shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

10 เดือนนักท่องเที่ยวยังเพิ่ม

นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ได้รับทราบรายงานสรุปสถานการณ์นักท่องเที่ยวช่วง 10 เดือน ระหว่างเดือนม.ค.-ต.ค.56 ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทย 21.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.9 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 22.3% โดยภูมิภาคที่มีนักท่องเที่ยวสูงสุด 3 อันดับแรก คือ เอเชียตะวันออก ยุโรป และสหรัฐอเมริกา และถ้าแยกเป็นประเทศ พบว่า ใน 10 อันดับแรกที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยมากสุด คือ จีน มาเลเซีย รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ลาว อินเดีย ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักรและสิงคโปร์ สำหรับปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาในไทยเพิ่มขึ้น เกิดจากการขยายตัวของการเดินทางท่องเที่ยวโลก รวมถึงความนิยมต่อแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยที่เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติ ความหลากหลายของสินค้าและบริการ ความคุ้มค่า และความเป็นมิตรของชาวไทย พร้อมทั้งความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันยังเป้นผลมาจากแผนงานส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ขณะที่แนวโน้มนักท่องเที่ยวทั้งปี 56 คาดว่าจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบกับข้อมูลขององค์การการท่องเที่ยวโลก คาดว่า แนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวโลกในปีนี้ จะขยายตัวที่ 3-4% นอกจากนี้ในส่วนของคนไทยที่เดินทางออกไปต่างประเทศ พบว่า ในช่วง 10 เดือน มีคนไทยเดินทางออกไปต่างประเทศ 5.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 166,944 คน คิดเป็น 2.94% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยส่วนใหญ่เดินทางไปเที่ยวในภูสิภาคเอเชียตะวันออกเป็นหลัก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : 10 เดือนนักท่องเที่ยวยังเพิ่ม

Posts related

 














ททท.วาง 3 สมมุติฐานการเมืองทำนักท่องเที่ยวหาย

นายสุกรีย์ สิทธิวนิช รองผู้ว่าการฝ่ายสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการวางแผนการท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤต (ศวก.) ได้ประเมินสมมุติฐานถึงผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ไว้ 3 สมมุติฐาน ได้แก่ สมมุติฐานที่ 1 คือ หากเหตุการณ์ยืดเยื้อแต่จบภายในสิ้นปี 56 รายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวจะตรงตามเป้าหมายเดิม คือมีนักท่องเที่ยว 26.10 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.17 ล้านบาท ส่วนสมมุติฐานที่ 2 คือ หาก มีการประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในระดับที่ 5 ซึ่งจะประกาศเตือนให้นักท่องเที่ยวห้ามเข้าไทย จะทำให้เดือน ธ.ค.นักท่องเที่ยวจะลดลง 8-10%หรือ 25.7 ล้านคนจากทั้งปี 56 ส่วนรายได้จะลดลงไป 25,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ททท.ได้ประเมินเหตุการณ์ในระยะยาวไว้ด้วยว่า หากการชุมนุมยืดเยื้อไปจนถึงไตรมาสแรกปีหน้า จะทำให้รายได้ที่ตั้งไว้ตามแผนการตลาดปี 57 ยังตามเป้าหมาย คือเติบโต 13% แต่นักท่องเที่ยวจะลดลงจากเดิมตั้งเป้าหมาย 13% เหลือเพียง 7% และสมมุติฐานที่ 3 คือ หากเหตุการณ์เกิดความรุนแรง คล้ายการปิดสนามบินในปี 51 จะทำให้เดือน ธ.ค.นักท่องเที่ยวลดลง 18-20% และเกิดการชะลอตัวไปจนถึงไตรมาส 2 ปีหน้า ซึ่งจะส่งผลทำให้เมื่อสิ้นปี 57 นักท่องเที่ยวและรายได้ต่ำกว่าการคาดการณ์ตามแผน คือนักท่องเที่ยวจาก 13% เหลือ 7% และรายได้จาก 13% เหลือ 11% เช่นกัน นอกจากนี้ ล่าสุดมีอีก3 ประเทศได้แก่ สโลวาเกีย ฟินแลนด์ และอิตาลี ที่สถานทูตออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงเส้นทางการชุมนุม ต่าง ๆ จนทำให้ขณะนี้มีทั้งหมด 19 ประเทศแล้ว ที่ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทย “จากเหตุการณ์การชุมนุมครั้งนี้ ททท.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และ ให้สำนักงาน ททท. ในต่างประเทศทั้ง 27 แห่งรายงานความคืบหน้าของนักท่องเที่ยวโดยตลอด ซึ่งนักท่องเที่ยวก็จะตัดสินใจเดินทางมาไทยอยู่ ส่วนด้านการเสนอข่าวสารต่าง ๆ นั้น เริ่มมีหนังสือพิมพ์และสำนักข่าวชื่อดังในต่างประเทศ เสนอข่าวการชุมนุมของไทยแล้วแต่เป็นในด้านดี คือ ชุมนุมด้วยความสงบ สันติ” สำหรับแผนรอบรับในภาวะวิกฤตนั้น ททท.จะนำแผนเดิมที่เคยใช้เมื่อเกิดวิกฤตในครั้งก่อน ๆ คือ จะ ประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับนักท่องเที่ยวถึงภาพรวมด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมถึงจะส่งเสริมการตลาดในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ททท.วาง 3 สมมุติฐานการเมืองทำนักท่องเที่ยวหาย

รัฐลดเก็บเงินเข้ากองทุนฯดีเซล

นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุม กบง. เห็นชอบปรับลดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 0.60 บาท จากเดิมจัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯจากลิตรละ 1.10 บาทลิตร เป็นลิตรละ 0.50 บาท เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาท เนื่องจากน้ำมันดีเซลในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 2.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เบล ราคาอยู่ที่ 125.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันประเภทอื่น ๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ แต่อย่างใด ทั้งนี้จากการการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้ ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับลดลงวันละ 29.79 ล้านบาท จากเดิมมีรายรับประมาณวันละ 1.06 ล้านบาท เป็นรายจ่ายประมาณวันละ 28.73 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ ยังมีฐานะสุทธิเป็นบวก 5,360 ล้านบาท โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ราคาปิดตลาด ณ วันที่ 22 พ.ย. น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 107.56 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้น 0.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเทียบจากการประชุม กบง. ครั้งที่ผ่านมาวันที่ 18 ต.ค. ส่วนน้ำมันเบนซิน ราคาอยู่ที่ 118.03 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้น 3.67 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : รัฐลดเก็บเงินเข้ากองทุนฯดีเซล

Page 1383 of 1552:« First« 1380 1381 1382 1383 1384 1385 1386 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file