ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 27 ม.ค. ซึ่งเปิดตลาดวันแรกของสัปดาห์ ยังเต็มไปด้วยความผันผวนหลังดัชนีดิ่งลงทันทีที่เปิดตลาด จากนั้นก็รูดลงอย่างหนักตลอดทั้งวัน ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่แดงเถือก เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายเพื่อลดความเสี่ยงและโยกเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่าเพราะมีความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจ และค่าเงินของตลาดเกิดใหม่ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องรวมถึงคาดการณ์ว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ อาจมีการปรับลดขนาดวงเงินของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี) ลงอีกนอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ร้อนระอุ กดดันให้ระหว่างวันหุ้นไทยร่วงลงหนักสุดที่27.28 จุด หรือ 1,287.35 จุด ก่อนฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยจนมาปิดตลาดที่ 1,288.59 จุด ร่วงลง 26.04 จุด หรือ 1.98% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 27,606.04 ล้านบาท สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด5 อันดับแรก1. ทอท. ปิดที่ 175.00 บาท ลดลง 0.50 บาท2. ธ.กสิกรไทยปิดที่ 171.50 บาท ลดลง 4.00 บาท3. เอไอเอส ปิดที่ 210.00 บาท ลดลง 5.00 บาท4. พีทีทีจีซีปิดที่ 72.00 บาท ลดลง 2.00 บาท5. ปตท.สผ. ปิดที่ 161.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หุ้นไทยวันที่ 27 มกราคม 2557 ปิดร่วง 26.04 จุด
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs
นายครรชิต สิงห์สุวรรณ์ รักษาการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปี 56 ที่ผ่านมา มีกำไร 2,700 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ จากการดำเนินงาน 700 ล้านบาท และเงินจากกำไรทางบัญชี จากการแก้ไขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีเอฟ) อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดสินเชื่อรวมมีทั้งสิ้น 107,000 ล้านบาท และยอดเงินฝากรวมกว่า 111,000 ล้านบาท แบ่งเป็นออมทรัพย์ 15.6% และฝากประจำ 84.4%ทั้งนี้ ธนาคารมีเอ็นพีเอฟสิ้นปี 56 ลดลงอยู่ที่ 32,000 ล้านบาท หรือ 29% จากเดิม 43,000 ล้านบาท เนื่องจากได้ปรับโครงสร้างหนี้ที่ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ดูแลสภาพคล่องให้อยู่ในระดับ 22,000 ล้านบาท โดยเร่งระดมเงินฝากให้อยู่ในระดับปกติ รวมทั้งปรับสินเชื่อให้มีคุณภาพ และพัฒนาระบบภายในให้มั่นคง ส่งผลให้เงินกองทุน ปรับจากสถานะติดลบกลับมาเป็นบวกได้สำหรับปี 57 ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13,000 ล้านบาท เงินฝากเพิ่มขึ้น 25,000 ล้านบาท และออกกองทุนพันธบัตรอิสลาม ในไตรมาส 4 วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อใช้รองรับการขยายแผนงานในอนาคต รวมทั้งขยายสาขาทั่วประเทศเพิ่มเป็น 130 สาขา จากปัจจุบัน 110 สาขา โดยคาดว่าจะเปิดได้ตามเป้าหมายในเดือน ก.พ.นี้"ธอท.ตั้งเป้าลดเอ็นพีเอฟให้เหลือเลขหลักเดียว โดยมีแผนขายเอ็นพีเอฟให้บริษัทบริหารสุขุมวิท จำกัด (บบส.) วงเงิน 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจเอสเอ็มอี 5,000 ล้านบาท รายย่อย 3,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับ บบส.เกี่ยวกับกระบวนการโอนหนี้ เพื่อไม่ให้ผิดหลักศาสนา คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนใน ก.พ.นี้ ส่วนวงเงินอีก 25,000 ล้านบาท จะบริหารจัดการเอง ทำให้คาดว่าในปี 57 จะมีกำไรมากกว่า 2,700 ล้านบาท" 
น.ส.อารยา ภู่พานิช ผู้ช่วยผู้จัดการอาวุโส สายธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า บริษัทได้เพิ่มความระมัดระวัง ในการปล่อยสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล หรือบัตรกดเงินสดมากขึ้น หลังจากภาวะเศรษฐกิจ มีแนวโน้มชะลอตัวลง ขณะที่ผู้บริโภคมีรายจ่ายสูงขึ้น แต่รายได้ลดลง ทำให้ธนาคารปรับลดเป้าหมายสินเชื่อบัตรเครดิตในปีนี้ จากเดิมที่ 16-17% เหลือ 10%หรือมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 220,000 ล้านบาทจากปี 56 ที่200,000 ล้านบาท และปรับลดวงเงินการให้สินเชื่อบัตรกดเงินสด สำหรับสินเชื่อใหม่ จากเดิมที่ 8,500ล้านบาท เหลือ 7,000 ล้านบาท โดยเน้นให้ลูกค้าเก่าที่มีประวัติผ่อนชำระดีเป็นหลัก“ช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีสินเชื่อบุคคล ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน จะเป็นหนี้เสียอันดับแรก ดังนั้นการปล่อยสินเชื่อใหม่ ต้องเลือกกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เฉลี่ย 2% ขณะที่ตลาดอยู่ที่ 3.7% จากสินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันทั้งหมด 32,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ได้ปรับเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อ จากเดิมที่มีรายได้ 12,000 บาทต่อเดือน เป็น15,000 บาทขึ้นไป”นอกจากนี้ ธนาคารได้ลดการทำโปรโมชั่น เพื่อไม่ต้องการกระตุ้นการใช้จ่าย เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้ถือบัตร สร้างหนี้เกินตัว และทำให้เกิดหนี้เสีย โดยจะเข้มงวดวงเงินอนุมัติสินเชื่อ หากเป็นกลุ่มที่มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท จะได้รับวงเงิน 50-60% ของรายได้ และรายได้ต่อเดือนสูงกว่า15,000 บาท ได้รับอนุมัติ 70% หากเศรษฐกิจดีจะเพิ่มเป็น 80-85%ด้าน นายปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบริษัทระมัดระวังเอ็นพีแอลอยู่แล้ว ซึ่งทรงตัวจากไตรมาส 3 ปี 56 เฉลี่ยที่ 3.3% ส่วนยอดใช้จ่ายบัตรเครดิต ช่วงตรุษจีนอาจชะลอลงบ้าง เนื่องจากผู้บริโภคกังวลสถานการณ์การเมือง มีผลทำให้ยอดใช้จ่ายลดลง เพราะในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาปกติการใช้จ่ายจะสูงขึ้น เพราะเข้าสู่เทศกาลปีใหม่แต่น้อยกว่าที่คาดไว้ 
