shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

กรมขนส่งชี้รถยนต์ 10 ล้านคันไม่ต่อภาษี

นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ตอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า สถิติรถที่จดทะเบียนสะสม ณ วันที่ 31 ส.ค.57มีทั้งสิ้น 35,5 ล้านคันในจำนวนนี้มีรถที่ไม่ชำระภาษีประจำปีตามกำหนด จนต้องชำระค่าปรับตามกฎหมายถึง 10,6 ล้านคัน หรือคิดเป็น 30% ของรถทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ 8.56 ล้านคัน รองลงมาเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7คน 938,097 คันและรถบรรทุกส่วนบุคคล 842,618 คันส่วนรถที่ชำระภาษีประจำปีตามกำหนดมีประมาณ 24.9 ล้านคัน หรือคิดเป็น 70%ทั้งนี้สาเหตุที่เจ้าของรถไม่ชำระภาษีประจำปีตามกำหนด มาจากการหยุดใช้และไม่ได้แจ้งการหยุดใช้รถตามระเบียบ ซึ่งทำให้เจ้าของรถยังคงมีภาระค้างชำระภาษีและค่าปรับที่สำคัญหากไม่ชำระภาษีรถครบ 3 ปี ทะเบียนจะถูกระงับทันที ดังนั้นหากเจ้าของรถรายใดมีความจำเป็นต้องหยุดใช้รถ เช่นรถอยู่ระหว่างการซ่อมหรือเลิกใช้แล้ว ขอให้ติดต่อแจ้งการไม่ใช้รถ ณสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ“หลักฐานที่ใช้แจ้งมีคู่มือที่ใช้จดทะเบียนรถได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แผ่นป้ายทะเบียนรถ และ แบบคำขอแจ้งการไม่ใช้รถและเมื่อเจ้าของรถมีความประสงค์ขอใช้รถต่อก็สามารถดำเนินการแจ้งใช้รถดังกล่าวได้โดยใช้หลักฐานคู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แผ่นป้ายทะเบียนรถแบบคำขอแจ้งใช้รถที่แจ้งไม่ใช้รถไว้ และหลักฐาน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กรมขนส่งชี้รถยนต์ 10 ล้านคันไม่ต่อภาษี

Posts related

 














พาณิชย์ดึงเอกชนคุมราคาสินค้า

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะรมว.พาณิชย์กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ว่าได้มอบนโยบายการทำงานให้กระทรวงพาณิชย์โดยขอให้ปรับวิธีการทำงานแบบสั่งการเป็นผู้ให้การสนับสนุนภาคเอกชนและประสานการทำงานกันมากขึ้นโดยจะต้องทำงานประสานตั้งแต่ระดับกระทรวงต่อกระทรวง หน่วยงานรัฐบาลด้วยกันเอง และราชการกับภาคเอกชนซึ่งต่อไปการทำงานจะมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมในการกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกันมากขึ้นโดยจะมีการประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชนให้ได้เป็นประจำทุกเดือนทั้งนี้แนวทางการร่วมมือทำงานกับภาคเอกชนได้ดำเนินการแล้วในส่วนของการดูแลภาวะค่าครองชีพโดยได้หารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและจะหารือเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรมต่อไป โดยได้ข้อสรุปที่จะช่วยกันดูแลราคาสินค้าแต่หากจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ก็ต้องมีเหตุมีผลชัดเจนและตอบได้ว่ามีต้นทุนเพิ่มจากอะไรและขึ้นเท่าไรถึงจะรับได้ทั้งฝ่ายผู้ผลิตและผู้บริโภคแต่ในภาพรวมผู้ประกอบการยังให้ความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้าเพราะต้นทุนยังไม่เพิ่ม หรือหากจะมีการปรับราคาพลังงานก็ยังต้องมีการประเมินต้นทุนในภาพรวมก่อนส่วนการมอบนโยบายการทำงานให้กับกรมการค้าภายในได้เน้นย้ำให้เน้นสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่ายดูแลราคาสินค้าให้เป็นไปตามกลไกตลาดและป้องกันการฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าเอาเปรียบผู้บริโภค พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า กำลังจะดึงเอกชนมาร่วมทำงานกับกระทรวงพาณิชย์โดยได้นัดประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์)ในเดือนต.ค. 57 ก็จะให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมประชุมด้วยเพื่อร่วมกันประเมินแนวโน้มและทิศทางการค้าโลก แนวโน้มการส่งออกในปี 58 ว่าจะเป็นไปในทิศทางใดและจะมีมาตรการในการผลักดันการส่งออกอย่างไร โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันรับรู้ร่วมกัน“ต่อไปนี้ อะไรที่เป็นปัญหาอุปสรรค ที่ภาคเอกชนประสบอยู่ ก็ขอให้มาบอกอะไรที่แก้ไขได้ในระดับของกระทรวงพาณิชย์เอง ก็จะแก้ไขให้ จะทำเลย แต่ถ้าทำไม่ได้ก็จะนำเสนอเข้า ครม. เพื่อสั่งการให้แก้ไขต่อไป”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์ดึงเอกชนคุมราคาสินค้า

ดัน 4 ยุทธศาสตร์แก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน

รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการค้าภายในได้เสนอยุทธศาสตร์ งานเร่งด่วนภายใน 1 ปีในการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน 4 แผนงานให้รมว.พาณิชย์ได้พิจารณาเพื่อคืนความสุขให้ประชาชนได้ซื้อสินค้าในราคาไม่แพงประกอบด้วยการตรึงราคาสินค้าโดยการขอความร่วมมือผู้ผลิตผู้จำหน่ายสินค้าตรึงราคาสินค้าหรือปรับราคาสูงขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น, ติดตามดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพด้วยการตรวจสอบราคาจำหน่ายต้นทาง กลางทางและปลายทาง, ติดตามดูแลต้นทุนสินค้าอุปโภคบริโภคด้วยการตรวจสอบราคาวัตถุดิบและต้นทุนการผลิตการจำหน่าย และ จัดตั้งศูนย์ข้อมูลและประชาสัมพันธ์ เพื่อเผยแพร่ให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบ“หากยุทธศาสตร์ดังกล่าวประสบผลสำเร็จก็จะทำให้ราคาสินค้าเหมาะสมและเป็นธรรมสอดคล้องกับต้นทุนอัตราเงินเฟ้อไม่สูงกว่า 2.0-2.8% และประชาชนซื้อสินค้าในราคาถูกมีรายได้คงเหลือเพิ่มขึ้นและปริมาณสินค้ามีเพียงพอกับความต้องการ”สำหรับการดูแลราคาสินค้าเกษตร เช่น สินค้าข้าวยังคงเดินหน้าลดต้นทุนปัจจัยการผลิตและบริการ เป้าหมายลดต้นทุนลงไร่ละ 110 บาทด้านการตลาดให้ชดเชยดอกเบี้ยให้โรงสีเพื่อเก็บสต็อกข้าวปริมาณ 2 ล้านตัน เพื่อดึงอุปทานส่วนเกินออกจากตลาดซึ่งจะทำให้เกษตรกรขายข้าวได้เพิ่มขึ้นตันละ 100-200 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ารวมเพิ่มขึ้น 200-400ล้านบาทนอกจากนี้จะสนับสนุนการจัดตลาดนัดข้าวเปลือกจังหวัดละ 1-5 ครั้งใน56 จังหวัด รวม 240ครั้งช่วงต.ค.57-ก.พ. 58คาดว่าจะดันราคาให้เพิ่มขึ้นอีกตันละ200-500 บาททำให้ชาวนามีรายได้เพิ่มรายละ 3,600-9,000 บาท (เฉลี่ยรายละ 18 ตัน) พร้อมทั้งมีการจัดประชุมเพื่อชี้แจงให้ชาวนาเข้าใจนโยบายของรัฐบาลและระบบตลาดจังหวัดละ1-2 ครั้งใน 56จังหวัด

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ดัน 4 ยุทธศาสตร์แก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน

Page 153 of 1552:« First« 150 151 152 153 154 155 156 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file