shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

กรมเจ้าท่ากางแผนปี 57

นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยถึงแผนดำเนินโครงการในปีงบประมาณ 57 ว่า กรมฯ ได้รับจัดสรรงบประมาณจากกระทรวงคมนาคมรวม 4,232 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน5.9%  โดยมีแผนสำคัญ คือ โครงการเสริมทรายชายหาดพัทยา วงเงิน 430 ล้านบาท  เพื่อแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งและเพิ่มพื้นที่หาดพัทยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย โดยจะเสริมทรายตามแนวชายหาดระยะทาง 3 กม.เริ่มตั้งแต่ชายหาดด้านเหนือไปจนถึงแหลมบาลีฮาย  โดยมีระยะทางห่างจากฝั่ง30 เมตร   นอกจากนี้ยังมีโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง จ.นครศรีธรรมราช  470 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว โดยเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 57-59 รวมระยะทาง 7 กม. รวมทั้งเตรียมศึกษาโครงการป้องกันการกัดเซาะบริเวณแหลมตะลุมพุกเพิ่มเติมด้วย ขณะเดียวกันยังมีแผนดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรืออีกหลายโครงการ  เช่น โครงการก่อสร้างท่าเรือบ้านนาเกลือ จ.ตรัง ท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ จ.ตราด   โครงการปรับปรุงเขื่อนกันคลื่นร่องน้ำสงขลา จ.สงขลา   นายศรศักดิ์กล่าวถึงผลกระทบโครงการก่อสร้างที่บรรจุอยู่ในพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่า จะไม่ส่งผลกระทบ และกรมยืนยันเดินหน้าโครงการต่อไปในปี 57 ทั้งสิ้น 4 โครงการ ประกอบด้วยโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล  , ท่าเรือชุมพร, ท่าเรือสงขลา2 และท่าเรืออ่างทอง โดยจะเสนอให้กระทรวงพิจารณาหาแหล่งเงินกู้จากส่วนอื่นมาดำเนินโครงการแทนการกู้ตามพ.ร.บ. 2 ล้านล้าน เนื่องจากรัฐบาลยังมีหนี้สาธารณะอยู่ในเกณฑ์ที่จะสามารถกู้เงินเพิ่มเติมได้   “แต่ยอมรับว่าโครงการอาจล่าช้าจากเดิม เนื่องจากต้องพิจารณาอนุมัติเงินกู้เป็นรายโครงการ ไม่ได้รวมเป็นแพ็คเก็จเหมือนเดิม แต่ก็จำเป็นต้องทำโดยจะทำไปพร้อมๆกันทั้ง4 โครงการ เนื่องจากกรมมีเป้าหมาย ที่จะเพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางน้ำให้เพิ่มขึ้นเป็น 19% ในปี  63 จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 15% ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการขนส่งไทย”   นอกจากนี้ กรมยังมีนโยบายยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางน้ำ โดยในปีนี้จะนำรูปมาตรการความปลอดภัย พัทยาโมเดลไปบังคับใช้กับจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญอีก 9 แห่ง คือ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี  และกระบี่  เพื่อให้แต่ละพื้นที่ต้องจัดโซนนิ่งการเดินเรือท่องเที่ยว พื้นที่เล่นน้ำ และพื้นที่เล่นเครื่องเล่นทางน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับนักท่องเที่ยวอีก

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กรมเจ้าท่ากางแผนปี 57

Posts related

 














หนี้สาธารณะคงค้าง ต.ค.ปรับตัวลดลง

น.ส.จุฬารัตน์สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยอดหนี้สาธารณะคงค้างณ สิ้นเดือน ต.ค.56 อยู่ที่ 5.373ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 45.28% ของจีดีพี ปรับตัวลดลงสุทธิ 56,741.37ล้านบาท จากเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทปรับตัวลดลง รวมทั้ง การเบิกจ่ายและชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆที่ช่วยให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้น แบ่งเป็นหนี้ของรัฐบาล 3.769 ล้านล้านบาท, หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.087 ล้านล้านบาทหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 516,731.01 ล้านบาทและหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 834.69 ล้านบาท “หากเปรียบเทียบกับเดือนก.ย.ที่ผ่านมา หนี้สาธารณะได้ปรับตัวลดลงสุทธิ 56,741.37 ล้านบาทแบ่งเป็นหนี้ของรัฐบาล ลดลง 5,577.20 ล้านบาท, หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน ลดลง 25,963.17 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน ลดลง 25,201 ล้านบาท ขณะที่ หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า ส่วนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯนั้นไม่มีหนี้คงค้าง” อย่างไรก็ตาม สัดส่วนหนี้คงค้างต่อจีดีพีณ สิ้นเดือนก.ย.56 ที่ผ่านมาได้ปรับเพิ่มจากที่รายงาน จากเดิม 45.49% เป็น 45.86% เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้ประกาศจีดีพี ของทั้ง 3ไตรมาส ปี 56 ที่ทำให้ตัวเลขจีดีพีของปีงบประมาณ 56 เท่ากับ 11.840 ล้านล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขประมาณการจีดีพี ที่ สบน. คำนวณไว้ที่ 11.938 ล้านล้านบาทจึงทำให้สัดส่วนหนี้คงค้างต่อจีดีพีของเดือนก.ย.56 ต้องมีการปรับปรุงใหม่ให้สอดคล้องความเป็นจริงมากขึ้นส่งผลให้ประมาณการจีดีพี ณ สิ้นเดือนต.ค.เท่ากับ11.867 ล้านล้านบาท  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หนี้สาธารณะคงค้าง ต.ค.ปรับตัวลดลง

ชัตดาวน์ปิดกรุงเทพฯเสียหาย 1,000 ล้านบาทต่อวัน

นายธนวรรธน์ พลวิชัยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ประเมินผลกระทบจากการปิดกรุงเทพฯตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. 57  อย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กกปส.)จะมีความสูญเสียทางเศรษฐกิจวันละ 700 -1,000ล้านบาทแบ่งเป็นผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย 5-10% หรือลดลง 500 ล้านบาทต่อวันและ การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวหายไปเฉลี่ยวันละ200-500 ล้านบาท                 “ศูนย์ฯได้ประเมินการปิดกทม.เบื้องต้นไว้ประมาณ 2 สัปดาห์หรือก่อนที่จะถึงวันที่ 2 ก.พ. 57 ซึ่งจะทำให้การสูญเสียทางธุรกิจหายไปประมาณ10,000-20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นภาคบริโภค 5,000-10,000 ล้านบาทและภาคการท่องเที่ยว5,000-10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามศูนย์ฯคงต้องประเมินผลกระทบจริงอีกครั้งว่าจะมีความเสียหายเท่าไหร่เพราะตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ของการชุมนุมว่าเป็นอย่างไร”   

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชัตดาวน์ปิดกรุงเทพฯเสียหาย 1,000 ล้านบาทต่อวัน

Page 1197 of 1552:« First« 1194 1195 1196 1197 1198 1199 1200 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file