ชัชชาติซ้อมใหญ่แผนขนส่ง9 ม.ค.นี้ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.57 กรมการขนส่งทางบก นายชัชชาติสิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงแผนอำนวยความสะดวกประชาชนในกรุงเทพฯช่วงชุมนุมใหญ่ปิดกรุงเทพฯว่า ได้กำชับไปยังบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน(ทอท.)จัดทำแผนที่เส้นทางเลี่ยงจุดผู้ชุมนุมไปยังสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน และแท็กซี่ในสนามบินใช้เป็นทางเลือกในการเดินทาง ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวไม่ให้ตกเครื่องหรือติดค้างที่สนามบินนาน รวมทั้งต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีการเผื่อเวลาเดินทางด้วยในช่วงที่มีการชุมนุม ส่วนปัญหาการยกเลิกเที่ยวบินมาไทยจากกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมปิดกทม.นั้น ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามี 3 สายการบินที่ลดเที่ยวบินมาไทย คือ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ คาร์เธย์แปซิฟิกและฮ่องกงแอร์ไลน์ อย่างไรก็ตามการยกเลิกเที่ยวบินเดินทางเข้าไทยไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของทอท. แต่ส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจต่อเนื่องเช่น ธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว และร้านอาหาร เป็นต้น นายชัชชาติกล่าวว่าในวันที่ 9ม.ค.นี้ กระทรวงคมนาคมจะเริ่มซ้อมแผนอำนวยความสะดวกด้านการจรจาจากกรณีการชุมนุมปิดถนน เพื่อทยอยทดสอบระบบการขนส่งด้านต่างๆให้พร้อมใช้งาน และยอมรับว่ารู้สึกหนักใจกับการชุมนุมปิดกรุงเทพเพราะจะส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป ที่ต้องเดินทางไปทำงานตอกบัตรแต่เช้าอาจเกิดปัญหาเข้างานไม่ทัน รวมไปถึงกลุ่มแท็กซี่รถเช่า ที่ต้องขับรถหาเช้ากินค่ำ รวมไปถึงผลกระทบเศรษฐกิจภาพรวมอื่นๆด้วย ชี้ ปิดกรุงเทพอาจทำให้แท็กซี่ขาดแคลน เมื่อเวลา 14.00น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส จตุจักร ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่ประมาณ 20 คัน มาประชุมเพื่อหาทางรับมือผลกระทบจาก กปปส.เตรียมปิดกรุงเทพฯ วันที่13 ม.ค.นี้ โดยนายปัฐวี มีราช กลุ่มตัวแทนแท็กซี่บริการระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและกรุงเทพฯ กล่าวว่า ในช่วงมีการชุมนุมจะส่งผลกระทบต่อผู้ขับรถแท็กซี่โดยตรง ทำให้ส่วนใหญ่ต้องปรับเส้นทางการวิ่งไปตามชาญเมืองหรือจุดที่ไม่มีม็อบ รวมถึงขับรถช่วงเช้าขึ้นก่อนที่มวลชนจะปิดถนน นอกจากนี้การชุมนุมยังทำให้รายได้อาชีพแท็กซี่น้อยลงเพราะปกติวิ่งเฉลี่ยได้วันละ 6 เที่ยว ลดเหลือ 2-3 เที่ยว อีกทั้งการวิ่งรถในช่วงจราจรติดขัด ยังทำให้เวลาวิ่งต่อเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก3 ชั่วโมง เป็น 6 ชั่วโมง มีต้นทุนค่าแก๊สสูงขึ้น20% ที่สำคัญการตั้งเวทีหลายจุดเพื่อปิดกรุงเทพฯ อาจทำให้คนขับแท็กซี่งดวิ่งรถในช่วงนั้น10-15% และอาจทำให้มีรถแท็กซี่ในท้องถนนขาดแคลนได้ ส่วนแผนการเดินรถในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ผู้ขับแท็กซี่คงพยายามหาทางวิ่งรถในพื้นที่ที่สามารถวิ่งได้ แต่ในส่วนพื้นที่บริการในสนามบินสุวรรณภูมิยอมรับว่าวิ่งให้บริการได้ยาก เนื่องจากมีการปิดถนนกรุงเทพฯชั้นใน ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย อาจไม่ได้รับความสะดวก บินไทยปิดบริการ 2 แห่งให้เลื่อนไฟลท์ฟรี ต่อมาเวลา 15.00 น.ที่การบินไทยสำนักงานใหญ่ นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายการพาณิชย์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า การบินไทยประกาศปิดให้บริการผู้โดยสาร ที่สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต และสำนักงานศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ ซึ่งจะมีการชุมนุมปิดถนน 20 จุดในกรุงเทพฯแต่ยังเปิดให้บริการที่สำนักงานหลานหลวง สีลม และอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น4 สนามบินสุวรรรณภูมิตามปกติ สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินการเดินทางในช่วงนี้ทั้งเปลี่ยนวัน เวลาเดินทางสามารถทำได้ทันที โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมและพนักงานบางส่วนจะย้ายไปให้บริการที่สุวรรณภูมิ รวมถึงให้ทำงานที่บ้านได้นอกจากนี้ยังเปิดบริการให้ผู้โดยสารใช้บริการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารการบินไทยผ่านอินเตอร์เน็ต หรือสมาร์ทโฟนได้ที่ www.thaiairways.com หรือโทร 02-356-1111และศูนย์ปฏิบัติการภาวะวิกฤติ 02-545-31-81 โดยการบินไทยได้เตรียมพร้อมพนักงาน เพื่อป้องกันการขาดแคลนกรณีที่เดินทางมาปฏิบัติงานไม่ได้และได้เตรียมที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกรวมทั้งได้เตรียมวัตถุดิบในการผลิตอาหารเพื่อคอยบริการแก่ผู้โดยสารและ รับส่งสินค้าเร่งด่วนไว้รวมทั้งได้ประสานกับสายการบินต่างประเทศ ให้รับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพิ่มเที่ยวเรือเสริมวันที่ 13 ม.ค. นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ได้ประสานผู้ประกอบการเรือทั้งบริษัท เรือด่วน เจ้าพระยา จำกัด และบริษัท ครอบครัวขนส่ง จำกัด ให้เสริมเที่ยวเรือและเพิ่มความถี่การออกเรือในช่วงที่มีการปิดถนนหลายสายพร้อมให้ผู้ประกอบการจัดเที่ยวเรือพิเศษเพื่อรับ – ส่ง ผู้โดยสาร 7 ท่าเทียบเรือ ได้แก่ ท่าปากเกร็ด, ท่านนทบุรี,ท่าพระราม 5,ท่าพระราม7,ท่าเกียกกาย,ท่าวังหลังและท่าเรือสาทร พร้อมกับประสาน ขสมก.จัดรถรับจากท่าเรือ เพื่อเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นเช่น รถประจำทาง รถไฟฟ้าบีทีเอส รวมทั้งเปิดเส้นทางเดินเรือเสริมเพื่อให้บริการประชาชนได้แก่ เส้นดาวคะนอง- สาทร และ เส้นบิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ – สาทร รองรับประชาชนได้ 60,000 คน ส่วนในคลองแสนแสบจะรองรับประชาชนได้แสนคน สอบถามได้ที่สายด่วนกรมเจ้าท่า 1199 ตลอด 24ชั่วโมง
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “ชัชชาติ” สั่งซ้อมใหญ่แผนขนส่งรับมือม็อบ
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs
นายขจร วีระใจ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อหามาตรการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในสถานการณ์การชัตดาวน์กรุงเทพฯวันที่ 13ม.ค.นี้ว่า กระทรวงฯ จะจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวแบบพิเศษใน 5 จุดหลักทั่วกรุงเทพฯ เพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ 2 จุดที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง เบื้องต้นจะให้ตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ ดูแลศูนย์ฯ พร้อมทั้งจะมียานพาหนะต่าง ๆ เช่น รถมอเตอร์ไซค์ หรือ รถตู้ เพื่อใช้ในการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่อาจจะเดินทางไม่สะดวกหรืออยากจะย้ายหนีไปท่องเที่ยวที่อื่น ๆ “ขณะนี้สิ่งที่กระทรวงฯ ต้องมีมาตรการเร่งด่วนออกมาคือ การอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (เอฟไอที) เพราะกรุ๊ปที่มากับบริษัททัวร์นั้น ส่วนใหญ่บริษัทจะมีคำแนะนำและหาทางออกให้ไปท่องเที่ยวที่อื่นไว้อยู่แล้ว ซึ่งการตั้งศูนย์ไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่ใกล้กับแหล่งชุมนุม และมีอาสาสมัครติดสัญลักษณ์อย่างชัดเจน ให้นักท่องเที่ยวเห็นก็จะช่วยในกลุ่มเอฟไอทีได้มากเมื่อต้องการอยากออกจากพื้นที่เสี่ยง” อย่างไรก็ตามกระทรวงจะนัดหน่วยงานภาคเอกชน และภาครัฐ ที่เกี่ยงข้องกับการท่องเที่ยวมาเข้าร่วมหารือในรายละเอียดของมาตรการอีกครั้ง โดยจะหามาตรการช่วยเหลือและหาวิธีช่วยเหลือด้วยการประเมินเหตุการณ์ร้ายแรงสุดคือ ปิดหารจราจรทำให้เป็นอัมพาต” ด้านนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รักษาการรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขณะนี้มีการจองห้องพักในช่วงเดือนม.ค. 40% แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังตัดสินใจมาเที่ยวเมืองไทยในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น อาจเป็นไปได้ยาก ดังนั้นกระทรวงฯ จึงต้องเร่งสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวเพื่อให้ไม่ยกเลิกการเดินทาง หรือ ในนักท่องเที่ยวที่มีแผนจะเดินทางมาก็จะเห็นว่าบังเดินทางได้เป็นปกติ ทั้งนี้จากการเข้าประชุมครม.ในช่วงเช้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มีแนวทางให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในภูมิภาคและในแหล่งท่องเที่ยวหลักอื่นๆ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ให้มากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงหากเกิดเหตุการณ์วุ่นวายในกรุงเทพฯ โดยกระทรวงฯได้รับนโยบายมาแล้วและจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดแคมเปญโปรโมชั่นในแหล่งท่องเที่ยวรองต่อไป 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 7 ม.ค.ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นทันทีที่เปิดตลาด จากนั้นก็แกว่งตัวในแดนบวกได้ร้อนแรงตลอดทั้งวันตามแรงเข้าซื้อกลับ หลังราคาหุ้นปรับลดลงมามากส่งผลให้ระหว่างวันดัชนีทะยานขึ้นสูงสุดที่ 1,262.44 จุดลดลงต่ำสุดที่ 1,235.51 จุด จนมาปิดตลาดที่ 1,262.36 จุด เพิ่มขึ้น 31.52 จุด หรือ 2.56% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,432.27 ล้านบาทสำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด5 อันดับแรก1. เอไอเอสปิดที่ 210.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท2. ปตท.ปิดที่ 281.00 บาท เพิ่มขึ้น 17.00บาท3. ธ.กสิกรไทยปิดที่ 162.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท4.ปตท.สผ. ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท5. อินทัชปิดที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75บาท นายปริญทร์กิจจาทรพิทักษ์ ผอ.อาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) มองว่าดัชนีหุ้นไทยถือว่าพลิกกลับมาเป็นบวกได้แรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังที่ผ่านมาราคาหุ้นหลายตัวปรับลดลงมามากแบบเร็วและแรงเกินไปเพราะได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองในประเทศแต่เมื่อยังไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นประกอบกับราคาหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้อีก ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อ 
