shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

ครม.ห่วงเศรษฐกิจไตรมาสแรกปีหน้าทรุด

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้แสดงความเป็นห่วงถึงภาวะเศรษฐกิจช่วงไตรมาสแรก ปี 57 หากยังไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ตามกำหนดในวันที่ 2 ก.พ.57 อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่จะทยอยเทขายหุ้นออกจากตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นขณะเดียวกันยังต้องติดตามกรณีของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดที่อาจพิจารณาลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ลงเพราะอาจส่งผลกระทบให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างมาก จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยให้ชะลอตัวต่ำลงกว่าที่คาดการณ์ไว้  นายอำพนกิตติอำพน เลขาธิการครม. ในฐานประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กล่าวว่า การประกาศให้มีการเลือกตั้งแล้วไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด น่ากลัวมากกว่ากรณีวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เพราะกรณีดังกล่าวสามารถรู้ว่าปัญหาเกิดจากอะไรและแก้ไขได้แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะเลือกตั้งได้หรือไม่ ในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ อาจมองว่าเป็นการไม่เคารพกฎหมาย และอาจไม่ตัดสินใจเข้ามาลงทุน น.ส.สุณิสา เลิศภควัฒน์รองโฆษกประจำสำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ได้รับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนต.ค. และแนวโน้มปี 56 และ 57 จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)  พบว่า เสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจแม้ว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เครื่องชี้ดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งด้านการใช้จ่ายและการผลิตยังปรับตัวลดลงส่วนการใช้จ่ายภาคครัวเรือนปรับตัวดีขึ้น การลงทุนภาคเอกชนปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับการส่งออกสินค้าเริ่มหดตัวน้อยลง แอละดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องส่วนดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวเริ่มชะลอตัว   ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 56 และ57 คาดว่า ในปี 56 มีแนวโน้มขยายตัว 3% เงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2.4% และดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 0.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ส่วนปี 57 มีแนวโน้มขยายตัวในช่วง 4-5% เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีอยู่ในช่วง 2.1-3.1% และบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 0.6% ของจีดีพี

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ครม.ห่วงเศรษฐกิจไตรมาสแรกปีหน้าทรุด

Posts related

 














ราคาทองคำ 17 ธ.ค.56 ปรับครั้งที่ 5 ลด 50 บาท

วันที่ 17 ธ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.58 น. เว็บไซต์สมาคมค้าทองคำ ประกาศปรับราคาทองคำในประเทศครั้งที่ 5 ลด 50 บาท ทำให้ราคาปัจจุบันอยู่ที่ รูปพรรณขายบาทละ 19,250 บาท รับซื้อ 18,480.04 บาท ทองแท่งขาย 18,850 บาท รับซื้อ 18,750 บาท ราคาทองคำและครั้งที่ปรับ ราคาทองคำปรับครั้งที่ 5 ลด 50 บาท รูปพรรณขายบาทละ 19,250 บาท รับซื้อ 18,480.04 บาท ทองแท่งขาย 18,850 บาท รับซื้อ 18,750 บาท เวลา 16.58 น. ราคาทองคำปรับครั้งที่ 4 ลด 50 บาท รูปพรรณขายบาทละ 19,300 บาท รับซื้อ 18,525.52 บาท ทองแท่งขาย 18,900 บาท รับซื้อ 18,800 บาท เวลา 15.30 น. ราคาทองคำปรับครั้งที่ 3 ขึ้น 50 บาท รูปพรรณขายบาทละ 19,350 บาท รับซื้อ 18,571.00 บาท ทองแท่งขาย 18,950 บาท รับซื้อ 18,850 บาท เวลา 14.10 น. ราคาทองคำปรับครั้งที่ 2 ขึ้น 50 บาท รูปพรรณขายบาทละ 19,300 บาท รับซื้อ 18,525.52 บาท ทองแท่งขาย 18,900 บาท รับซื้อ 18,800 บาท เวลา 12.56 น. ราคาทองคำปรับครั้งที่ 1 ขึ้น 150 บาท รูปพรรณขายบาทละ 19,250 บาท รับซื้อ 18,480.04 บาท ทองแท่งขาย 18,850 บาท รับซื้อ 18,750 บาท เวลา 09.26 น.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ราคาทองคำ 17 ธ.ค.56 ปรับครั้งที่ 5 ลด 50 บาท

หอการค้าไทยคาดจีดีพีปีหน้า 4.5%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย  ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ฯได้ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 57 จาก 5.1% เหลือ 4.5% เนื่องจากได้กังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองไทยที่ยืดเยื้อ, ความเสี่ยงของการขยายตัวเศรษฐกิจโลกยังมีสูง, ความผันผวนของค่าเงินบาท, การขาดแคลนแรงงานในบางอุตสาหกรรม, ต้นทุนการผลิตและค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น และภัยทางธรรมชาติ เป็นต้น ดังนั้นอยากให้ทุกฝ่ายเร่งหาแนวทางเจรจาข้อยุติเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมืองในอนาคตทั้ง นี้ทางออกของประเทศไทยมี 2 แนวทางใหญ่ที่กำลังเป็นข้อถกเถียงกันคือ การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 56 ก่อนแล้วมาปฎิรูปประเทศไทยภายหลัง หรือ ปฎิรูปประเทศไทยก่อนแล้วค่อยมาเลือกตั้งภายหลัง ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายมีการปฎิรูปโดยความสมัครใจเชื่อว่าในอนาคตเสถียรภาพทาง การเมืองของไทยจะมีความเข้มแข็งขึ้น “ในแง่เศรษฐกิจไทยไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรขอเพียงให้ประเทศไทยมีรัฐบาลที่ถูก ต้องตามรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ในรูปแบบใดก็ตามก็จะสามารถประคองเศรษฐกิจได้ เพราะเศรษฐกิจพร้อมที่จะขับเคลื่อนด้วยตัวของมันอยู่แล้ว เห็นได้จากการศึกษาประวัติศาสตร์ด้านเศรษฐกิจภาพรวม พบว่าปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจติดลบมาจากผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจโลก หรือสงครามโลกเป็นหลัก ส่วนผลกระทบภายในไม่มีผลต่อเศรษฐกิจติดลบมากนักในกรณีที่ไทยมีรัฐบาลไม่ว่า จะมาจากการเลือกตั้งหรือการแต่งตั้ง”สำหรับการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจในปี 57ศูนย์ได้คาดการณ์มาแล้ว 2 ครั้งโดยครั้งแรกประเมินในช่วงเดือน ต.ค. และครั้งที่ 2 ประเมินในช่วงเดือน ธ.ค. 56  โดยเศรษฐกิจไทยที่ประเมินครั้งที่ 2 พบว่าเศรษฐกิจอยู่ที่ 4.5%, ส่งออกขยายตัว 6.5%,  นำเข้า ขยายตัว 8%, ดุลการค้าขาดดุล 27,026 ล้านเหรียญฯ ดุลบัญชีเดินสะพัด ขาดดุล 4,740 ล้านเหรียญฯ เป็นต้นนายธนวรรธน์ กล่าวว่า ในปี 56 คาดว่าจีดีพีไทยจะขยายตัวได้เพียง 3% จากเดิมที่คาดโตได้ 3.5% เพราะตั้งแต่เริ่มชุมนุมประท้วงเมื่อเดือนต.ค.56จนถึงขณะนี้ ทำให้เศรษฐกิจเสียหายแล้ว 30,000-70,000 ล้านบาท  หรือทำให้จีดีพีลดลง 0.3-0.5% จากภาคการบริโภค การลงทุน และการท่องเที่ยวในประเทศลดลงขณะเดียวกันยังมีประเด็นของภาคเกษตรมีรายได้ลดลง จากราคาสินค้าเกษตรหลายรายการตกต่ำ ทั้งข้าว ยางพารา อ้อย กุ้ง ทำให้เกษตรกรมีรายได้ลดลง กำลังซื้อลดลง และการบริโภคในประเทศซึมตัว ส่วนภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวในอัตราชะลอตัวลง เพราะการบริโภคในประเทศขยายตัวต่ำ และการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวไม่มากนัก จากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว“เดิมศูนย์ฯคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ 3.5% แต่ตอนนี้ได้ปรับลดประมาณการณ์ลงเหลือโต 3% และไม่น่าจะเลวร้ายกว่านี้ เพราะยังไม่มีสัญญาณที่เศรษฐกิจไทยจะแย่ลงกว่านี้ เนื่องจากการเมืองยังนิ่งๆ ยังไม่มีสัญญาณรุนแรง แม้รัฐบาลยุบสภาไปแล้ว จึงทำให้การใช้จ่าย การลงทุน ยังคงนิ่งๆ ตาม”               

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หอการค้าไทยคาดจีดีพีปีหน้า 4.5%

Page 1279 of 1552:« First« 1276 1277 1278 1279 1280 1281 1282 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file