shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

ภาษาเดียวกัน วันที่ 20 พฤศจิกายน 2556

เตรียมความพร้อมสู่เออีซี ศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัดประชุมเชิงวิชาการเพื่อสร้างเครือข่ายด้านอาเซียนศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในหัวข้อ เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนŽ โดยมี รศ.ดร.ประภัสสร์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นประธาน รศ.ดร.สุกัญญา เอมอิ่มธรรม ผู้อำนวยการสถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น และรศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้เกียรติกล่าวเปิดงาน ในวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2556 เวลา 09.00-16.00 น. ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออร์คิด เพิ่มศักยภาพท่องเที่ยวไทย วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงจัดงานสมั มนา “ทิศทางการท่องเที่ยวไทยการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Tourism Competitivenessunder the AEC: A Future Direction for Thai TourismIndustry)ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการจัดตั้งศูนย์บรหิ ารจดั การความรู้ (Tourism Knowledge Management Center)เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พร้อมเปิดตัวศูนย์ข้อมูลบริหารจัดการความรู้ (Tourism Knowledge ManagementCenter) หรือศูนย์ข้อมูล (website) ที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเสรีบริการท่องเที่ยวภายใต้กรอบความร่วมมือต่าง ๆ ซึ่งศูนย์บริหารจัดการความรู้ (website) นี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้ แผนพัฒนาบริการท่องเที่ยวเพื่อรองรับการเปิดเสรีบริการท่องเที่ยว พ.ศ. 2555-2560 ของกรมการท่องเที่ยวกระทรวงการท่องเท่ยี วและกีฬา ในวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน2556 เวลา 10.30–11.30 น. ห้อง Library โรงแรมดุสิตธานี ก้าวต่อไปของนักลงทุนไทย สำนักพัฒนาความพร้อมทางการค้า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดงานสัมมนาเรื่อง  Future Trenda and Next Move for Thai EntrepreneurŽ ในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2556 เวลา 08.00 – 16.30 น. ณ ห้องควีนปาร์ค 2-3 ชั้น 2 โรงเเรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท 22 กทม. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2507-7243, 0-2507-7629 เเละ 0-2507-7376.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ภาษาเดียวกัน วันที่ 20 พฤศจิกายน 2556

Posts related

 














แนะแก้ปมให้ถูกรับมือเออีซี… – เออีซีกับม.หอการค้าไทย

เรื่องของการค้า และการลงทุน เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญเติบโต ยิ่งอีกไม่นานการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ทั้ง 10 ชาติอาเซียนต่างพยายามหาช่องทางการค้าการลงทุน เพื่อดึงดูดให้เพื่อนบ้านเข้ามาลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ โดยเฉพาะการเร่งแก้ไขกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน แต่ทว่า‚ในโลกที่ไร้พรมแดน เช่นนี้เรื่องของกฎระเบียบการค้าการลงทุนในธุรกิจบางประเภทแทบไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะในข้อเท็จจริงแล้ววิวัฒนาการทางด้านการสื่อสารที่พัฒนาไปทุกวินาที ได้กลายเป็นโอกาสให้กับนักลงทุนทุกชาติทุกภาษาที่จะฉกฉวยโอกาสขยายการค้าการลงทุนได้ไม่ยาก เห็นได้จากการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ การซื้อขายสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้การตัดสินใจหอบเงินเข้ามาลงทุนในต่างประเทศของต่างชาตินั้น ลดความจำเป็นลง เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็สามารถดำเนินธุรกิจได้โดยไม่มีต้นทุนในเรื่องของสถานที่เช่นเดียวกับไทย ที่โลกของการค้าการลงทุนแบบไร้พรมแดนได้แผ่ขยายเข้ามาด้วยเช่นกัน จากเดิมที่เคยนำกฎหมายมาเป็นเครื่องมือในการปกป้องคุ้มครองผลประโยชน์ของนักลงทุนไทย เช่น หากต่างชาติเข้ามาตั้งบริษัทในไทย จะมีข้อจำกัดเรื่องของการถือหุ้นที่กำหนดต้องไม่เกินสัดส่วน 49% แต่นักลงทุนเองแก้ไขปัญหาโดยหาบริษัทตัวแทนแฝง (นอมินี) เป็นผู้ดำเนินธุรกิจ โดยที่เจ้าของเงินนั้น คอยควบคุมอยู่ด้านหลัง จึงเป็นเรื่องที่ไทยเองควรขจัดปัญหาเหล่านี้ โดยต้องมองเห็นว่า สิ่งที่เคยทำอยู่เดิมนั้นสร้างประโยชน์ให้กับประเทศจริงหรือไม่  ดร.ปิยะบุตร บุญอร่ามเรืองŽ รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ขยายความเรื่องนี้ผ่านรายการ เศรษฐกิจติดจอŽ ทางเดลินิวส์ทีวี เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ว่า เมื่อเปิดเออีซีแล้วหลายฝ่ายคาดว่าจะทำอะไรได้ง่ายและสะดวกขึ้น แต่เวลาพูดถึงเรื่องของการค้าเสรีแล้ว ทุกคนคิดเพียงเรื่องของสินค้า และการลงทุนของต่างชาติที่เข้ามา และออกไป ซึ่งไทยเองในอดีตได้กังวลว่า การให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน แล้วต้องเกิดปัญหา คิดว่าสู้เขาไม่ได้ จึงต้องกีดกันเอาไว้ก่อน แต่เวลานี้ต้องกลับมาคิดใหม่‚ เพราะเรื่องนี้ไม่มีความสำคัญแล้ว หากไทยต้องการเรียนรู้ ต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจ เช่นเรื่องของการถือหุ้นของต่างชาติ เวลานี้ไม่มีความสำคัญอะไรอีกต่อไป และผู้ประกอบการของไทยเองเข้าใจสถานการณ์นี้ดี และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อจำกัดสัดส่วนถือหุ้นของต่างชาติแล้ว ต่างชาติยังมีช่องทางอื่นที่ลงทุนได้ ดังนั้นจึงต้องพุ่งเป้าไปมองถึงอำนาจการควบคุมที่แท้จริงว่าใครเป็นผู้ควบคุมกิจการ และจะหาทางสร้างประโยชน์ให้ได้มากที่สุด! ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันกับการเปิดเออีซี ก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมที่เป็นอยู่มากนัก เพราะทุกคนรู้ดีว่า การทำอะไรในขณะนี้เริ่มเป็นเสรีเหมือนกับได้เปิดเออีซีไปแล้ว เพียงแต่ว่าไม่ได้มีผลที่ชัดเจนตามหน้าเอกสารที่ได้ทำข้อตกลงกันเท่านั้น ดร.ปิยะบุตร บอกอีกว่า ปัจจุบันการค้าและการให้บริการสามารถเกิดขึ้นได้มีอยู่ 4 โหมดด้วยกัน คือ โหมดแรกเป็นการบริการข้ามพรมแดน จากประเทศสมาชิกหนึ่งไปสู่ประเทศสมาชิกอื่นที่เป็นลูกค้า โดยผู้ให้บริการไม่ต้องปรากฏตัวอยู่ในประเทศลูกค้า เช่น การศึกษาผ่านทางไกล บริการผ่านสื่อสารโทรคมนาคม และบริการให้คำปรึกษาผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ต่อมาคือโหมดที่สอง คือ การบริโภคในต่างประเทศ เป็นการให้บริการที่เกิดขึ้นในพรมแดนของประเทศผู้ให้บริการ โดยอาศัยการเคลื่อนย้ายของผู้บริโภคเป็นเงื่อนไขสำคัญ อย่างเช่น บริการด้านการท่องเที่ยว การออกไปรับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลต่างประเทศ การไปศึกษาในต่างประเทศ โหมดที่สาม คือ การจัดตั้งธุรกิจเพื่อให้บริการ เป็นการเข้าไปลงทุนจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้บริการในประเทศลูกค้า เช่น การจัดตั้งสาขา สำนักงานตัวแทน หรือบริษัท และในโหมดสุดท้าย ก็คือ การให้บริการโดยบุคคลธรรมดา เป็นการเข้าไปทำงานประกอบอาชีพในสาขาบริการด้านต่าง ๆ เป็นการชั่วคราว ในประเทศลูกค้า เช่น การเข้ามาประกอบวิชาชีพที่ปรึกษากฎหมายของนักกฎหมายชาวต่างชาติในไทย ครูต่างชาติเข้ามาให้บริการสอนภาษาในไทย ปัญหาที่พบในปัจจุบันคือ เมื่อไทยเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจให้ทันกับประเทศที่ล้ำหน้าไปแล้ว แต่ยังติดข้อจำกัดของการให้ต่างชาติมาลงทุนในประเทศ ซึ่งอยู่ในโหมดที่สาม ทำให้ปัจจุบันต่างชาติจำนวนมากหนีไปอยู่ในโหมดแรกหมด เปิดสาขาที่ใดก็ได้ ไม่จำเป็นมาตั้งกิจการในไทย แต่ใช้ช่องทางการบริการข้ามแดน โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยแทน ดังนั้นสิ่งที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างทันที คือ ต้องเริ่มต้นพัฒนาแก้ไขข้อจำกัดที่ว่า เพราะเป้าหมายของไทยยังต้องการพัฒนา เรียนรู้การดำเนินธุรกิจ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ จากต่างชาติอีกมาก ขณะเดียวกันทุกชาติสมาชิกในอาเซียนก็พยายามดึงนักลงทุนเข้ามาต่อยอดพัฒนาในประเทศเหมือนกันหมด แต่ถ้าไทยไม่เร่งแก้ปมที่มีอยู่ อีกไม่นานคงถูกประเทศที่คิดว่าด้อยกว่าแซงจนไม่เห็นฝุ่นก็เป็นได้ และเมื่อถึงเวลานั้นจะมาแก้ไขก็คงสายไปเสียแล้ว!. วสวัตติ์ โอดทวี

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แนะแก้ปมให้ถูกรับมือเออีซี… – เออีซีกับม.หอการค้าไทย

‘จีน’ ขาช้อป – ลูกเล่น/ลีลา

เพราะจำนวนคนกว่า 1,400 ล้านคน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้จีน เป็นตลาดหลักที่ใครต่อใครก็ต้องการ แม้แต่ยุโรป ที่กำลังมีจีนเป็นลูกค้าหลักในฐานะขาช้อปกระเป๋าหนักที่พร้อมจะซื้อสินค้าแบรนด์เนมแบบนอนสต๊อป และไทยเองก็ช่วงชิงส่วนแบ่งในฐานะขวัญใจอันดับต้น ๆ ของคนจีนเพราะไม่เพียงมีอาหารที่ถูกปากแต่ยังมีแบรนด์เนมให้ช้อปเต็มที่ แม้จะราคาสูงกว่าบ้างแต่ด้วยระยะทางและค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า จึงทำให้กลายเป็นตัวเลือกแรกได้ไม่ยากในวันที่จีนมีปัญหากับญี่ปุ่นและห้ามคนในประเทศเดินทางไป แต่ใช่ว่ารัฐบาลจีนจะนิ่งเฉยกับการไหลออกของเม็ดเงินเหล่านั้น นโยบายควบคุมการชอปปิงของนักท่องเที่ยวมือเติบชาวจีน ประเทศที่เป็นเจ้าตำรับนักก๊อบของโลก ที่กำหนดให้ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมกลับมาถือให้สะใจเพียงแค่คนละ 2 ใบจึงถูกเข็นออกมา แต่ยังไม่เข้มงวดถึงมูลค่าของสินค้าดังนั้นจะซื้อหลุยส์วิตตอง แอร์เมส หรือกุชชี่ ก็ไม่มีใครว่าแล้วแต่ทุนทรัพย์ ขณะที่รูปแบบของทัวร์ที่นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักจะเลือกซื้อนั้น มีให้เลือกทั้งแบบที่พาเข้าร้านชอปปิงแบบไม่มีพลาดเลยสักอย่างกับราคาทัวร์ที่ถูกกว่าครึ่ง หรือซื้อทัวร์แพงอีกเท่าตัวแล้วไม่ต้องเข้าร้านช้อป นักท่องเที่ยวจะต้องเลือกว่าจะไปทัวร์แบบไหน และบริษัททัวร์เองก็ต้องแจ้งให้ลูกค้ารู้ด้วยว่า ถ้าจะไปทัวร์ถูกก็ต้องซื้อของ แต่ก่อนเราอาจจะไม่ได้ว่าอะไรแค่เข้าไปเดินเฉย ๆ ซื้อไม่ซื้อไม่ว่ากัน แต่เดี๋ยวนี้รัฐบาลซึ่งเป็นคนจ่ายเงินสนับสนุนให้ทัวร์ถูกมีข้อแม้ว่าลูกค้าก็ต้องซื้อของกลับไปด้วย เพราะถ้าให้เงินสนับสนุนแล้วไม่ได้อะไรตอบแทนมาก็อยู่ไม่ได้ ทัวร์คนจีนที่ไปเที่ยวเมืองนอกก็เหมือนกันŽ เกรียงไกร ไกด์ชาวจีน บอกเล่า นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางออกนอกประเทศ จึงมีการจำกัดวงเงินที่จะนำไปใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง แม้ว่าวันนี้คนจีนจะมีบัตรเครดิตไว้ให้ใช้จ่ายเหมือนชนชาติอื่น ๆ ทั่วโลก แต่เพราะเป็นบัตรเครดิตที่เป็นเครือข่ายอย่างไชน่ายูเนี่ยนเพย์ยังมีข้อจำกัดสำหรับในบางประเทศ โดยอยู่ระหว่างการขยายเครือข่ายเพราะมีลูกค้าใช้บริการถึงกว่า 760 ล้านใบ ขณะที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศปีละกว่า 100 ล้านคน แม้ดูเหมือนจะควักเงินออกจากกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวจีนได้ยากขึ้นกว่าเดิม แต่หลายประเทศก็ยังพร้อมที่จะเข้ามามีส่วนแบ่งในเค้กก้อนโตชิ้นนี้ อยู่ที่ว่าใครจะแย่งชิงได้มากเท่าไหร่ แต่หากอาเซียนจับมือกันอย่างเหนียวแน่นแล้วแบ่งปันกันอย่างพอเพียง เค้กชิ้นนี้ก็คงจะไม่ไปไหนเสีย.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘จีน’ ขาช้อป – ลูกเล่น/ลีลา

Page 1402 of 1552:« First« 1399 1400 1401 1402 1403 1404 1405 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file