shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

ธ.ก.ส.ออกเงินฝากปลอดภาษี

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากทุ่งรวงทอง ให้ดอกเบี้ย 3% กำหนดระยะเวลารับฝาก 11 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.57 – 31 ส.ค.58 โดยไม่เสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก ฝากขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1,000 บาท สูงสุดไม่เกินจำนวนเงินที่ฝากไว้ในกองทุนช่วยเหลือชาวนา ทั้งนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ที่บริจาคเงินในกองทุนชาวนาที่ธนาคารได้ประกาศปิดกองทุนก่อนกำหนดจาก 31 ธ.ค.57 เป็น 30 ก.ย.57 โดยกองทุนชาวนามีผู้เข้าร่วมบริจาคและสมทบทั้งสิ้น 14,208 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทุนที่ 1 ช่วยเหลือชาวนา ที่เป็นเงินบริจาค 30.3 ล้านบาท, กองทุนที่ 2 เงินสมทบกองทุนช่วยเหลือชาวนา แบบไม่มีผลตอบแทน 916 ล้านบาท และกองทุนที่ 3 เงินสมทบกองทุนช่วยเหลือชาวนา แบบมีผลตอบแทน 0.63% วงเงิน 13,261 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ให้เงินสมทบในกองทุนที่ 2 และ 3  สามารถนำเงินที่จะรับคืนมาฝากในเงินฝากทุ่งรวงทองต่อได้ “ภาระดอกเบี้ยในส่วนของกองทุนที่ 3 เสียอัตราดอกเบี้ย 0.63% ที่มีภาระดอกเบี้ยประมาณ 32 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นภาระต่องบประมาณ เพราะธ.ก.ส.เป็นผู้รับผิดชอบต่อภาระทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาระหว่างที่มีการระดมเงิน ธ.ก.ส.ได้บริหารจัดการเงินในส่วนของกองทุนที่ 1 และ 2 เพื่อให้เกิดรายได้และผลกำไรให้สามารถนำมาจ่ายภาระดอกเบี้ยดังกล่าวได้ สำหรับผู้ที่ต้องการถอนเงินคืนธนาคารจะเริ่มจ่ายเงินคืนในวันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธ.ก.ส.ออกเงินฝากปลอดภาษี

Posts related

 














ไฮโซไทย-อิตาลีฮิตหิ้วกระเป๋าหนังตะกวดไทย

นายสมเกียรติ บงกชพรรณราย ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเชื่อมโยงเครื่องหนังไทย เปิดเผยภายหลังร่วมงานแฟนพันธุ์แท้เครื่องหนังไทยว่า ขณะนี้ผลิตภัณฑ์จากหนังตะกวดของไทย เช่น กระเป๋า รองเท้า กำลังเป็นที่นิยมของกลุ่มผู้บริโภคชั้นสูง(ไฮโซ) ของอิตาลี และไทยอย่างมาก เนื่องจากเป็นสินค้าหายาก และมีลวดลายที่สวยงาม จึงต้องการให้กรมป่าไม้  ลดระดับตะกวดออกจากสัตว์ป่าคุ้มครอง ประเภทสัตว์เลื้อยคลาน ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มผู้ประกอบการอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล เพื่อแสดงเห็นว่า ตะกวดในประเทศไทย สามารถเลี้ยงในฟาร์ม เช่นเดียวกับจระเข้ และมีจำนวนมาก “ตอนนี้ถ้าเทียบความต้องการหนังของไทยแล้ว หนังวัวยังมาอันดับหนึ่ง รองลงมา คือ หนังจระเข้ แต่ที่น่าสนใจ คือ หนังตะกวด กำลังมาแรงในหมู่ไฮโซ  ของอิตาลี และไทยอย่างมาก เพราะเป็นของแปลกหายาก ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านที่ทำหนังตะกวดขาย บางส่วนก็หาตะกวดที่ตายแล้ว  บางส่วนก็ลักลอบฆ่าตะกวด  จึงต้องการให้กรมป่าไม้ ปลดออกจากสัตว์ เพราะตอนนี้ตะกวดในไทยมีจำนวนมาก  ตอนนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลว่าอยู่ มีจำนวนมากแค่ไหน และเป็นสัตว์ที่สามารถเลี้ยงในฟาร์มได้  โดยที่ผ่านมาอาจารย์จากบางมหาวิทยาลัย ได้ศึกษาแล้วว่า ตะกวดสามารถเลี้ยงในฟาร์มและให้อาหารเม็ดได้ ” สำหรับต้นทุนหนังตะกวดนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับหนังจระเข้จะถูกกว่ามาก แต่เมื่อผลิตเป็นสินค้าแล้ว กลับมีมูลค่าราคาใกล้เคียงกัน จึงทำให้ผู้ประกอบการพยายามหาหนังตะกวดมาผลิตมากขึ้น  ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมหนังในปีนี้ คาดว่า มีมูลค่า 40,000 – 50,000 ล้านบาท ขยายตัว 10-15%  ส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ 30% อุตเฟอนิเจอร์ 30% รองเท้า กระเป๋า 30 % และอื่นๆ อีก 10 %  ซึ่งถือว่า ขยายตัวในระดับไม่สูงมาก เนื่องจากอุตฯ ยานยนต์ชะลอตัว รวมทั้งอุตฯเฟอร์นิ เจอร์ มีคู่แข่งจากจีน ทำให้ชะลอตัวลง จึงทำให้ความต้องการหนังขยายตัวไม่สูงมาก 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไฮโซไทย-อิตาลีฮิตหิ้วกระเป๋าหนังตะกวดไทย

เมืองไทยลีสซิ่ง เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถ และสินเชื่อส่วนบุคคล เปิดเผยว่า บริษัทจะเตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ภายในปลายปีนี้ โดยจะนำเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรก(ไอพีโอ)จำนวน 545 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.71% ของจำนวนหุ้นที่เรียกและออกชำระแล้วทั้งหมด ซึ่งจะนำเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 502.50 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ, ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อย จำนวน 42.50 ล้านหุ้น รวมทั้งได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำการจัดจำหน่าย สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนใหญ่จะนำไปขยายธุรกิจ โดยตั้งเป้าหมายขยายสาขาถึง 1,000 สาขา จากสิ้นไตรมาส 2 มีจำนวนสาขาอยู่ที่ 454 สาขา ซึ่งจะเริ่มเปิดสาขาในภาคใต้ และเพิ่มเติมสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้งตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ประมาณ 25,000 ล้านบาท ภายในปี 60 จากปลายปี 56 มียอดการปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 9,840.45 ล้านบาท นอกจากนั้นจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมทั้งชำระเงินกู้ยืมให้กับสถาบันการเงิน ซึ่งจะทำให้อัตราหนี้สินต่อทุนลดลงจากเดิมอยู่ที่ 2.5% จะเหลือเพียงกว่า 1% ในปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้ากว่า 700,000 ราย และมีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)เพียง 1.72% โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีการปล่อยสินเชื่อใหม่แล้วทั้งหมด 6,500 ล้านบาท คิดเป็นสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์กว่า 83% ซึ่งมีรายได้รวม 872.61 ล้านบาท เติบโต 19.70% และมีกำไรสุทธิ 258.34 ล้านบาทเติบโต 112.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เมืองไทยลีสซิ่ง เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ

Page 136 of 1552:« First« 133 134 135 136 137 138 139 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file