วันที่ 18 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09:29 น. เว็บไซต์สมาคมค้าทองคำ ประกาศปรับราคาทองคำในประเทศครั้งที่ 1 โดยเพิ่มขึ้นจากเดิม 100 บาท ทำให้ราคาปัจจุบันอยู่ที่ รูปพรรณขายบาทละ 19,850 บาท รับซื้อ 19,071.28 บาท ทองแท่งขายบาทละ 19,450 บาท รับซื้อ 19,350 บาท ราคาทองคำและครั้งที่ปรับ ราคาทองคำปรับครั้งที่ 1 ขึ้น 100 บาท รูปพรรณขายบาทละ 19,850 บาท รับซื้อ 19,071.28 บาท ทองแท่งขาย 19,450 บาท รับซื้อ 19,350 บาท เวลา 09:29 น.
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ราคาทองคำ18ม.ค.57 ปรับครั้งที่1 รูปพรรณขายบาทละ19,850บาท
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs
นายศกร ทวีสิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล เปิดเผยว่า ในวันนี้(18 ม.ค.) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 น.และปิดในเวลา 20.00 น. ขณะที่สาขาชิดลม จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 น.และปิดในเวลา 22.00 น. สาขาลาดพร้าว จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 น.และปิดในเวลา 21.00 น. สาขาสีลมคอมเพล็กซ์ จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.30 น.และปิดในเวลา 21.30 น. ส่วนสาขาแจ้งวัฒนะ จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 น.และปิดในเวลา 22.00 น. เพื่อความสะดวกในการเดินทางไป-กลับ สำหรับลูกค้าและพนักงานในช่วงที่มีการชุมนุม ส่วนสาขาอื่นๆยังเปิดทำการในเวลาปกติ ด้านบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้ถึง 19 ม.ค. นี้ ศูนย์การค้าทั้งหมดจะเปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. และปิดเวลา 20.00 น. เช่นกัน ขณะที่ศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ จะเปิดให้บริการตามเวลาปกติคือ วันจันทร์ อังคาร พฤหัส ศุกร์ จะเปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 09.00 และปิดเวลา 20.00 น. และวันพุธ เสาร์ อาทิตย์ จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา08.00 และปิดเวลา 20.00 น. นอกจากนี้ศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ จะเปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 11.00 น.และปิดในเวลา 21.00 น. ทั้งนี้ทุกศูนย์การค้าจะประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมปรับแผนรับมือตลอด ซึ่งหากมีการปรับเปลี่ยนเวลาดำเนินจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง 
ผ่านมาเกือบ 80 วันแล้วกับมวลมหาประชาชนที่ปักหลักขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากนายกรัฐมนตรีรักษาการ ที่แม้จะเพิ่มความรุนแรงในการขับไล่มากขึ้น รวมไปถึงการขู่จะจับตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ และบรรดารัฐมนตรีทั้งหลาย แต่ดูเหมือนว่าเสียงเรียกร้องเหล่านั้นจะไร้ผล! เพราะเสียงของรัฐบาลเวลานี้ยืนยันที่ต้องทำทุกอย่างตามกรอบกฎหมายเท่านั้น ส่วนผลลัพธ์อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ระหว่างนี้ หรืออนาคต เป็นเรื่องที่คนไทยต้องแบกรับเอาเอง เป็นเรื่องที่ปฏิเสธ…ไม่ได้ว่า ตั้ง แต่มีมวลมหาประชาชนเกิดขึ้น การทำมาค้าขายในหลายอาชีพ ต้องเผชิญกับสารพัดปัญหา เมื่อรวมกับเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ได้ฟื้นตัวแบบเด่นชัด ยิ่งทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ขายทั้งหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ไม่ได้ก่อมากขึ้นไปอีก ด้วยเพราะปัจจัยการเมือง ที่ต่างฝ่ายต่างนำ “คนไทย” มาเป็นตัวประกันด้วยกันทั้งสิ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติเผ่นหนี ในเมื่อความต้องการของทั้ง 2 ฝ่ายอยู่กันคนละข้างอยู่กันคนละขั้ว สุดท้ายผู้ที่รับกรรมก็คือคนหาเช้ากินค่ำไปจนถึงบรรดานักธุรกิจทั้งหลาย เห็นได้ชัดจากสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองหลายแห่งจากเดิมที่เคยเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติแต่ปัจจุบันกลับมองเห็นได้บางตามากสะท้อนจากเสียงของพ่อค้าแม่ค้า เช่น บริเวณท่าช้างและวัดอรุณฯ ส่วนใหญ่บอกออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่าขายของไม่ได้ เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น เกาหลีหายวับไปหมด เช่นเดียวกับห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ชุมนุมที่ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯทั้งมาบุญครอง สยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์มีคนเข้ามาเดินชอปปิงบางตา ร้านขายสินค้าแบรนด์ไทยที่ต่างชาตินิยมมาเลือกซื้อซึ่งตั้งร้านอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าก็ขายไม่ออกขณะเดียวกันบรรดาโรงแรมหรูในย่านที่ใกล้กับสถานที่ชุมนุมก็ไม่มีคนเข้ามาพักจนทำให้ผู้ประกอบการยอมเฉือนเนื้อตัวเองลดราคาห้องพัก เพื่อให้พอมีรายได้ในช่วงนี้ คนกรุงรับกรรมเดินทางลำบาก การชุมนุมที่ยืดเยื้อตอนนี้กินเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีใครออกมาบอกได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมยังจัดกิจกรรมรายวันนอกเหนือจากการปราศรัยในช่วงค่ำโดยเดินทางไปปิดสถานที่ราชการจนทำให้ผู้ที่สัญจรบนท้องถนนได้รับผลกระทบเปลี่ยนแผนการเดินทางไม่ทันโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาทำงานเช้า-เย็นต้องเผชิญกับการจราจรที่กลายเป็นอัมพาต ส่วนผู้ที่หลีกเลี่ยงเส้นทางชุมนุมและหันไปใช้บริการขนส่งแบบสาธารณะทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน บนดินหรือเรือโดยสารก็พบกับมวลมหาชนเบียดเสียดล้นทะลักทำให้การเดินทางในช่วงนี้มีความยากลำบากเป็นอย่างยิ่งแม้ว่ากระทรวงคมนาคมจะจัดแผนอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้กับประชาชนขั้นสูงสุดก็ตาม ชาวบ้านจ๊าก! โดนเอาเปรียบสารพัด สิ่งที่ตามมากับในช่วงจังหวะการชุมนุมหนีไม่พ้นการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเช่น คนทำงานที่ต้องเดินทางผ่านสถานที่ชุมนุมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างซอกแซกช่วงรถติดก็กลับถูกรีดค่าโดยสารเกินความจริงบางรายระยะทางใกล้ ๆ คิดค่าโดยสารหลักร้อยจนทำให้กรมการขนส่งทางบกต้องออกมาเร่งตรวจจับเช่นเดียวกับรถแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารที่ยังพบเห็นอย่างชินตา นอกจากนี้ผลกระทบจากการปิดสถานที่ราชการยังเป็นข้ออ้างหนึ่งของรัฐบาลที่บอกว่า ไม่สามารถจ่ายเงินให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกด้วย เอกชนประเมินเศรษฐกิจล่ม มาดูภาคเอกชนที่ถือเป็นกลจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยบ้างส่วนใหญ่ต่างก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองอาจทำให้ภาคธุรกิจเจ๊งไม่เป็นท่าโดยศูนย์พยา กรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยก็ประเมินว่า หากม็อบนกหวีดชัตดาวน์กรุงเทพฯจะทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจเฉลี่ยวันละ 1,000 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวหดหนีไปประเทศเพื่อนบ้านส่วนทางสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็ออกมาให้ความเห็นในทางเดียวกันโดยตั้งสมมุติฐานว่าหากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในปีนี้และถ้าเกิดเหตุการณ์พิเศษเช่น ปฏิวัติ รัฐประหารแน่นอนว่าถ้าเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้แค่ 2% ก็ถือว่าเก่งแล้ว แผนลงทุนภาครัฐถูกแช่แข็ง ด้านภาครัฐที่วางแผนลงทุนไว้สวยหรูว่าจะมีเงินไหลเข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจปีนี้หลายหมื่นล้านบาทก็ต้องพังทลายลงทั้งโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง 2 ล้านล้านบาท และโครงการลงทุนบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท เพราะต้องรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาสานต่อรวมไปถึงการบริโภคในประเทศอาจต้องชะลอตัวลงเพราะคนไม่กล้าใช้จ่าย ส่วนภาคการส่งออกที่นอกจากจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกแล้วยังถูกอานิสงส์ม็อบไม่สามารถขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือกรุงเทพที่คลองเตยได้เพราะติดกลุ่มผู้ชุมนุมปิดถนนบริเวณสวนลุมพินีจนต้องเปลี่ยนแผนขนสินค้าไปลงเรือที่ท่าเรือแหลมฉบังแทนทำให้ต้นทุนพุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตราบใดที่เหตุบ้านการเมืองยังเป็นเช่นนี้ ก็เชื่อได้ว่าคนไทยทั้งประเทศก็ยังคงมีฐานะเป็นเหยื่อทางการเมืองต่อไป! วสวัตติ์ โอดทวี 
