ว่าที่เรืออากาศโทจตุรงคพล สดมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศดอนเมือง บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ยอดผู้โดยสารใช้บริการสนามบินดอนเมืองในเดือน ม.ค.57 มีคนใช้น้อยกว่าที่คาดไว้ โดยเดิมคาดว่าจะเติบโต 25% แต่กลับขยายตัวเพียง 20% โดยเฉพาะเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำที่เดินทางเข้ามาลดลง 50% จากที่ตั้งเป้าไว้เดิม 300 เที่ยวบิน เหลือเพียง 150 เที่ยวบิน ซึ่งเป็นผลกระทบจากนโยบายการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญของรัฐบาลจีนทำให้นักท่องเที่ยวหายไปมาก ประกอบกับได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมืองไทย ทำให้ชาวต่างชาติบางส่วนกังวลและชะลอการเดินทางเข้ามา “หากการชุมนุมยืดเยื้อและทวีความรุนแรงมากขึ้น อาจมีผลกระทบต่อเที่ยวบินต่างประเทศ ในขณะที่เที่ยวบินในประเทศไม่ได้มีผลกระทบมากนัก โดยยอมรับว่าผู้โดยสารจากภาคใต้ก็มีการโดยสารเครื่องบินเพื่อเข้าร่วมการชุมนุม แต่ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่พร้อมอำนวยความสะดวกอย่างเท่าเทียมไม่มีการขัดขวางใดๆทั้งสิ้น”ทั้งนี้สถิติผู้โดยสารสนามบินดอนเมืองวันที่ 1-13 ม.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินในประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ขณะที่ผู้โดยสารและเที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเพียง 10% เฉลี่ย 13 วัน มีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 20% ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 25% แต่คาดว่าช่วงหลังจากนี้ในไตรมาสแรกจะมีผู้ใช้บริการมากขึ้น โดยปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการทั้งปี 57 ยังน่าจะเติบโตได้ 25% ตามเป้าหมายอย่างแน่นอนนอกจากนี้ ยังขอประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมว่าในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง สนามบินดอนเมืองได้จัดพื้นที่บริการจุดจอดรถฟรีให้กับประชาชนทั่วไป 2,000 คัน พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมายังมีผู้ใช้บริการน้อยเพียงวันละ 200 คัน ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนมาใช้บริการได้ โดยจะมีบริการจัดรถรับส่งที่สถานีรถไฟดอนเมืองให้ด้วยด้านนายพีรกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ กล่าวว่า สำหรับตัวเลขผู้โดยสารตั้งแต่วันที่ 1-16 ม.ค.ที่ผ่านมามีผู้โดยสารใช้บริการทั้งสิ้น 754,104 คน มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยสูงขึ้น36 % จากปกติที่เฉลี่ย 40,000 – 50,000 คนต่อวัน โดยเฉพาะวันที่ 13 ม.ค. 57 ที่มีการชุมนุมใหญ่ทางการเมืองมีผู้โดยสารที่ใช้สูงถึง 67,888 คน สำหรับการปล่อยรอบรถปกติจะมีความถี่ในการให้บริการรถไฟฟ้าธรรมดา (ซิตีไลน์) 12-15 นาทีต่อขบวน แต่หากพบว่ามีผู้โดยสารรอนานในชั่วโมงเร่งด่วน จะเพิ่มความถี่ในการให้บริการเร็วขึ้นเป็นขบวนละ 8-10นาที ขณะที่รถไฟฟ้าด่วน (เอ็กเพรสไลน์) ยังให้บริการปกติ คือ 30 นาทีต่อขบวน
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : การเมืองพ่นพิษทำยอดใช้สนามบินดอนเมืองวูบ
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs
นายเคียวอิจิ ทานาดะกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ เปิดเผยว่า ตลาดรวมรถยนต์ของไทยปีนี้คาดว่าอยู่ที่1.15 ล้านคัน ลดลง 13.6%ในจำนวนนี้แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง527,000 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ 623,000 คัน จากปี56ที่ตลาดรวมมียอดขาย1,330,668 คัน พร้อมกันนั้นได้ประเมินการแข่งขันในตลาดรถยนต์นั่ง โดยเฉพาะในส่วนของรายการส่งเสริมการขายจะชะลอความรุนแรงลงเมือ่เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาแต่ต้องดูสถานการณ์ตลาดอีกครั้งหนึ่งว่าจะเป็นอย่างไร“ตัวเลขตลาดรวมที่ 1.15 ล้านคันในปีนี้ประเมินภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ประกอบกับปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ ที่หมดไปหากรวมเรื่องของการเมืองเข้าไปและยืดเยื้อไม่สิ้นสุด ยอดขายต้องลดลงมากกว่านี้อีก”สำหรับ ปีนี้โตโยต้าได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 400,000 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว 10.2% ในจำนวนนี้แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 184,000 คันลดลง 3.2% รถเพื่อการพาณิชย์ 216,000 คัน ลดลง 15.4% ส่วนการส่งออกอยู่ที่ 445,000 คัน หรือคิดเป็นมูลค่ารวมของการส่งออกอยู่ที่263,600 คัน ส่วนยอดขายของโตโยต้าปี 56 มียอดรวมทั้งสิ้นที่445,464 คัน ลดลง 13.7% ส่วนการส่งออกอยู่ที่430,929 คัน มูลค่า 251,453 บาทพร้อมกันนั้นในปีนี้บริษัทมีแผนจะเพิ่มโชว์รูมจาก390 แห่ง เป็น 450 แห่ง และโชว์รูมของโตโยต้า ชัวร์ ที่จำหน่ายรถยนต์ใช้แล้วของโตโยต้าจาก100 แห่ง เป็น 120 แห่ง เพื่อรองรับ และให้บริการแก่ลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนแผนการลงทุนเพิ่มในไทยขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาหากการเมืองยืดเยื้อก็จะต้องชะลอไปก่อนแต่ไม่ย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศไทยอย่างแน่นอนนอกจากนี้ในอนาคตได้ตั้งเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในไทยจากปัจจุบันอยู่ที่850,000 คัน เป็น 1 ล้านคัน และพร้อมที่จะลงทุนเพิ่มสร้างโรงงานใหม่15,000-20,000 ล้านบาทในอีก 3-4ปีข้างหน้า 
นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. เดินทางไปปิดธนาคารออมสิน หลังมีกระแสข่าวว่า ธนาคารออมสินจะนำเงินไปให้กระทรวงการคลังกู้เงินไปจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าว ว่า ข่าวที่ได้รับค่อนข้างที่จะคลาดเคลื่อนกับความเป็นจริงมาก เนื่องจากโครงการนี้ธนาคารออมสินไม่ได้ดูแลโครงการนี้โดยตรง เพราะโครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ ธ.ก.ส.ดูแล ดังนั้น จะบอกว่าธนาคารออมสินจะนำเงินฝากไปให้กับโครงการนี้ก็ไม่ถูกต้อง เพียงแต่ว่าข่าวที่ได้รับมาอาจจะคลาดเคลื่อน อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องถอนเงินฝาก และคาดว่าสำนักงานใหญ่จะเปิดให้บริการได้ตามปกติในวัน 21 ม.ค.นี้ “เราไม่ได้รับผิดชอบโครงการนี้เลย เราไม่สามารถที่จะลงไปในโครงการนี้โดยตรงได้อยู่แล้ว อยากให้พี่น้องประชาชนสบายใจว่า ธนาคารออมสิน ในขณะนี้ ยังมีความเข้มแข็ง เรายังยึดในหลักที่ว่า มันต้องเป็นไปตามขั้นตอน รวมทั้ง ข่าวที่ออกมาตามโซเชียลต่างๆ อาจจะไม่ได้ถูกต้องนัก เเละอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของตน ที่จะสื่อสารให้กับคนในองค์กร ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง” อย่างไรก็ตาม ธนาคารออมสินมีทั้งหมด 1,000 สาขา ทั่วประเทศ มีเพียง 5 สาขาที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมและต้องปิดทำการชั่วคราว คือ สาขากระทรวงการคลัง ทำเนียบรัฐบาล เอเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ ที่กระทรวงพลังงาน ศูนย์ราชการและสำนักงานใหญ่ที่สะพานควาย โดยท่ีทำเนียบรัฐบาล ศูนย์ราชการฯ และเอเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ ที่ปิดทำการมาประมาณ 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสิน ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีที่ ธนาคารออมสินจะนำเงินไปให้กระทรวงการคลังกู้เงินไปจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าว ว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่า ธนาคารออมสินปล่อยกู้โครงการรับจำนำข้าว สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสิน ขอให้พี่น้องประชาชน เพื่อนพนักงานและลูกจ้างธนาคารออมสิน สบายใจว่า หากมีการปล่อยกู้โครงการรับจำนำข้าวจริง สหภาพแรงงานฯ พร้อมจะรวมพลังคัดค้านและต่อต้านอย่างถึงที่สุด 
