shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

หอการค้าไทยแนะ 4 ทางออกแก้ปัญหาการเมือง

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารหอการค้าและสภาหอการค้าฯ มีมติเสนอ 4 แนวทางในการหาข้อยุติสถานการณ์ทางการเมือง ประกอบด้วย 1.หอการค้าพร้อมที่จะเป็นแกนกลางร่วมกับทุกภาคส่วนในการเจรจาหาทางออก, 2.ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง แต่การแสดงความเห็นทางการเมืองถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมภายใต้กรอบกฎหมาย, 3. การยุบสภาซึ่งเป็นหนทางหนึ่งภายใต้กระบวนการประชาธิปไตยที่นำไปสู่สันติ และ 4. หอการค้ายืนหยัดอยู่ในหลักการที่จะแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นในสังคม เพราะหากปล่อยให้เหตุการณ์ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อจะเกิดความเสียหายต่อประเทศและเศรษฐกิจอย่างมาก“หอการค้าจะเชิญหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายพร้อมทั้งมีการดึงองค์กรที่เป็นกลาง เช่น สถาบันการศึกษา สถาบันเอกชน สถาบันสื่อมวลชน ตัวแทนฝ่ายการเมือง และแกนนำกลุ่มต่างๆ มาหาแนวทางในการแก้ไขทางออกของประเทศ จากนั้นก็ต้องยุบสภาเพื่อให้กลไกเดินต่อได้ตามรัฐธรรมนูญ”นายอิสระ กล่าวว่า แนวทางดังกล่าวจะมีการนำข้อเสนอทั้งหมดเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ในวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค.นี้ โดยหอการค้าไทยไม่ได้คาดหวังว่าทุกคนจะต้องมาฟังความเห็นจากหอการค้า แต่เป็นการพยายามทำหน้าที่ของตัวเองในการนำเสนอความคิดเห็นของภาคเอกชนมานำเสนอเท่านั้น ส่วนข้อเสนอที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุม เสนอให้มีการตั้งสภาประชาชนนั้น ส่วนตัวไม่เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย แต่จากที่ฟังผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนเห็นตรงกันว่า เป็นไปไม่ได้“จากผลการสำรวจความคิดเห็นของหอการค้าต่างจังหวัดทั่วประเทศประมาณ 70% ต้องการให้รัฐบาลยุบสภาเพื่อให้เหตุการณ์สงบลง และอีก 30% ให้มีการเจรจาเพื่อหาข้อยุติ”นายกลินท์ สารสิน กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาเศรษฐกิจภาพรวมยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่หากปล่อยให้ระยะเวลาความขัดแย้งยืดเยื้อและเพิ่มความรุนแรงไปจนถึงต้นปีหน้า เชื่อว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจะอยู่ในระดับ 110,000 -130,000 ล้านบาทแน่นอน เพราะทราบว่าตอนนี้มวลชนทั้ง 2 ฝ่ายในบางพื้นที่เริ่มปะทะกันบ้างแล้ว จึงอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมกันหาทางออกเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบายปลายและยาว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หอการค้าไทยแนะ 4 ทางออกแก้ปัญหาการเมือง

Posts related

 














หุ้นไทยภาคเช้าวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 ปิดร่วง 5.80 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ (29 พ.ย.) ดัชนีปรับลดลงทันทีที่เปิดตลาด จากนั้นก็อ่อนตัวในแดนลบตลอดการซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนสถานการณ์การเมืองในประเทศ จากการที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการยกระดับการชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย. นี้ ส่งผลให้หุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,353.65 จุด ลดลง 5.80 จุด หรือ 0.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10,285.34 ล้านบาท

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หุ้นไทยภาคเช้าวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 ปิดร่วง 5.80 จุด

ททท.จัดทัพลุยดับเบิลยูทีเอ็ม ชู 2 กลยุทธ์ดันนักท่องเที่ยวพุ่ง

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวไม่ชัดเจนได้ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยต้องดิ่งหัวลงตามไปด้วย… เพราะเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างการส่งออก ไม่สามารถขยายตัวได้ในปี 56 คงเหลือเพียงภาคการท่องเที่ยวเท่านั้นที่ช่วยประคับประคองให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้ โดยล่าสุดจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ต.ค.) ได้เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยมากถึง 21.7 ล้านคนแล้ว หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นมากถึง 22.3% ทีเดียว จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากมายขนาดนี้แสดงให้เห็นว่าเมืองไทย… ยังเป็น “สวรรค์ของนักท่องเที่ยว” แบบที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้!เพื่อเป็นการยืนยันสถานะของเมืองท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้พาคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนเดินทางข้ามทวีปกว่า 9,992 กิโลเมตร เข้าร่วมงานมหกรรมการท่องเที่ยวที่มีความสำคัญที่สุดในตลาดนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ในงาน “เวิลด์ ทราเวล มาร์เก็ต” หรือดับเบิลยูทีเอ็ม ซึ่งเป็นการจัดงานส่งเสริมการขายการท่องเที่ยวครั้งใหญ่ และเป็นการจัดติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2523 นับเป็นครั้งที่ 34 ที่ไทยเข้าร่วมงาน ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ ททท. ได้เปิดพื้นที่ให้เอกชนโฆษณาแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก รวมถึงเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวจากทั่วโลก เพื่อหวังให้ช่วยพานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในไทย ที่สำคัญ ททท. ได้กราบทูลเชิญ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จทรงเป็นประธาน โดยประทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนไทยและประทานคำแนะนำแก่คนไทย ถึงการนำเสนอแผนประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวประเทศไทยของ ททท. ภายใต้รูปแบบ “อเมซิ่ง ไทยแลนด์ : อิท บีกิน วิท เดอะ พีเพิ่ล” ที่เน้นศิลปวัฒนธรรม อาหาร และวิถีชีวิตของคนไทย รวมทั้งการใช้โซเชียล มีเดีย เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อคนไทยและการดำเนินการต่อไปของ ททท. “สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยในเวลานี้คือ คนไทย เพราะคนไทยเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนน่ารัก เป็นคนที่ใจดี เฟรนด์ลี่ และมียิ้มที่สดใส ขณะเดียวกันยังมีความงดงามที่สามารถทำให้คนที่มาท่องเที่ยวประเทศไทยทุกคนมีความสุข จึงบอกว่าขึ้นอยู่กับคนไทยที่จะช่วยกันประชาสัมพันธ์ความเป็นคนไทย วิถีชีวิตของคนไทย ต้องเริ่มจากคนของเราที่จะมีความปรารถนาดี เพื่อทำให้แขกของเรา คนที่มาเยี่ยมเยียนประเทศของเรามีความรู้สึกที่ดีกับพวกเรา” ขณะเดียวกัน ในโลกทุกวันนี้ ซึ่งเป็นโลกที่มีการสื่อสารไร้พรมแดน ทูลกระหม่อมหญิงฯ ทรงเห็นด้วยว่า การใช้โซเชียลมีเดีย จะช่วยสื่อสารประเทศไทยไปยังโลกที่กว้างมากขึ้นได้ และช่วยให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกสัมผัสความเป็นไทย ความเป็นคนไทยได้มากขึ้น เราสามารถแบ่งปันหรือแชร์สิ่งที่ประทับใจในไทย ผ่านโซเชียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือโปรแกรมอื่น ๆ เพื่อสื่อสารถึงคนทั่วโลกได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ดี ๆ ที่ประทับใจ อาหารดี ๆ รวมทั้งการแสดงของไทยที่ชื่นชอบ ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องโบราณ อาหารโบราณ การรำฟ้อน หรือดนตรีไทย แต่สามารถนำสิ่งที่เป็นสมัยใหม่ ร่วมสมัยของไทยที่ชอบ แชร์ให้โลกรู้ได้เหมือนกัน ขณะที่ “สุรพล เศวตเศรนี” ผู้ว่าการ ททท. บอกว่า ในการเข้าร่วมงานดับเบิลยูทีเอ็มในปีนี้ ได้เปิดตัว “อเมซิ่ง ไทยแลนด์ : อิท บีกิน วิท เดอะ พีเพิ่ล” อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและเป็นจุดขายของไทย โดยสะท้อนให้ชาวต่างชาติรับรู้ถึงความประทับใจที่มีต่อไทย ทั้งวิถีชีวิต มิตรไมตรีที่โดดเด่น โดยจะประสานงานกับผู้ให้ข้อมูลที่เป็นตัวแทนขาย ให้ถ่ายทอดความรู้แก่ผู้ประกอบการ เกี่ยวกับความรู้สึกที่เป็นเรื่องคนไทย พร้อมสร้างความแตกต่างในการท่องเที่ยวในไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวสนใจต้องการเดินทางกลับมาเที่ยวไทยอีก ซึ่ง ททท. ได้วางแผนใช้เป็นกลยุทธ์เจาะตลาดนักท่องเที่ยวทั่วโลกโดยเฉพาะในกลุ่มที่สนใจ โดยจะดึงผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวเด่น ๆ มาเป็นจุดขายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมีการใช้จ่ายสูง ทั้งเรื่องของการตีกอล์ฟ สปา ฮันนีมูน และแอดเวนเจอร์ นอกจากนี้ยังได้นำเสนอแผนการตลาดใหม่คือ “โรแมนติก ไทยแลนด์” เพื่อขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มแต่งงาน ฮันนีมูน รวมถึงกลุ่มที่ต้องการฉลองครบรอบวันแต่งงาน เพราะเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูงสุดและมีการใช้จ่ายสูงกว่ากลุ่มทั่วไป 2-3 เท่า ส่วนการที่ททท.ได้ตั้งเป้าหมายว่าหลังจากที่เปิดตัว “อเมซิ่ง ไทยแลนด์ : อิท บีกิน วิท เดอะ พีเพิ่ล” แล้ว ภายในปี 58 นี้จะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็น 30 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นอีก 10% พร้อมขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวในตลาดกลางและใหญ่เป็น 40% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 30% และลดสัดส่วนตลาดเล็กลงเหลือ 60% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 70% การวางแผนการตลาดของ ททท. ในครั้งนี้จะเป็นผลสำเร็จตามความฝันหรือไม่? คงต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดซึ่งสถานการณ์การเมืองที่รุนแรงในเวลานี้ อาจกลายเป็นขวากหนามสำคัญที่อาจทำลายความฝันของททท.ก็เป็นไปได้!. วุฒิชัย มั่งคั่ง

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ททท.จัดทัพลุยดับเบิลยูทีเอ็ม ชู 2 กลยุทธ์ดันนักท่องเที่ยวพุ่ง

Page 1364 of 1552:« First« 1361 1362 1363 1364 1365 1366 1367 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file