shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

หยุดปีใหม่ยอดจองห้องพักพุ่ง 90%

นายภูณัช ธนาเหล่าพาณิชย์ นายกสมาคมโรงแรมภาคเหนือตอนบน เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 28ธ.ค.56-2ก.พ.57 คาดว่าภาคเหนือจะมีเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวประมาณ 2,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 30% เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมีอัตราเติบโตสูง โดยเฉพาะจากจีนที่โตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 35%  เกาหลีใต้ 10 % และตลาดอื่นๆอีก 5% ของสัดส่วนนักท่องเที่ยวทั้งหมด  รวมถึงยังพร้อมที่จะจองห้องพักยาวไปจนถึงช่วงวันหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย ทำให้อัตราการจองห้องขณะนี้เต็มไปแล้วประมาณ 90%  ส่วนอีกประมาณ 50% เป็นการจองของนักท่องเที่ยวไทย นอกจากนี้สถานการณ์การเมืองที่ยังไม่นิ่งทำให้คนหลีกเลี่ยงไปท่องเที่ยวที่จังหวัดอื่นๆด้วย ซึ่งเชียงใหม่ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายนั้น อีกทั้งยังเป็นเส้นทางที่นิยมที่สุดในภาคเหนือรวมถึงเชียงรายที่มีเส้นทาง สำหรับการคมนาคมเชื่อมผ่าน  ไทย  ลาว  และจีน (เส้นทางอาร์3เอ)ที่นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง(เอฟไอที)จะสามารถเดินทางเข้ามาทางรถยนต์เองได้ก็กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น “ปีนี้เชียงใหม่ถือว่าได้เปรียบ ทั้งสายการบินเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟล์ท) ที่บินตรงมาเข้าเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก รวมถึงสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่นิ่งนักเชียงใหม่ที่ไม่ได้ผลกระทบจึงเป็นเป้าหมายสำคัญ โดยปัจจุบันภาคเหนือมีโรงแรมทั้งหมดประมาณ 41,000 ห้องก็เต็มเกือบหมดแล้ว จากจำนวนโรงแรมที่จดทะเบียนประมาณ 500 ห้องตั้งแต่ระดับ 3-5 ดาว ที่ราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 1,500-7,000 บาท” นายสุชาติ หิรัญกนกกุล นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ภาคใต้ กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดปีใหม่ 28 ธ.ค.-2 ม.ค.  อัตราเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมใน จ.ภูเก็ตที่มีอยู่กว่า 8 0,000 ห้องจองล่วงหน้ากว่า 90% แล้ว โดยกลุ่มลูกค้าหลักกว่า 90% เป็นชาวต่างชาติ ขณะที่คนไทยมีสัดส่วนเพียง 10% เนื่องจากเป็นช่วงที่ห้องพักมีการปรับราคาสูง ทำให้ราคาเฉลี่ยสูงถึง5,000-6,000 บาทต่อคืน ขณะที่โรงแรม 4-5 ดาว ราคา 5,000-10,000 บาทจึงทำให้คนไทยหันไปเที่ยวภาคอื่นๆ แทน โดยเฉพาะภาคเหนือที่เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น) ของตลาดในประเทศ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หยุดปีใหม่ยอดจองห้องพักพุ่ง 90%

Posts related

 














เครือข่าย 7 องค์กรภาคเอกชนนัดถกปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง

นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 13 ธ.ค. 57 เครือข่าย 7 องค์กรภาคเอกชน ร่วมกับสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยและสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ทำหน้าที่เป็นเวทีกลางครั้งที่ 1 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  ในการจัดระดมความคิดเห็นจากนักวิชาการและผู้รู้ในการหาทางออกที่เป็นไปได้ให้กับสังคมอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อนำเสนอทางออกดังกล่าวต่อสาธารณชน “เครือข่าย 7 องค์กรภาคเอกชนได้เสนอตัวทำหน้าที่เป็นเวทีกลาง เพื่อระดมความคิดเห็นจากนักวิชาการผู้รู้และสื่อมวลชน ให้ร่วมกระบวนการปฏิรูปการเมืองและประเทศก่อนการเลือกตั้งและเห็นว่าการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมในปัจจุบันยังไม่อาจทำให้ยุติความขัดแย้งได้เพราะเชื่อว่าไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลก็จะนำพาประเทศเข้าสู่ความขัดแย้งเช่นเดิมซึ่งจะกลายเป็นวิกฤติชาติไม่มีที่สิ้นสุด จนทำให้ประเทศติดอยู่กับวังวนของปัญหาก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม” ทั้งนี้เครือข่าย 7 องค์กรภาคเอกชนเห็นร่วมกันว่าเพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่ความสงบสุขและสันติอย่างยั่งยืนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเจรจากัน โดยจะต้องแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนที่จะลดความขัดแย้งลงทันทีและเปิดทางให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนในการแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองอย่างจริงจังโดยไม่ผูกเป็นเงื่อนตายด้วยข้อจำกัดทางการเมืองและข้อกฎหมายทางเทคนิคตลอดจนร่วมกันฟังความคิดเห็นอย่างเปิดกว้าง

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เครือข่าย 7 องค์กรภาคเอกชนนัดถกปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง

ชาวนาขู่ปิดถนนประท้วง ห่วงไม่ได้เงินค่าข้าว

นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวนาต้องการให้รัฐบาลรับผิดชอบในการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวต่อไปแม้ว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาแล้วก็ตาม  เนื่องจากชาวนาส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการฯฤดูกาลผลิต 2556/57  ซึ่งหากไม่เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ชาวนาทั้ง 26 จังหวัด อาจจะรวมตัวกันปิดถนนประท้วง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม“ตอนนี้ชาวนาจำนวนมากยังไม่ได้รับเงิน ทำให้ไม่สามารถลงทุนทำนารอบต่อไปได้ ส่งผลให้ชาวนาเดือดร้อนมาก เพราะไม่มีเงินไปซื้อปุ๋ย ยา เมล็ดพันธุ์ รวมทั้งบางคนยังไม่มีเงินจ่ายค่าเช่านาด้วย”นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ว่าปัญหาการจ่ายเงินล่าช้าให้กับเกษตรกรที่นำข้าวมาเข้าโครงการรับจำนำ ฤดูกาล 2556/57 รอบแรก ไม่ได้เกิดจากรัฐบาลไม่มีเงิน แต่ที่ล่าช้าเพราะติดขัดในขั้นตอนของการขึ้นทะเบียนเกษตรกร และการเตรียมพร้อมโรงสีเพื่อจุดรับจำนำ โดยยืนยันว่างบประมาณรับจำนำข้าวรอบแรก 270,000ล้านบาท ยังเป็นไปตามกรอบเดิม ส่วนโครงการรับจำนำข้าว ฤดูกาล 2556/57 รอบ 2 ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่เข้าอนุมัติก่อนขณะเดียวกันที่ประชุม กขช.เตรียมหารือกับฝ่ายกฏหมายถึงการระบายสต๊อกข้าวสารรัฐบาล ในส่วนที่มีการเปิดขายรอบใหม่ทั้งการขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และการเปิดประมูลทั่วไป ว่าในฐานะรักษาการรมว.พาณิชย์ สามารถลงนามอนุมัติขายข้าวสต๊อกรัฐบาลได้หรือไม่ เพราะในทางปฏิบัติกรมการค้าต่างประเทศสามารถดำเนินการระบายข้าวตามกรอบกขช.  และขั้นตอนสุดท้ายของการอนุมัติขาย คือต้องเสนอให้รมว.พาณิชย์ ลงนามอนุมัติราคาขาย“การระบายข้าวถือเป็นกิจการปกติของกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งมีหน้าที่ในการเปิดระบายทั่วไป โดยกรอบการขายข้าวเดิมไม่น่ามีปัญหา แต่การขายใหม่ต้องดูฝ่ายกฎหมายว่าให้ผมอนุมัติได้หรือไม่ แต่ในส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องต่อเนื่องน่าจะดำเนินการได้”สำหรับกรอบการเจรจาขายข้าวเดิมที่ได้มีการทำสัญญาซื้อขายไว้แล้วในสมัยของตนนั้น เป็นการขายข้าวผ่านจีทูจีเกือบ 3 ล้านตัน แบ่งเป็นการขายจีทูจีให้จีนประมาณ 2 ล้านตัน ขายให้กับอิหร่าน  250,000ตัน และขายผ่านการประมูลทั่วไปอีก 600,000 -800,000 ตัน ล่าสุดสามารถส่งเงินคืนกระทรวงการคลังได้แล้วประมาณ 180,000 ล้านบาท เชื่อว่าจนถึงสิ้นปีจะสามารถคืนเงินได้ตามแผน และยังมีการเจรจาขายข้าวให้กับอินโดนีเซียทั้งแบบจีทูจี และไม่ใช่จีทูจี

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชาวนาขู่ปิดถนนประท้วง ห่วงไม่ได้เงินค่าข้าว

Page 1299 of 1552:« First« 1296 1297 1298 1299 1300 1301 1302 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file