shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

รมว.คลังเร่งปรับปรุง-ฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจ

นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้ให้นโยบายการพัฒนา และเร่งปรับปรุงระบบบริหารรัฐวิสาหกิจ และเร่งฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจที่ประสบปัญหา โดยต้องจัดทำยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน รวมทั้งกำหนดบทบาท และทิศทางการดำเนินงาน พัฒนากลไกการกำกับดูแลที่เข้มแข็ง ให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยเฉพาะจัดหากรรมการรัฐวิสาหกิจที่เหมาะสมมาบริหารความเสี่ยงและมีการประเมินผลที่มีประสิทธิภาพทั้งนี้จะต้องเร่งแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจที่มีปัญหาด้านการเงิน ซึ่งปัจจุบันมี 7 แห่งได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.), บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), บริษัท กสทโทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) , ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) , ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการบินไทย ที่ประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่องนั้น หลัก ๆ เกิดจากคณะกรรมการบริหาร และผู้บริหารที่เอาแต่ใจ ไม่มีประสิทธิภาพ ก็ต้องไปแก้ปัญหาในจุดนั้นต้องสรรหาคนใหม่ที่มีประสิทธิภาพ และมีความรู้ความสามารถมากกว่าเข้ามาบริหารงานแทนเพราะหากมอบภาพรวมของการบินไทยที่ถือเป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่และสำคัญของประเทศยังมีประสิทธิภาพที่จะทำธุรกิจต่อไปได้ดังนั้นยืนยันได้ว่าการบินไทยจะต้องอยู่รอดในการทำธุรกิจนอกจากนี้ยังต้องปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารข้าราชการกระทรวงการคลังมากขึ้น หลังจากที่ก่อนข้าราชการคลังส่วนใหญ่ ได้รับผลกระทบจากการแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานในหลาย ๆ ส่วนจึงต้องมีแนวทางในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับข้าราชการกระทรวงการคลัง เพื่อให้การทำงานกลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง“ต่อไปจะต้องให้ความสำคัญกับทุกหน้าที่ทุกส่วนในกระทรวงการคลัง ต้องดูแลข้าราชการที่ได้รับความบอบช้ำจากปัญหาการเมืองโดยใช้ระบบคุณธรรมเข้ามา และจะต้องให้ความสำคัญกับคนหนุ่มมากขึ้นโดยอาจผลักดันให้ขึ้นมานั่งเป็นอธิบดีกรมต่าง ๆ”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : รมว.คลังเร่งปรับปรุง-ฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจ

Posts related

 














แก้ปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน

นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ตอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เห็นชอบให้ผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุกไม่ประจำทางที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของ(รถ 70) จะต้องจัดทำใบกำกับการขนส่ง โดยระบุชนิด น้ำหนัก และจุดส่งสินค้า เพื่อเตรียมให้หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องใช้ตรวจสอบความถูกต้องโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 57 เป็นต้นไป ทั้งนี้หากผู้ประกอบการขนส่งฝ่าฝืน ไม่จัดทำใบกำกับการขนส่งให้ถูกต้องครบถ้วนจะมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ข้อหาความผิดตามมาตรา 34ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนด และมีบทลงโทษตามมาตรา 131มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนรูปแบบใบกำกับการขนส่ง หลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติจะแจ้งให้ผู้ประกอบการขนส่งได้ปฏิบัติอย่างถูกต้องละเอียดอีกครั้งต่อไป “การจัดทำใบกำกับขนส่งรถบรรทุกถือเป็นไปตามนโยบายพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เพื่อแก้ปัญหารถบรรทุกไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการขนส่งทั้งการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การไม่ตรวจสอบสินค้าและควบคุมการบรรทุกจนเป็นสาเหตุของปัญหาอุบัติเหตุ อาชญากรรม การบรรทุกยาเสพติดให้โทษ ที่สำคัญยังเป็นการทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งถนนและสะพาน ให้เกิดความเสียหายก่อนกำหนดด้วย” ในส่วนผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกส่วนบุคคล(รถ 80) กรมฯ ได้กำหนดมาตรการป้องกันการบรรทุกน้ำหนักเกินไว้ในร่างกฎกระทรวงกำหนดเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคลพ.ศ. …. ด้วยเช่นกัน ซึ่งอยู่ระหว่างนำเสนอให้กระทรวงคมนาคมเห็นชอบเพื่อประกาศใช้ต่อไป นอกจากนี้กรมฯ ได้กำชับให้สำนักงานขนส่งทุกแห่งประชุมหารือผู้ประกอบการขนส่งเพื่อทำความเข้าใจในระเบียบปฏิบัติและเข้มงวดตรวจสอบสมรรถนะของรถและคนขับรถอย่างต่อเนื่องรวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสภาพรถและคนขับรถบรรทุกสินค้าในขณะปฏิบัติหน้าที่บนถนนสายหลักและสายรองให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดและในอนาคตมีนโยบายที่จะออกกฎหมายเอาผิดเจ้าของสินค้าที่มีส่วนทำให้เกิดการบรรทุกน้ำหนักเกินด้วย โดยหากประชาชนพบเห็นรถบรรทุก ไม่ปลอดภัยหรือคนขับรถไม่อยู่ในสภาพ แจ้งได้ที่โทรศัพท์ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง   

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แก้ปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน

“หม่อมอุ๋ย”เดินหน้านโยบายเศรษฐกิจ

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจ 6 ข้อ ที่ได้แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยจะเร่งเรื่องของการสร้างงานในระดับรากหญ้าให้เห็นผลสำเร็จภายใน3 เดือนจากนี้ ขณะเดียวกัน ด้านการลงทุนยังต้องเร่งพิจารณาคำขอส่งเสริมการลงทุนของเอกชนที่เสนอผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ควบคู่กัน ซึ่งแนวทางทั้งหมดจะจัดทำออกมาเป็นแผนที่ชัดเจน และจะชี้แจงในเร็วๆนี้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะที่ผ่านมาก็ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการมาแล้วหลายครั้งสำหรับนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลแถลงต่อสนช.ได้กำหนดนโยบายระยะเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทันที 6 ข้อคือ เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของปีงบประมาณ 57 ที่ยังค้างอยู่ภายในสิ้นปีนี้, สานต่อนโยบายงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดทำไว้,เร่งพิจารณาโครงการลงทุนที่นักลงทุนยื่นขอผ่านบีโอไอ ,ดูแลเกษตรกรให้มีรายได้ที่เหมาะสมด้วยวิธีการต่างๆ,ลดอุปสรรคด้านการส่งออก และหาแนวทางชักจูงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นทั้งนี้ในแผนงานระยะยาว สิ่งที่เป็นเรื่องที่ยากที่สุด และเป็นเรื่องใหม่คือ การส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิทัล และวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล ให้สำเร็จภายใน 1 ปี เพราะปัจจุบันเรื่องดังกล่าวมีความสำคัญมากและเป็นฐานให้ภาคเศรษฐกิจอื่นขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น ภาคการเงินก็ต้องใช้ระบบดิจิทัลในการทำธุรกรรมทางการเงินหรือภาคอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ก็ต้องพึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมาประเทศไทยคิดเรื่องดังกล่าวช้าไปหากเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมานาน“เรื่องเร่งด่วนจะต้องทำให้ลุล่วงใน 3 เดือนนี้ เพราะจะเป็นตัวที่ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโตจากนั้นในระยะต่อไปก็เร่งเรื่องที่ค้างมา เช่น โครงสร้างราคาน้ำมัน ภาษีหรือปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมเกษตร และสุดท้ายคือวางรากฐานอนาคต ใช้เวลานานอันไหนที่ทำได้ก็ทำเป็นฐานไว้เลย เช่น โครงการคมนาคมที่ใช้เวลาหลายปี และที่ยากที่สุดคือเศรษฐกิจดิจิทัลซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ซอฟแวร์ และฮาร์ดแวร์ หรือเครื่องโทรศัพท์ จึงต้องเร่งสร้างฐานดังกล่าวรองรับการขยายตัวในอนาคต”ส่วนเป้าหมายเศรษฐกิจในปี 57 นี้ แม้ว่าที่ผ่านมา คสช.จะกำหนดเป้าหมายให้เศรษฐกิจเติบโตที่2% นั้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นว่าตัวเลขเหล่านี้มีความสำคัญเพราะเรื่องสำคัญคือการเร่งสร้างงานให้เร็วขึ้นใน 3 เดือนนี้ ส่วนเรื่องของส่งออก รัฐบาลก็กำหนดนโยบายการแก้ไขอุปสรรคให้เกิดความสะดวกกับเอกชนเพราะเรื่องดังกล่าวหากจะไปแก้ไขจากภายนอกไม่ได้ ซึ่งหากแผนทั้งหมดชัดเจนจะชี้แจงอีกครั้งและเสนอครม.พิจารณาด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “หม่อมอุ๋ย”เดินหน้านโยบายเศรษฐกิจ

Page 195 of 1552:« First« 192 193 194 195 196 197 198 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file