shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ปิดตลาดภาคเช้าลบ 11.69 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ (10 ต.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก หลังจากดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงอย่างหนัก ก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรป หลังจากเยอรมันประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ส.ค. ออกมาแย่กว่าคาดไว้ติดต่อกัน ประกอบกับปัจจัยในประเทศยังไร้แรงสนับสนุนใหม่เข้าผลักดัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,548.92จุด ลดลง 11.69 จุด หรือ 0.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18,174.17 ล้านบาท 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ปิดตลาดภาคเช้าลบ 11.69 จุด

Posts related

 














ปิ๊งไอเดียดึงเงินนอกงบประมาณเข้าคลัง

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มีแนวคิดนำเงินนอกงบประมาณจากกองทุนของส่วนราชการ ที่มีอยู่กว่าหลายร้อยแห่ง และเงินจากมูลนิธิ องค์กรที่ฝั่งอยู่ตามกระทรวงต่าง ๆ ให้เข้าระบบเงินคงคลัง โดยขณะนี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กำลังเข้าไปตรวจสอบ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ามีการบริหารจนเกิดผลกำไรจำนวนมาก แต่ไม่ได้นำรายได้ส่วนนั้นส่งเข้าคลังให้เป็นรายได้แผ่นดิน รวมถึง แนวคิดบริหารเงินคงคลังที่ยังเหลืออีก 400,000 ล้านบาท ว่านำไปใช้บริหารอย่างไรให้มีรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ฝากไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แบบไม่มีผลตอบแทน ให้สามารถบริหารเหมือนกับต่างประเทศที่นำเงินส่วนนี้ไปบริหารให้เกิดดอกผล ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทย ปี 58 ยังจำเป็นต้องพึ่งพาการใช้จ่ายภาครัฐ เพื่อชดเชยภาคการส่งออก การนำเข้า และการลงทุนของภาคเอกชนที่ชะลอตัวต่อเนื่อง จากปี 57 ซึ่งจากการหารือร่วมกับกรมบัญชีกลาง ยืนยันว่ากระทรวงการคลัง ยังมีเงินงบประมาณ เหลือเพียงพอที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ บางส่วนอยู่ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่นการเร่งเบิกจ่ายงบเหลื่อมปี 80,000 ล้านบาท และการใช้งบจากโครงการไทยเข้มแข็งอีกกว่า 15,000 ล้านบาท ช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 58 สำหรับการขยายตัวเศรษฐกิจไทย ปี 57 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.7% ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 2% เนื่องจากภาคการส่งออกไม่ฟื้นตัว โดยเดือน ส.ค.ขยายตัวติดลบ 7% ขณะที่ภาคการนำเข้า ขยายตัวติดลบ 12% เช่นกัน ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ 3 เดือน เช่น การจ่ายเงินชาวนา 1,000 บาทต่อไร่ และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนกว่า 300,000 ล้านบาท จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ 5 แห่ง ที่จะต้องมาพิจารณาว่าจะส่งผลต่อการขยายตัวในช่วงที่เหลือเพิ่มขึ้นอย่างไร นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ยังเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างภาษี เพื่อนำรายได้มาชดเชยรายได้นั้น ซึ่งได้ศึกษาไว้แล้ว แต่ต้องรอนโยบายรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จาก 7% เป็น 10% นั้น ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาให้รอบคอบว่ามีความจำเป็นต้องปรับขึ้นหรือไม่ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ เบื้องต้นมองว่าหากรัฐหารายได้ไม่เพียงพอต่อการจัดตั้งงบประมาณ และอาจต้องกู้เงินเพิ่มขึ้น ทำให้เป็นงบประมาณขาดดุลทุกปี ส่งผลต่อหนี้สาธารณะที่จะเพิ่มสูงขึ้น ก็คงต้องปรับขึ้นอัตราภาษีอย่างแน่นอน ซึ่งประเมินว่าทุก 1% ที่ปรับขึ้น จะมีได้รายได้เพิ่มขึ้น 50,000-60,000 ล้านบาท แต่จะไม่ได้ส่งผลต่อประชาชนมากนัก 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ปิ๊งไอเดียดึงเงินนอกงบประมาณเข้าคลัง

อคส.ช็อค!สต๊อกมันสำปะหลังล่องหน

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสต็อกมันสำปะหลังที่เก็บไว้ในโกดังต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสต็อกมันฯ ที่คงเหลืออยู่ปริมาณ 497,000 ตัน  ว่ามีสินค้าคุณภาพดีและเสียจำนวนเท่าไร  เพื่อให้เกิดความชัดเจน และจะได้รับดำเนินการขายต่อ เพราะหากเก็บไว้ก็จะเป็นภาระในการจ่ายค่าเช่าโกดังต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในการตรวจสอบ พบว่า มีบางโกดังที่มีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้น โดยที่ราชบุรีและอยุธยา มีการนำกระสอบขนาดใหญ่บรรจุแกลบแล้วนำไปวางไว้ด้านในหลายชั้น และนำมันเส้นมาวางกองปิดทับไว้ด้านนอก เพื่อให้ดูเหมือนว่าของยังอยู่ครบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว และกำลังตรวจสอบอยู่ว่ามันเส้นที่หายไปนั้นมีปริมาณเท่าไร คาดว่าน่าจะเป็นหลักหมื่นตัน และจะได้มีการฟ้องร้องทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป “สต็อกมันสำปะหลังทั้งหมด คาดว่า จะมีความเสียหายและสูญหายอีกเป็นจำนวนมาก เพราะในการเก็บสต็อกมันฯ ไม่เหมือนกับการเก็บข้าวสาร ที่มีผู้ถือกุญแจหลายคน การเปิดโกดังทำได้ยาก แต่มันฯ เจ้าของโกดังจะเป็นผู้ถือกุญแจเพียงคนเดียว เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเข้าไปพลิกกอง จึงอาจมีบางโกดังที่ฉวยโอกาสเอาของออกไปขายก่อนในช่วงที่ราคามันฯแพง  หรือบางโกดังที่ไม่ใส่ใจที่จะเข้าไปดูแล ทำให้ของเสียหาย ส่วนการเอาผิด ผู้ที่จะต้องรับผิดชอบ ก็คือ เจ้าของโกดัง และเซอร์เวเยอร์ ที่ตรวจสอบคุณภาพ”    ขณะเดียวกันก็ยังพบว่า  อคส. ได้มีการตรวจสอบสต็อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เก็บไว้ในโกดังต่างๆ ด้วย โดยกำลังติดตามข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เก็บไว้ในโกดัง จ.ตาก แต่ยังไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่ขนของออกมาได้ โดยเจ้าของโกดังอ้างว่าได้ให้เช่าช่วง จึงไม่มีอำนาจในการเปิดโกดัง ซึ่งเมื่อ อคส. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปอีก ก็พาพวกออกมาล้อม ถึงขั้นมีการข่มขู่และพกปืนมาด้วย แต่เมื่อนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วย ก็ยอมเปิดทาง แต่ก็ไม่สามารถขนข้าวโพดออกมาได้ เพราะไม่มีรถขนรายใดมาช่วยขนให้ เนื่องจากกลัวอิทธิพลของเจ้าของโกดัง “ข้าวโพดที่เก็บไว้ในโกดัง ที่ จ.ตากนี้ อคส. สงสัยว่ามีการลักลอบเอาข้าวโพดไปขาย เพราะจะขนของออก เมื่อพาเจ้าหน้าที่ไปช่วยในการขนสินค้าในโกดัง ก็พบว่าก็หารถตัก หารถบรรทุกมาขนไม่ได้ เมื่อสอบถามก็ได้ความว่ากลัวอิทธิพลของเจ้าของโกดัง เลยไม่มีใครยอมรับงาน ที่สำคัญ ตอนนี้ ทางเจ้าของโกดัง ก็ยังมีการฟ้องร้องกับ อคส. อยู่ และ อคส. ก็ฟ้องร้องด้วยเช่นกัน ซึ่งศาลกำลังอยู่ระหว่างการตัดสิน”        นางจินตนา ชัยยวรรณาการ ประธานคณะกรรมการ อคส. กล่าวว่า บอร์ดได้สั่งการให้ อคส. ไปตรวจสอบมันสำปะหลังในสต็อกจริง โดยให้ตรวจให้ชัดเจนว่ามีมันสำปะหลังที่มีคุณภาพดีเท่าไร และเสียหายเท่าไร เพื่อสรุปให้ชัด ก่อนที่จะดำเนินการขายต่อไป แต่ในส่วนที่พบการทุจริตเกิดขึ้น ให้ตั้งกรรมการตรวจสอบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด และให้มีการดำเนินคดีทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด ทั้งทางแพ่งและอาญา   

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : อคส.ช็อค!สต๊อกมันสำปะหลังล่องหน

Page 90 of 1552:« First« 87 88 89 90 91 92 93 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file