shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

ไทยเล็งขายข้าวจีทูจีอินโด-ฟิลิปปินส์

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 3-6 ธ.ค.นี้ ไทยจะมีการหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ถึงความร่วมมือในการซื้อขายข้าวรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) เพื่อเพิ่มโอกาสซื้อขายข้าวระหว่างกันมากขึ้น โดยปัจจุบันสต็อกข้าวรัฐที่ไม่มีภาระผูกพันมีปริมาณ 8.5 ล้านตัน แยกเป็นต้นขาวสาร 5.5 ล้านตัน ที่เหลือ 3 ล้านตันเป็นปลายข้าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเดือน ต.ค. 56 ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 762,000 ตัน เพิ่มขึ้น 51% จากเดือนก.ย. 56 แต่ลดลง 12.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนมูลค่า 13,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.2% จากเดือน ก.ย. 56 แต่ลดลง 24.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อรวม 10 เดือน (ม.ค. – ต.ค. 56) ไทยส่งออกข้าวรวม 5.4 ล้านตัน ติดลบ 3.5% มูลค่า 110,000 ล้านบาท ติดลบ 6.9% “ปัจจัยส่งออกเดือนต.ค. ลดลงเพราะราคาข้าวไทยอ่อนตัวลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี จึงมีช่องว่างราคากับประเทศคู่แข่งลดลง ส่วนการส่งออกเดือน พ.ย. 56 น่าจะอยู่ในระดับ 550,000 – 650,000 ตัน โดยตลาดหลักคือข้าวหอมและข้าวนึ่ง” ทั้งนี้ เมื่อเทียบราคาข้าวแต่ละชนิด 10 เดือนแรกปี 56 กับ 55 พบว่า ข้าวหอมปทุมธานี ราคาติดลบถึง 43.5% ข้าวนึ่งติดลบ 21.7% ข้าวหอมมะลิติดลบ 3.9% แต่ข้าวขาวและข้าวเหนียวราคาเพิ่ม 10.8% และ 23.6% นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐในตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ได้เห็นชอบผลการระบายข้าวสารตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ปีการผลิต 54/55 ปีการผลิต 55/56 ให้กับผู้ส่งออกที่เสนอราคาเข้ามาในการเปิดประมูลเป็นการทั่วไป และโครงการจับคู่ขายข้าวเปลือกระหว่างโรงสีและสมาคมผู้ส่งออกข้าว ปริมาณรวม 615,000ตัน คิดเป็นมูลค่า 12,300 ล้านบาท ทั้งนี้ ชนิดข้าวที่มีการระบาย มีทั้งข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวขาว 5% ข้าวเหนียวขาว 10% ปลายข้าวหอมมะลิ และปลายข้าวขาวเอวันเลิศ โดยจำหน่ายให้กับผู้ส่งออกหลายราย อาทิ บริษัทข้าว ซี.พี. บริษัทเอเชียโกลเด้นไรซ์ บริษัท แคปปิตัลซีเรียลส์ บริษัทรอยัลริชชี่ไรซ์ และกลุ่มผู้ส่งออกในนามของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย อย่างไรก็ตาม ผลของการระบายข้าวดังกล่าว คาดว่าจะช่วยให้เป้าหมายการส่งเงินคืนรัฐในช่วงไตรมาสสุดท้าย (ต.ค.-ธ.ค.) ปี 56 ได้เพิ่มอีก 30,000ล้านบาท ซึ่งจะเร่งรัดให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ดำเนินการคืนเงินที่ได้จากการระบายข้าวให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยเร็ว สำหรับการส่งออกข้าวไทย คาดว่าจะมีปริมาณสูงมากขึ้นในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ โดยเป็นผลจากการเร่งระบายสต๊อกข้าวของรัฐบาล ทั้งรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และการขายให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศ ประกอบกับราคาส่งออกข้าวของไทยสามารถแข่งขันกับประเทศผู้ส่งออกอื่นได้ดีขึ้น ส่วนในปี 57 คาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ดีขึ้น หรืออย่างน้อย 8 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะมีราคาส่งออกเฉลี่ยที่ 600 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งไทยยังคงแชมป์ราคาส่งออกข้าวเฉลี่ยสูงสุดอยู่

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไทยเล็งขายข้าวจีทูจีอินโด-ฟิลิปปินส์

Posts related

 














พาณิชย์สั่งจับตาพ่อค้าป้องกันกักตุน

นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าทั่วประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้ากักตุนสินค้าที่จำเป็นหรือการฉวยโอกาสราคาสินค้าเพื่อซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว และช่วงที่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองของไทยที่อยู่ในระดับสูงในบางพื้นที่ โดยเฉพาะสินค้าอาหารจานด่วน ข้าวราดแกง หรือก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น ทั้งนี้หากพบว่ามีบรรดาพ่อค้าแอบฉวยโอกาสที่ในการกักตุนสินค้าหรือปรับราคาสินค้าก็จะเร่งดำเนินการตามกฎหมายทันที โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ “แต่ในภาพรวมยังไม่พบว่ามีการกักตุนสินค้าหรือการฉวยโอกาสในการปรับขึ้นราคาสินค้า เนื่องจากเศรษฐกิจอยู่ในภาวะซบเซาและปัญหาทางการเมืองทำให้ประชาชนยังไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยกันมาก ดังนั้นหากมีการกักตุนสินค้าอาจทำให้สินค้าเน่าเสียได้ในส่วนของกิน และที่สำคัญยิ่งทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนสภาพคล่องได้ อย่างไรก็ตามเมื่อความไม่ประมาทจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” นายสมชาติ กล่าวว่า กรมฯเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกรณีที่มีประชาชนได้ร้องเรียนและขอให้กรมการค้าภายใน ออกตรวจสอบและออกมาตรการลดราคาอาหารจานด่วน เนื่องจากทราบว่าขณะนี้่ในบางพื้นที่ได้ทยอยปรับเพิ่มอีกเมนูละ 5-10 บาท โดยเฉพาะอาหารปรุงสำเร็จรถเข็นริมถนนต่างๆ อาทิ บะหมี่หมูแดง ขยับจากเมนูละ 30-35 บาท เป็น 40-45บาท หากมีการเพิ่มเป็นบะหมี่เกี้ยว ราคาจะบวกอีก 10 บาท หรือ ข้าวราดแกง 2 อย่าง เพิ่มจาก 35 บาท เป็น 40-45 บาท เป็นต้น นายไพโรจน์ คนึงทรัพย์ ผู้อำนวยการกองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า สคบ. ร่วมกับ กรมการค้าภายใน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เตรียมลงพื้นที่ออกตรวจสอบสินค้าและบริการช่วงก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ 3 รายการ คือ ผัก ผลไม้ ที่บริเวณตลาดไท ,อาหารทะเล ที่ตลาดปลาจังหวัดสมุทรสาคร และกระเช้าของขวัญปีใหม่ ที่ห้างสรรพสินค้าในเขตกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ในการตรวจสอบผัก ผลไม้ และอาหารทะเลนั้น สคบ.จะขอความร่วมมือจากอย. ช่วยพิสูจน์ว่า มีสารเคมีอันตรายปนเปื้อนอยู่ในวัตถุดิบหรือไม่ รวมถึงคุณภาพของอาหาร เป็นไปตามหลักโภชนาหรือไม่ ขณะที่กระเช้าของขวัญ จะต้องตรวจสอบว่า ผู้ประกอบการได้แสดงฉลากถูกต้องตามข้อกำหนดของสคบ.ด้วยหรือไม่ เช่น สินค้าที่นำมาบรรจุมีคุณภาพ มีฉลากอาหารถูกต้อง มีอย. รับรองสินค้ามีระยะเวลาก่อนวันหมดอายุอย่างน้อย 6 เดือน และได้แสดงวันหมดอายุ หรือแสดงตราสัญลักษณ์ของห้างสรรพสินค้านั้นๆ รวมทั้งได้แสดงวันที่รับคืนและเปลี่ยนสินค้าหากผู้บริโภคไม่พอใจในคุณภาพสินค้าด้วยหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ยังให้ความสำคัญต่อการจัดงานธงฟ้าเพื่อลดภาระประชาชน ควบคู่กับการเจรจาผู้ผลิตและค้าปลีกตรึงราคาสินค้าต่อเนื่อง อาจต้องเข้มงวดต่อราคาอาหารมากขึ้น อาจมีบางพื้นที่ถือโอกาสปรับราคาก็ต้องนำร้านอาหารธงฟ้าเข้าไปเพิ่มในจุดนั้นเพื่อลดภาระประชาชน นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่ากระทรวงพาณิชย์ยังเปิดให้บริการแก่ผู้ประกอบการและประชาชนตามปกติ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ในส่วนกลางนอกจากที่กระทรวงพาณิชย์ แล้ว ยังมีหน่วยให้บริการที่สำนักงานสาขาต่าง ๆ เช่น ศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ ถนนรัชดาฯ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต 1-6 ในกรุงเทพมหานคร สำนักบริการการค้าต่างประเทศสาขาสุวรรณภูมิ ท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานการค้าภายใน สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า ใน 76 จังหวัดจังหวัดทั่วประเทศ “หากผู้ประกอบการและประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณที่มีการชุมนุม หรือไม่สะดวกในการเดินทางสามารถเลือกไปใช้บริการในสำนักงานสาขาต่าง ๆ ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ww.moc.go.th หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1203 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์, 1385 กรมการค้าต่างประเทศ, 1569 กรมการค้าภายใน, 1368 กรมทรัพย์สินทางปัญญา”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์สั่งจับตาพ่อค้าป้องกันกักตุน

นักท่องเที่ยวไทย-เทศถนนข้าวสารหด

นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า ภาพรวมของการท่องเที่ยวบริเวณถนนข้าวสารซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้การชุมนุม มีนักท่องเที่ยวลดลง ทั้งการมาท่องเที่ยวกลางคืนและการมารับประทานอาหาร เนื่องจากนักท่องเที่ยวคิดว่าไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ เพราะรัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ทำให้ต้องปิดการจราจรในบริเวณย่านพระนคร จึงเกิดความกังวลและตัดสินใจไม่มาเที่ยว ดังนั้นอัตราการจองห้องพักของโรงแรมในย่านการชุมนุมที่มีประมาณ 8,000 ห้องจึงเหลือประมาณ 50% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 80% ส่วนร้านอาหารริมทาง และ สถานบันเทิงต่างๆ ก็มีรายได้ลดลงถึง 70% ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ตามปกตินักท่องเที่ยวที่มาถนนข้าวสาร จะมีสัดส่วนเป็นคนไทย 80% ต่างชาติ 20% โดยต่างชาติจะเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรป อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุการณ์การชุมนุม ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปเพราะประกอบกับจีนประกาศใช้กฎหมายควบคุมนักท่องเที่ยวด้วย ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรปกำลังชะลอการจองห้องพักจากปกติในเดือนธ.ค.จะเริ่มมียิดจองเข้ามาแต่ขณะนี้ยังไม่มีเลย นอกจากนี้ในกลุ่มของบุคลากรที่ต้องประกอบอาชีพในถนนข้าวสาร เช่น พนักงานเสิร์ฟ พนักงานบริการในโรงแรม รวมถึงนักร้อง นักแสดงตามสถานบันเทิงต่างๆ ยังต้องปรับช่วงเวลาการทำงานใหม่ โดยในส่วนของโรงแรมจะต้องลดจำนวนพนักงานบริการส่วนต่างๆลง เพราะมีลูกค้าลดน้อยลงไปแล้ว แต่ยังต้องจ้างพนักงานเท่าเดิมรายได้ก็จะหายไป ขณะนี้จึงได้ให้พนักงานลาพักร้อนไปก่อนสักระยะหนึ่ง ส่วนนักร้องในสถานบันเทิงต่างๆ ก็ได้ปรับช่วงเวลาการแสดงดนตรี โดยช่วงหัวค่ำจากปกติที่จะเป็นการแสดงดนตรีสดก็เปลี่ยนมาเป็นการเปิดแผ่นเพลงแทน และให้นักร้องไปแสดงในช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวมากขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่าย “ขณะนี้ยังต้องติดตาม สถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าการชุมนุมจะสิ้นสุดในเร็ววันได้หรือไม่ เพราะหากยังดำเนินต่อเนื่องอาจทำให้ต้องยกเลิกกิจกรรมเคาท์ดาวน์ในพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะได้รับความเสียหายหากเตรียมการและทุ่มงบประมาณลงไปแล้ว และในขณะนี้อีเวนท์ย่อยต่างๆ ในเดือนที่ผ่านมาก็ทยอยยกเลิกไปหมดแล้วเช่นกัน”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : นักท่องเที่ยวไทย-เทศถนนข้าวสารหด

Page 1357 of 1552:« First« 1354 1355 1356 1357 1358 1359 1360 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file