รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ในปี 57 ธปท.เตรียมยกเลิกการออกพันธบัตร ประเภทที่จำหน่ายเป็นส่วนลดระยะ1 เดือน เพื่อป้องกันความผันผวนในตลาดพันธบัตรจากปัจจัยภายนอก และให้สอดคล้องกับแผนของรัฐบาลโดยประเมินจากปัจจัยสำคัญ ทั้งแนวโน้มภาวะสภาพคล่อง แผนการออกพันธบัตรของรัฐบาลรวมทั้ง ความเห็นของผู้ร่วมตลาด เพื่อสามารถวางแผนเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารสภาพคล่องและคำนึงถึงความเพียงพอของพันธบัตรทุกระยะต่อความต้องการลงทุนของตลาด ทั้งนี้วงเงินการออกพันธบัตรธปท. ปี 57 ได้ขยายช่วงวงเงินสูงสุดและต่ำสุด และการประมูลแต่ละครั้งของพันธบัตร ทั้งระยะสั้นและพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยให้ลอยตัวกว้างขึ้นโดยยังคงช่วงวงเงินเปิดประมูลสูงสุดและต่ำสุดของพันธบัตรระยะ 2 และ 3 ปีเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด รวมทั้ง ธปท.จะนำพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัวระยะ3 ปี ที่ออกประมูลในปี 56 มาออกขายในปี 57 แทนการออกรุ่นใหม่เพื่อเพิ่มวงเงินรวมต่อรุ่นและสภาพคล่องให้มากขึ้น นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงินธปท. กล่าวว่า แผนการออกพันธบัตร ธปท. ปี 57 ได้พิจารณาปรับแผนการออกพันธบัตร ภายใต้ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยความต้องการพันธบัตรในตลาดโดยได้ประเมินการออกพันธบัตรให้สอดคล้องตามความต้องการของนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศและปัจจัยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) เนื่องจากความต้องการซื้อในตลาดอาจลดลงส่วนการออกพันธบัตรของรัฐบาลจะให้สิทธิกับกระทรวงการคลังในการออกพันธบัตรเข้าสู่ตลาดเพื่อให้ปริมาณพันธบัตรสอดคล้องกัน “ปริมาณพันธบัตรที่ออกมาจะมีปริมาณเท่าไรนั้นคงไม่สามารถกำหนดได้ เนื่องจากต้องพิจารณาจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยธปท.จะพิจารณาล่วงหน้าและพร้อมปรับปริมาณการออกพันธบัตรให้เหมาะสมในทุกๆ เดือน และออกประกาศทุกสิ้นเดือนให้นักลงทุนในตลาดรับทราบ”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธปท.เล็งยกเลิกการออกพันธบัตรระยะสั้น
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs
นายเกริกวณิกกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานจากธนาคารพาณิชย์ถึงความผิดปกติการถอนเงินของประชาชนตามที่เครือข่าย กลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ประกาศเชิญชวนประชาชนให้ถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารทุกแห่ง เมื่อวันที่ 23ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้รัฐบาลและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่สั่งอายัดบัญชีของแกนนำและบัญชีบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือการชุมนุม โดยเชื่อว่าการดำเนินธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ปกติ ขณะเดียวกันการสั่งอายัดบัญชีของแกนนำและบัญชีบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือการชุมนุมของดีเอสไอ ธนาคารพาณิชย์สามารถทำได้เหมือนกับการอายัดบัญชีของลูกค้าที่เป็นหนี้กับธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่หรือรายย่อยโดยไม่ต้องแจ้งให้กับ ธปท.รับทราบ เพราะ ธปท.มีหน้าที่เพียงกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ให้ดำเนินการธุรกิจอย่างมีเสถียรภาพการแข่งขันที่เป็นธรรม เพื่อประโยชน์ต่อประชาชน 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ (25 ธ.ค.) ดัชนีสามารถฟื้นตัวได้ทันทีที่เปิดตลาดจากนั้นก็ยืนบวกได้ ตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงได้รับแรงสนับสนุนจากแรงเข้าซื้อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(แอลทีเอฟ) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) แต่ดัชนีขยับไปไหนได้ไม่ไกล เนื่องจากยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองในประเทศ ส่งผลให้หุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,331.48 จุด เพิ่มขึ้น4.35 จุด หรือ 0.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง5,962.77 ล้านบาท 
