นายสมชาติ สร้องทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่าได้หารือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติโดยขอความร่วมมือให้ตรึงราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มในระดับราคาปัจจุบันไว้จนถึงเทศกาลตรุษจีนเพื่อไม่ให้ราคาเนื้อหมูชำแหละปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น คาดว่าราคาเนื้อหมูชำแหละจากนี้ไปจนถึงเทศกาลตรุษจีนจะอยู่ในช่วงราคาไม่เกินกก.ละ140-150 บาท ส่วนสาเหตุที่ราคาเนื้อหมูปรับเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากความต้องการบริโภคในช่วงเทศกาลซึ่งมีการบริโภคเพิ่มขึ้นตั้งแต่เทศกาลปีใหม่ และเร็วๆนี้ก็จะมีเทศกาลตรุษจีนทำให้ราคาหมูเพิ่มต่อเนื่อง “ตอนนี้ก็ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาไว้ก่อนเพื่อเชื่อว่าหลังพ้นเทศกาลตรุษจีน ราคาหมูจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยราคาแนะนำเนื้อหมูทั้งระบบที่กรมประกาศใช้ จะยังไม่มีการปรับราคาขึ้นในขณะนี้” รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่าราคาขายปลีกเนื้อหมูชำแหละในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลได้ขยับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่โดยก่อนวันที่ 26 ธ.ค. ราคาหมูเนื้อแดงอยู่ที่กก.ละ 130-135บาท ปรับขึ้นมาเป็นกก.ละ 135-140 หลังวันที่ 26ธ.ค.และปรับขึ้นมาเป็นกก. 135-140 บาท ช่วงวันที่ 2ม.ค. ล่าสุดราคาหมูเนื้อแดงขยับขึ้นมากก.ละ 145-150บาท แล้ว ทั้งนี้สาเหตุที่ราคาหมูเนื้อแดงได้ปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากหมูเป็นหน้าฟาร์มได้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น จากต้นทุนที่สูงขึ้นมีอัตราการเลี้ยงหมูมีการตายมาก ประกอบกับความต้องการบริโภคหมูในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมีเพิ่มขึ้นทำให้ปริมาณกับความต้องการไม่สอดคล้องกันและคาดว่าราคาเนื้อหมูชำแหละที่ขายในท้องตลาดจะมีราคาทรงตัวสูงในระดับนี้จนถึงเทศกาลตรุษจีนในช่วงปลายเดือนม.ค.ก่อนจะปรับราคาลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์แตะเบรคหมูแพงห้ามเกิน150บาท
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs
นายชนะพันธ์ แก้วกล้าไชยวุฒิ เลขาธิการสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เปิดเผยว่าขณะนี้ได้มีบริษัททัวร์เถื่อนออกมาตั้งเคาท์เตอร์เสนอขายแพ็กเกจทัวร์ชมโชว์ลามกอนาจารอย่างกลาดเกลื่อนตามแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ เช่น พัทยา ภูเก็ต รวมถึงในพื้นที่ระแวกสนามบิน โดยจะเขียนป้ายอธิบายรายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีนอย่างชัดเจนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นข้อความ จนเกิดความสนใจอยากซื้อแพ็กเกจ ทั้งนี้ทัวร์ในลักษณะนี้นั้นมีมานานแล้วแต่ตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่ผ่านมา เริ่มมีการะบาดหนักอย่างหนักและเผยแพร่อย่างโจ่งแจ้งมากการแสดงถูกจัดขึ้นในโรงแรมระดับ3-4 ดาว ซึ่งทำให้กระทบกับทัวร์ที่จดทะเบียนแบบถูกกฎหมายและภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมองว่ากลายเป็นเมืองท่องเที่ยวแบบอนาจารไป “ต้องยอมรับว่า การแสดงโชว์ในลักษณะอนาจารนั้น มีอยู่ในเมืองไทยนานแล้วแต่ที่ผ่านมาการเสนอขายจะผ่านไกด์นำเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ แต่ตั้งแต่รัฐบาลจีนประกาศใช้กฎหมายควบคุมทัวร์คุณภาพทำให้ไกด์เริ่มไม่กล้าที่จะเสนอขาย บรรดาทัวร์เถื่อนต่างๆ จึงต้องออกมาเสนอขายเองตามแหล่งท่องเที่ยวแทนส่วนไกด์เมื่อเห็นก็จะทำเป็นนิ่งเฉยและไม่บอกลูกทัวร์ด้วยซ้ำว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ” นอกจากนี้การขายแพ็กเกจยังมีการโฆษณาทางเว็บไซต์เฉพาะด้วยเนื่องจากปัจจุบันการใช้อินเทอร์เน็ตในการหาข้อมูลการท่องเที่ยวเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นซึ่งข้อมูลทัวร์อนาจารก็จะถูกแฝงตัวอยู่ในลิ้งค์ต่างๆ ซึ่งจะเป็นจุดสนใจให้นักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มที่เดินทางด้วยตัวเอง(เอฟไอที)เข้ามาซื้อตั๋วเข้าชมโดยราคาแพ็กเกจจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,000บาท ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นิยมเข้ามาชมโชว์จะมีอายุตั้งแต่25-50 ปี 
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ตอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ รวมถึงอาสาสมัคร ลงไปตรวจสอบการให้บริการรถสาธารณะส่วนบุคคลทั้งแท็กซี่ สามล้อมอเตอร์ไซค์ทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการชุมนุม เพื่อป้องกันไม่ให้ฉวยโอกาสปรับขึ้นค่าโดยสารหรือปฏิเสธรับส่งผู้โดยสาร รวมถึงพฤติกรรมเอาเปรียบประชาชนช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองโดยเฉพาะในวันที่ 13 ม.ค.57 ที่มีการนัดชุมนุมครั้งใหญ่ปิดเส้นทางสัญจรทั่วกรุงเทพฯ “นับตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมทางการเมืองมาหลายเดือนกรมฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนปัญหาบริการรถสาธารณะในพื้นที่การชุมนุม หรือเส้นทางที่ผ่านที่ชุมนุมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลายร้อยสาย ซึ่งถือเป็นเรื่องไม่ดี และซ้ำเติมความเดือดร้อนแก่ประชาชนเพราะนอกจากรถติดแล้ว ยังมาเจอฉวยโอกาสขึ้นค่าโดยสารอีก ดังนั้นในช่วงชุมนุมยาวก็จะส่งทีมลงตรวจและจับกุมผู้ทำผิดกฎอย่างเข้มข้นเพราะช่วงนั้นคาดรถติดมากทำให้ประชาชนอาจหันมาใช้แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้างเพิ่มเพื่อหนีรถติด จึงต้องเข้าไปดูไม่ให้เกิดการเอาเปรียบ” สำหรับบทลงโทษกรณีแท็กซี่ ไม่ยอมกดมิเตอร์หรือเรียกค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายจะมีความผิดปรับไม่เกินครั้งละ 5,000 บาทส่วนมอเตอร์ไซค์รับจ้างหากคิดค่าโดยสารในแต่ละช่วงสูงกว่าที่กระทรวงฯ กำหนดถูกปรับไม่เกินครั้งละ500 บาท รวมถึงหากวิ่งรับส่งนอกเขตที่ลงทะเบียนก็มีความผิดเช่นกัน ขณะที่รถสามล้อเครื่องยังไม่มีกฎหมายกำหนดแต่หากประชาชนได้รับบริการไม่เป็นธรรม ทั้งเรียกค่าโดยสารแพงกว่าปกติหรือการปฏิเสธรับผู้โดยสาร ร้องเรียนเข้ามาได้ โทร 1584 นอกจากนี้ กรมฯยังเตรียมเข้าไปแก้ปัญหาการตั้งวินมอเตอร์ไซค์เถื่อนตามจุดสถานชุมชน ทั้งที่ชุมนุมทางการเมืองหรือตามงานมหรสพ เช่น คอนเสิร์ต สนามกีฬา เพราะได้รับร้องเรียนว่ามักมีกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปตั้งวินชั่วคราวและมีการเรียกค่าโดยสารกับประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่แพงเกินจริง จึงขอให้เลิกพฤติกรรมเหล่านี้และหากต้องการตั้งวินมอเตอร์ไซค์ที่ถูกกฎหมาย ติดต่อมาได้ที่กรมการขนส่งทางบกซึ่งกรมฯ พร้อมจะพิจารณาให้อย่างเหมาะสม 
