพฯ –กระบี่ –ภูเก็ต เพื่อกระตุ้นการลงทุนประเทศ รูปแบบการลงทุนข้ามพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการต่อยอดการลงทุนในอุตสาหกรรม ตามยุทธศาสตร์ของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสำหรับกิจกรรมที่ดำเนินการ คือ เยี่ยมชมโรงงานอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในจ.กระบี่ และภูเก็ต  เช่น ผู้ผลิตน้ำยางข้น ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบ ผู้ผลิตสระน้ำและอุปกรณ์ ผู้ผลิตคอลลาเจนจากเป๋าฮื้อ รวมถึงการจัดเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงการค้าการลงทุน ระหว่างผู้ประกอบการภาคกลาง และภาคอีสานกับผู้ประกอบการภาคใต้  การเข้าร่วมรับฟังข้อมูลและศักยภาพการลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ จากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานอุตสาหกรรมจ.กระบี่ สภาอุตสาหกรรม จ.กระบี่ หอการค้าจ.กระบี่“บีโอไอตั้งเป้าจัดกิจกรรมในรูปแบบส่งเสริมศักยภาพเอสเอ็มอี เพื่อสร้างเครือข่ายการค้า การลงทุน และแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจระหว่างกันในภูมิภาค ให้เกิดขึ้นต่อเนื่อง และกระจายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาศักยภาพในการแข่ง ขัน และรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะเตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และผู้ประกอบการไทยยังมีตลาดในการกระจายสินค้าเพิ่มขึ้น สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 089 776 0161”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บีโอไอหนุนผู้ประกอบการค้าขายข้ามภาค

สอท.รับการเมืองกดดันจีดีพีเหลือ 2-2.5%

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี ) ปีนี้ คาดว่า จะขยายตัว 2 -2.5% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 5-5.5% เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันยังยืดเยื้อ และไม่มีความชัดเจนโดยเฉพาะการเลือกตั้ง เบื้องต้นคาดว่ารัฐบาลใหม่จะจัดตั้งได้กลางปีนี้ ส่งผลให้การเบิกจ่ายงบประมาณ การออกมาตรการ และโนบายในการดำเนินงานกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ต้องล่าช้าออกไป ขณะที่ภาคการส่งออกยังฟื้นตัวไม่มากนัก"เรากังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจไทยที่มีปัจจัยการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสูญญากาศของรัฐบาล ที่ไม่รู้จะมีทิศทางอย่างไร หากเดือน ก.พ.นี้ เลือกตั้งไม่ได้ต้องรออีกอย่างน้อยครึ่งปี เราถึงจะมีรัฐบาลใหม่ คงต้องไปลุ้นกันในครึ่งปีหลัง ประกอบกับเศรษฐกิจโลกเพิ่งฟื้น จึงมองว่าการส่งออกไตรมาสแรก คงไม่ดีไปกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องเร่งหาทางออก เพราะขณะนี้ภาคอุตสาหกรรมโดยรวม มีอัตราการใช้กำลังการผลิต 64% จึงกังวลเกี่ยวกับการจ้างงานใหม่ ที่เด็กจบใหม่ประมาณแสนคน จะเข้ามาในระบบปีนี้ มีโอกาสตกงานเพิ่มขึ้น เพราะปกติภาคเกษตร จะเป็นตัวดูดซับ แต่เวลานี้ทุกภาคส่วนก็แย่หมด"ด้านนายวิศิษฐ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท.กล่าวว่า ได้จัดทำแบบสอบถามสมาชิกต่างจังหวัด ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 350 ราย พบว่า ผู้ประกอบการ 70% มองว่า ผลประกอบการปีนี้ จะลดลงกว่าปีที่แล้ว ขณะที่ 20% มองว่า กระทบเล็กน้อย และอีก 10% มองว่า จะใกล้เคียงกับปี 56 โดยไม่มีรายใดมองว่าผลประกอบการจะดีขึ้น ส่วนยอดขาย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 40% มองว่า จะลดลงอย่างมาก อีก 50% มองว่า ยอดขายลดลงเล็กน้อย และ 10% มียอดขายเท่าเดิมสำหรับข้อเสนอแนะที่เอกชนต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ คือ เร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองให้เร็วสุด เพราะหากยืดเยื้อ หรือรุนแรง กลุ่มเอสเอ็มอีจะได้รับผลกระทบมากสุด ,ต้องการให้ช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง ให้เข้าถึงแหล่งทุนได้อย่างแท้จริง , รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนเกินไป , ให้แก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง ,ยกระดับมาตรฐานการผลิต และลดต้นทุน รวมถึงตรึงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน โดยไม่นำมาเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองและกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำให้เป็นกลไกของคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งภาครัฐไม่ควรเข้ามาแทรกแซง

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สอท.รับการเมืองกดดันจีดีพีเหลือ 2-2.5%

Page 1116 of 1552:« First« 1113 1114 1115 1116 1117 1118 1119 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file